ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เจ้าคุณเทอด วัดสระเกศฯ อธิบายบทสวดพระพิธีธรรม พิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ  (อ่าน 1334 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29297
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


เจ้าคุณเทอด วัดสระเกศฯ อธิบายบทสวดพระพิธีธรรม พิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ

"เจ้าคุณเทอด" ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ อธิบายบทสวดพระพิธีธรรม ในพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบรมศพ "ในหลวง ร.9" เผยว่า แท้จริงแล้ว พระอภิธรรม เรียกให้เต็มว่า "พระอภิธรรมปิฎก" มีเนื้อความพระอภิธรรมทั้งสิ้น 7 หมวด

เมื่อวันที่ 19 ต.ค. 59 พระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เปิดเผยว่า พระอภิธรรม เรียกให้เต็มว่า พระอภิธรรมปิฎก เป็น 1 ใน 3 แห่งพระไตรปิฎก ได้แก่ พระวินัยปิฎก พระสุตตันตปิฎก และพระอภิธรรมปิฎก “พระอภิธรรมปิฎก” คัมภีร์ที่บันทึกหัวข้อธรรมที่แสดงสภาวะความจริงอันสูงสุดของธรรมชาติล้วนๆ หมายถึง ความจริงอันสูงสุดของนาม คือ จิตและเจตสิก สิ่งปรุงแต่งจิต ความจริงอันสูงสุดของรูป เป็นเหตุแห่งสุขและทุกข์ อันเกิดจากตัณหา อุปาทาน และความจริงอันสูงสุดของนิพพาน ซึ่งเป็นธรรมอันประเสริฐ ธรรมอันยิ่ง ธรรมที่แท้จริง ไม่เจือด้วยสมมติ พ้นจากความสุขและทุกข์ อันปัจจัยปรุงแต่ง เป็นความสุขอันเกิดจากความสงบระงับ

เนื้อความในพระอภิธรรม เป็นปรมัตถธรรมล้วนๆ พระพุทธเจ้ารู้พระอภิธรรม อันประณีต ละเอียด ลึกซึ้งด้วยพระปัญญาอันเกิดจากกำลังสมาธิ และทรงเลือกพระอภิธรรมนี้ ไปแสดงโปรดพระพุทธมารดา บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ใช้เวลาเทศนาอยู่ 1 พรรษา ส่วนพระพุทธมารดา เมื่อฟังเทศนากัณฑ์นี้จบลง ก็ได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคล ขั้นพระโสดาบัน ในวันที่พระพุทธองค์ เสด็จกลับจากจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้น มีประชาชนมารอรับเสด็จเป็นจำนวนมาก จึงเกิดประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ หลังออกพรรษา มาจนถึงปัจจุบัน เหตุที่พระอภิธรรม ดูเหมือนมีเนื้อความประณีต ละเอียด ลึกซึ้ง เข้าใจยากสำหรับคนทั่วไป ก็เพราะเป็นธรรมที่จะต้องใช้สภาวจิตที่ละเอียดประณีต อันเกิดจากความสงบ คือ ต้องใช้กำลังสมาธิสูง เพ่งพินิจพิจารณา จึงจะเห็นความจริงและเข้าใจได้ การทำสมาธิกำหนดสภาวะจิตให้สงบนิ่งยากแค่ไหน การทำความเข้าใจหัวข้อธรรมในพระอภิธรรม ก็ยากยิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่า เนื้อความพระอภิธรรม มี 7 หมวด คือ
      1. ธัมมสังคณี 2. วิภังค์ 3. ธาตุกถา
      4. ปุคคลบัญญัติ 5. กถาวัตถุ
      6. ยมก 7. ปัฏฐาน เรียกว่า “พระอภิธรรม 7 คัมภีร์” รวมเนื้อความพระอภิธรรมทั้ง 7 คัมภีร์แล้ว พูดถึงความจริงสูงสุด 4 เรื่อง คือ จิต เจตสิก รูป และนิพพาน ดังนี้


 :25: :25: :25: :25:

คัมภีร์ที่ 1 ธัมมสังคณี เป็นคัมภีร์ที่รวบรวมหัวข้อปรมัตถธรรมทั้งหมดไว้เป็นหมวดหมู่ คัมภีร์ที่ 2 วิภังค์ เป็นคัมภีร์ที่แจกแจง หรือกระจายปรมัตถธรรม ออกไปเป็นขันธ์ 5 อายตนะ 12 ธาตุ 18 อินทรีย์ 22 สัจจะ 4 ปฏิจจสมุปบาท เป็นต้น คัมภีร์ที่ 3 ธาตุกถา เป็นคัมภีร์ที่แสดงปรมัตถธรรม ด้วยบทมาติกา โดยสงเคราะห์เข้ากันได้ และสงเคราะห์เข้ากันไม่ได้ เป็นต้น คัมภีร์ที่ 4 ปุคคลบัญญัติ เป็นคัมภีร์ ที่แสดงบทปรมัตถธรรม โดยบัญญัติ 6 ประการ ซึ่งยกบุคคลขึ้นแสดงเป็นหลัก คัมภีร์ที่ 5 กถาวัตถุ เป็นคัมภีร์ที่แสดงพระอภิธรรมขึ้นโต้ตอบ โดยทำนองปุจฉาวิสัชนาเป็นเรื่องๆ มีอยู่ 1,000 เรื่อง เป็นสกวาทะ 500 เรื่อง ปรวาทะ 500 เรื่อง คัมภีร์ที่ 6 ยมก เป็นคัมภีร์ที่ยกปรมัตถธรรมขึ้นแสดงเป็นคู่ๆ มีอนุโลมปุจฉา และปฏิโลมปุจฉา เป็นต้น คัมภีร์ที่ 7 ปัฏฐาน เป็นคัมภีร์ ที่แสดงปัจจัย 24 โดยยกปรมัตถธรรมที่อยู่ในบทมาติกาติก มาอธิบายอย่างพิสดาร พระพิธีธรรมจะใช้พระอภิธรรม 7 คัมภีร์ นี้ เป็นแม่บทของการสวดพระอภิธรรม

นอกจากนี้ ยังนิยมสวดบทพระธรรมใหม่ ที่ขึ้นต้นด้วย คำว่า เหตุปัจจโย เสริมเข้ามาเป็นบทส่งท้ายอีก บท "พระธรรมใหม่" ในพระอภิธรรมปิฎก หมายถึง พระธรรมหมวดใหม่ เป็นการยกธรรมหัวข้อหนึ่งๆ จากคัมภีร์ธัมมสังคณีมาอธิบายอีกที เช่น ยกคำว่า กุศลธรรม อกุศลธรรม เป็นต้น มาอธิบาย จึงเกิดธรรมหมวดใหม่ขึ้นเพิ่มจาก 7 คัมภีร์นั้น ซึ่งใช้ชื่อว่า “โคจฉกะ” แปลว่า “หมวด” และมีชื่อธรรมนำหน้าโคจฉกะนั้นๆ ทั้งหมด 12 หมวด ในที่นี้พระพิธีธรรมนำสวด 6 หมวด และสุทธิกปฏิปทา ได้แก่ บทที่ 1 อาสวโคจฉกะ บทที่ 2 สัญโญชนโคจฉกะ บทที่ 3 คันถโคจฉกะ บทที่ 4 โอฆโคจฉกะ บทที่ 5 โยคโคจฉกะ บทที่ 6 นีวรณโคจฉกะ

พระธรรมใหม่ ถ้าจะแปลให้ตรง ก็แปลว่า พระธรรมหมวดโคจฉกะ ไม่ได้หมายถึงพระพิธีธรรมแต่งบทสวดใหม่ขึ้นมาสวดเป็นพิเศษ ด้วยเหตุที่พระอภิธรรม มีเนื้อความลึกซึ้ง เข้าใจยากสำหรับคนทั่วไป เพราะเป็นธรรมที่จะต้องใช้สภาวะจิตอันมีกำลังสมาธิสูงในการเข้าถึง ผู้ฟังสวดพระอภิธรรม ต้องใช้สมาธิในการฟังมาก จึงจะน้อมจิตตามได้


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/758741
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา