ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 9 เคล็ดลับปราบทุกข์ รับรองทำแล้วสุขทุกวัน  (อ่าน 808 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


9 เคล็ดลับปราบทุกข์ รับรองทำแล้วสุขทุกวัน

“เฮ้อ!…ทำไมพักนี้ชีวิตของฉันมีแต่เรื่องโชคร้ายตลอดเลยนะ  ทำดีก็ไม่ค่อยจะได้ดี  แถมยังมีปัญหามาคอยรุมเร้าอีก  แล้วเมื่อไรฉันถึงจะมีความสุขเสียทีล่ะเนี่ย!” เคล็ดลับปราบทุกข์

หากคุณกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งทุกข์จนต้องรำพันออกมา แบบนี้แล้วละก็ เรามีคำแนะนำดี ๆ มาฝาก และหากคุณลงมือปฏิบัติตามได้ทุกข้อ รับรองว่าคุณจะยิ้มแป้นเปี่ยมสุขทุกวันอย่างแน่นอน…

 :s_good: :s_good: :s_good:

1. อย่าปล่อยให้ความกังวลเกาะกินใจ จริงอยู่ว่าความกังวลใจเป็นกลไกทางธรรมชาติ ที่ช่วยผลักดันให้มนุษย์สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ แต่ก็ควรระวังให้อยู่ในปริมาณที่พอดี ๆ เท่านั้น ไม่ใช่วิตกกังวล คิดมากเสียจนนอนไม่หลับ เพราะหากคุณวิตกมากเกินไป นอกจากจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้แล้ว ความกังวลยังอาจทำให้คุณเครียดจนกลายเป็นคนที่มีความผิดปกติทางจิต โดยไม่ทันรู้ตัวก็เป็นได้

2. อย่าให้ความกลัวเข้าครอบงำ จิตที่กำลังหวาดกลัวเป็นสภาวการณ์ที่ขาดความสุขโดยสิ้นเชิง พระไพศาล วิสาโล ได้ให้ข้อคิดไว้ว่า “ความกลัวเป็น เรื่องธรรมดาที่ต้องเกิดขึ้น แต่ขอให้สังเกตว่า  เรากลัว เมื่อใจไม่อยู่กับปัจจุบัน  ปรุงแต่งถึงเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  ภาพดังกล่าวจะทำให้เกิดความกลัว และกังวล  มันยังไม่เกิด  แต่ก็กลัวเสียแล้ว  เมื่อรู้เช่นนี้ก็ให้ดึงใจมาอยู่กับปัจจุบัน”

3. หมั่นดับไฟแห่งความโกรธ อย่าปล่อยให้ความโกรธเกิดขึ้นภายในใจบ่อย ๆ หรือ ต่อเนื่องยาวนาน พระพุทธเจ้าตรัสสอนในเรื่องนี้ไว้ว่า “ผู้ใด โกรธตอบผู้ที่โกรธ (ก่อน) เพราะเหตุที่โกรธตอบนั้น  ผู้นั้นกลับ เลวกว่าผู้ที่โกรธ (ก่อน) นั้นเสียอีก  ผู้ไม่โกรธตอบผู้โกรธ (ก่อน) ชื่อว่าชนะสงครามที่ชนะได้ยาก  ผู้ใดรู้ว่าผู้อื่นโกรธขึ้นมาแล้ว มีสติระงับใจเสียได้  ผู้นั้นชื่อว่า ประพฤติเป็นประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย  คือทั้งฝ่ายตนและฝ่ายผู้อื่น…” และสิ่งที่จะช่วยดับไฟแห่งความโกรธได้ดีที่สุด ก็คือการให้อภัยนั่นเอง

4. แก้ปัญหาทีละเรื่อง เป็นธรรมดาของชีวิตที่มักจะแวดล้อมไปด้วยปัญหาสารพัด เรื่องยุ่งยากใจในคราวเดียว แต่อยากให้คุณระลึกไว้ว่า ทุกปัญหาสามารถแก้ไขได้ทีละเรื่องเท่านั้น ฉะนั้น คุณจึงไม่จำเป็นที่จะต้องนำทุกปัญหามาคิดรวมกัน เพราะนอกจากจะทำให้เสียสุขภาพจิตแล้ว ปัญหาก็ยังไม่หมดไปอีกด้วย

5. อย่าแบกรับปัญหาของคนอื่น คงมีหลายครั้งในชีวิตที่คุณบังเอิญต้องแบกรับปัญหาของคนอื่นโดยไม่รู้ตัว อาจเป็นเพราะบุคคลเหล่านั้นเป็นคนที่คุณรักและห่วงใย หรือเห็นใจอยากเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาให้ แต่ขอให้คุณเข้าใจเสียใหม่ว่า ปัญหาของเขาก็ควรให้เขาแก้ไขเอง เพราะเขารู้ทุกรายละเอียดดียิ่งกว่าเรา เราทำได้เพียงให้คำแนะนำปรึกษาเท่านั้น การที่คุณพยายามช่วยเหลือ นอกจากจะช่วยได้ไม่ตรงจุดแล้ว บางครั้งอาจทำให้ปัญหาลุกลามใหญ่โตกว่าที่ควรก็เป็นได้

6. หยุดคิด หยุดทำ เพียงรับฟังด้วยหัวใจ เป็นความจริงที่ว่าการรับฟังเป็นสิ่งจำเป็นอันดับต้น ๆ ในสังคม โดยเฉพาะในยุคนี้ที่มีแต่คนชอบพูด แต่ไม่ค่อยมีใครชอบฟัง เพราะเข้าใจผิดคิดว่า การเป็นผู้ฟังคือผู้ที่มีความรู้ ความสามารถน้อยกว่าผู้พูด แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้ฟังต่างหาก คือผู้ที่ได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากกว่า อีกทั้งการรับฟังยังมีคุณอนันต์ เพราะในกรณีที่คุณกำลังประสบปัญหารุนแรง เพียงแค่คุณรับฟังด้วยหัวใจ ปัญหาต่าง ๆ ก็อาจยุติลงได้

7. ไม่จมอยู่กับอดีต อดีตมีไว้เพื่อรำลึกถึงสิ่งดี ๆ และมีไว้เพื่อให้เรียนรู้ถึง ความผิดพลาดแล้วนำมาปรับปรุงให้ดีขึ้น อดีตไม่ได้มีไว้เพื่อให้คุณจมปลักอยู่กับความทุกข์ที่เคยเกิดขึ้น เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือปัจจุบันต่างหาก ถ้าคุณตั้งใจทำปัจจุบันให้ดีทุกวินาที อดีตซึ่งเป็นผลพวงจากปัจจุบันก็จะดีตามไปด้วย เมื่อคุณได้รับแต่สิ่งดี ๆ ความสุขย่อมจะตามมาโดยไม่ต้องสงสัย

8. อย่ามัวแต่สงสารตัวเอง การมัวแต่รู้สึกสงสารตัวเองโดยไม่พัฒนาให้ตัวเองดีขึ้นนั้น ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรเลย เพราะนอกจากจะทำให้คุณตรอมตรมอยู่กับความทุกข์แล้ว ชีวิตของคุณก็จะไม่สามารถก้าวต่อไปข้างหน้าได้ ฉะนั้นเปลี่ยนจากความ “สงสาร” เป็นความ “สงสัย” ในตัวเองดีกว่า ว่าคุณได้ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่ามากพอแล้วหรือยัง แล้วหันมาทุ่มเทเวลาให้กับการพัฒนาปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น แทนที่จะเสียเวลาไปกับการสงสารและดูถูกตัวเอง

9. จดจำแต่สิ่งดีๆ ในชีวิต สิ่งที่น่าจดจำที่สุดไม่ใช่เรื่องเลวร้ายที่คุณเคยได้รับ แต่เป็นเรื่องดี ๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับชีวิตของคุณต่างหาก คุณควรจดจำสิ่งดี ๆ ที่คุณเคยได้รับ หรือเคยทำให้กับใครไว้ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเล็กน้อยสักเพียงใดก็ตาม เช่น วันนี้ชีวิตของคุณเร่งรีบเหลือเกิน แต่คุณก็ยังแวะซื้อขนมที่คุณแม่ชอบติดมือไปฝากท่าน เชื่อเถอะ ว่าความดีเล็ก ๆ น้อย ๆ นี้ เมื่อนำหลาย ๆ คราวมารวมกัน ก็จะเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ ที่พอนึกทีไรคุณก็จะอมยิ้มเปี่ยมสุขได้ทุกที


เรื่อง ชลธิชา แสงใสแก้ว
http://www.goodlifeupdate.com/41376/healthy-mind/sufferingdestroy/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ