พิมพ์

[raponsan]

เตือนสำนักปฏิบัติธรรม ทำตามระเบียบ มส.

สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เตือนสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด ถูกยุบได้ หากไม่ปฏิบัติตามระเบียบมหาเถรฯ สอนบิดเบือนจากพระไตรปิฎก ขณะที่ พศ.เตรียมดึงสำนักปฏิบัติธรรมเข้าระบบเพิ่ม หวังติดตามตรวจสอบง่ายขึ้น

วันนี้ (27ก.ย.) ที่วัดพิชยญาติการาม สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ในฐานะประธานศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวในการประชุมประธานกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาประจำจังหวัด และ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)ในการจัดทำแผนแม่บทการเผยแผ่พระพุทธศาสนา พ.ศ.2560-2564 ว่า มส.ได้ออกระเบียบว่าด้วยการจัดตั้งสำนักปฏิบัติธรรมใหม่มาตั้งแต่ปี 2558 ทดแทนฉบับเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2543 ซึ่งทำให้มีการประเมินผล วัดประสิทธิภาพของสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด และหากสำนักปฏิบัติธรรมไม่สามารถรักษาประสิทธิภาพ ทำให้การเผยแผ่พระพุทธศาสนาขาดประสิทธิผล หรือ ไม่ผ่านการประเมิน ก็สามารถที่จะยุบ ยกเลิกสำนักปฏิบัติธรรมได้ โดยเจ้าคณะจังหวัด ในฐานะประธานกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาประจำจังหวัดมีอำนาจเสนอ มส.สั่งพัก และยุบเลิกสำนักปฏิบัติธรรมที่ไม่มีมาตรฐานนั้น
 
 

สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ กล่าวต่อไปว่า หากสำนักปฏิบัติธรรมไหน มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ เจ้าสำนักปฏิบัติธรรมก็สามารถได้รับการยกย่องเป็นพระอุปัชฌาย์ ทั้งนี้ หากสำนักปฏิบัติธรรมฯไม่มีผลงาน และได้รับการยกย่อง จะทำให้เกิดข้อครหาได้ ดังนั้น  การจัดประชุมครั้งนี้ เป็นการชี้แจงระเบียบ ข้อปฏิบัติ วิธีการไม่ให้เกิดข้อบกพร่องของสำนักปฏิบัติธรรมฯจนทำให้ถูกยุบได้ ไม่ว่าจะเป็น การขาดพระวิปัสนาจารย์ ไม่มีสอนกรรมฐาน สอนบิดเบือนไม่ตรงตามพระไตรปิฎก เป็นต้น นอกจากนี้ขอฝากนโยบายเจ้าคณะจังหวัด และ พศ.ว่า เมื่อจัดประชุมประธานฯแล้วก็ให้มีการจัดประชุมเจ้าสำนักปฏิบัติธรรมฯทั่วประเทศด้วย.

นายชยพล พงษ์สีดา รอง ผอ.พศ. กล่าวว่า สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด ที่ถูกต้องจะต้องตั้งตามระเบียบ มส. ซึ่งหลายแห่งตั้งสำนักปฏิบัติธรรมทั่วไปขึ้นมาโดยไม่เข้าหลักเกณฑ์และระเบียบ มส. บางแห่งขึ้นป้ายสำนักปฏิบัติธรรม แต่ไม่มีการจัดกิจกรรมปฏิบัติธรรมตามหลักสติปัฏฐาน 4อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง ไม่มีพระวิปัสนาจารย์ ดังนั้น ขอให้เจ้าคณะจังหวัดอนุมัติการตั้งสำนักปฏิบัติธรรมตามหลักเกณฑ์และระเบียบที่มส.วางไว้ โดยต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการถูกยุบ เลิก ทั้งนี้ ปัจจุบันมีสำนักปฏิบัติธรรมที่ขึ้นทะเบียนกับพศ. แล้วจำนวน 1,538 แห่ง โดยในปี 2560 พศ.จะดึงสำนักปฏิบัติธรรมที่ไม่ขึ้นทะเบียนมาเข้าสู่ระบบ เพื่อติดตาม ตรวจสอบได้ง่ายขึ้น.

ขอบคุณข่าวจาก : http://www.dailynews.co.th/education/526574