ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องเล่า วันพระพุทธเจ้าลอยถาดลงในแม่น้ำ ก่อนตรัสรู้  (อ่าน 1042 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



เรื่องเล่า วันพระพุทธเจ้าลอยถาดลงในแม่น้ำ ก่อนตรัสรู้
บทความเตือนสติ จากท่าน ว.วชิรเมธี

นานมาแล้วผู้เขียนได้อ่านหนังสือพุทธประวัติอยู่เล่มหนึ่ง เป็นพุทธประวัติสำหรับเด็ก เล่าเหตุการณ์ไว้ตอนหนึ่งว่า ก่อนที่พระโพธิสัตว์สิทธัตถะจะได้ตรัสรู้นั้น พระองค์ทรงกลับมาเสวยพระกระยาหาร เมื่อเสวยพระกระยาหารแล้ว พระองค์ก็ดำเนินไปที่แม่น้ำเนรัญชรา จากนั้นพระองค์ทรงลอยถาด ถาดก็ลอยทวนกระแสน้ำไป ลอยไปได้สัก 80 ศอกก็จมลงใต้บาดาล ใต้บาดาลนั้นมีถาดของพระโพธิสัตว์ก่อนหน้านั้น 3 องค์ ซึ่งเคยมาลอยถาดที่นี่เหมือนกัน ถาดทั้งหมดวางซ้อนกันอยู่

ถาดของพระโพธิสัตว์องค์ปัจจุบันคือพระโพธิสัตว์สิทธัตถะลอยลงไปกระทบกับถาด 3 ใบที่ซ้อนกันอยู่ใต้น้ำ เสียงถาดกระทบกันดัง “กริ๊ก” พญานาคซึ่งนอนหลับอยู่ใต้น้ำก็สะดุ้งตื่น เพราะได้ยินเสียงถาดกระทบกัน พญานาคก็อุทานขึ้นมาว่า “โอ นี่คงเป็นถาดของพระโพธิสัตว์อีกพระองค์หนึ่งแล้วสิ แหม! เมื่อวานก็มาตรัสรู้องค์หนึ่ง วันนี้มาอีกองค์หนึ่งแล้วหรือ ตรัสรู้บ่อยจัง”


 ask1 ans1 ask1 ans1

คำว่าบ่อยจังของพญานาคนี่ไม่ใช่แค่วันต่อวัน แต่ยาวนานถึงขนาดที่ว่าโลกวินาศไปหนึ่งครั้ง แล้วพระโพธิสัตว์ถึงมาตรัสรู้อีกองค์หนึ่ง แต่แม้เวลายาวนานนับกัปกัลป์ขนาดนี้ พญานาคก็ยังบอกว่าเร็วไปหน่อย ทำไมพญานาคจึงพูดอย่างนี้ เพราะเอาแต่หลับแต่นอน มีความสุขอยู่กับการหลับอยู่ในถ้ำทองของกิเลส

ระยะเวลาหนึ่งกัปหนึ่งกัลป์นั้นยาวนานแค่ไหน ถ้าจะเปรียบเทียบก็คงเปรียบดังมหาสมุทรที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาลมากใต้ก้นมหาสมุทรนั้นมีเต่าตาบอดอยู่ตัวหนึ่งพอครบ 100 ปี เต่าตัวนี้จะโผล่ขึ้นมาเหนือผิวน้ำ เหนือผิวน้ำนั้นมีห่วงยางลอยอยู่ห่วงหนึ่งลอยฟ่องถูกลมตีลอยไปลอยมา โอกาสที่เต่าจะเอาหัวมันสอดเข้าไปในห่วงยางจึงยากมหาศาล แต่พระพุทธเจ้าตรัสว่า “การเกิดเป็นคนยากยิ่งกว่านั้น” และกว่าที่เต่าตาบอดตัวนั้นจะสอดหัวเข้าไปในห่วงยางได้ก็กินเวลายาวนานยิ่งกว่านั้นอีกนับแสนนับล้านเท่า เวลาที่แสนยาวนานและอุปมาไม่ได้นั้น พอจะอนุโลมเรียกว่าหนึ่งกัป

ทีนี้เจ้าพญานาคราชนั้นรู้สึกว่าเมื่อวานพระโพธิสัตว์มาตรัสรู้องค์หนึ่งไปหยกๆ วันนี้มาอีกแล้ว แสดงว่าพญานาคนอนหลับลึกขี้เซาสุด ๆ หลับไปเลยหนึ่งกัปหนึ่งกัลป์ จนมีเสียงถาดกระทบกันปลุกให้ตื่น แต่ตื่นแล้วแทนที่จะลุกขึ้นมาฟังธรรมของพระโพธิสัตว์ซึ่งกำลังจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้ากลับไม่ฟังขอหลับต่อ

      st12 st12 st12 st12

     คำถาม ก็คือว่า อะไรคือ เสียงถาดกระทบกัน อะไรคือ พญานาคขี้เซาตนนั้น 
     เสียงถาดกระทบกันดัง“กริ๊ก” แสดงถึงการมาของพระพุทธเจ้า แสดงถึงการมาของพระธรรม แสดงถึงการมาของพระอริยสงฆ์ แสดงถึงการมาของยุคตื่นรู้ทางปัญญาและจิตวิญญาณครั้งยิ่งใหญ่ของโลก คือ การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ส่วนพญานาคขี้เซาก็คือ พวกมนุษย์อย่างเรานี่เองที่ไม่มีเวลาสนใจใฝ่พระธรรม



ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.goodlifeupdate.com/42339/healthy-mind/cavestory/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผมก็ได้มีโอกาส

ได้เจอครูของแท้แล้วละครับ

เพราะฉะนั้นการมองด้วยปัญญา

ก็จึงไม่ไปตัดสินใคร


การเรียนธรรมเดี๋ยวนี้

คนที่ตั้งตัวเพื่อลาภสักการะก็มาก

บางสายที่สอนแล้วอยู่ในวังวลก็มาก

บางสายไปเปลี่ยนแปลงพระไตรปิฏกซะอีกเวรกรรมๆ

ก็ต้องดูเอา วิเคราะห์เอาตาม

วิจราณญาณ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา