ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ดูดวงกับพระ ผิดหรือไม่.?  (อ่าน 897 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ดูดวงกับพระ ผิดหรือไม่.?
« เมื่อ: มกราคม 18, 2017, 03:18:05 pm »
0



ดูดวงกับพระ ผิดหรือไม่.?

ถาม : นอกจากจะไปขอฤกษ์ยามกับหมอดูแล้ว คนบางกลุ่มยังนิยมไปขอฤกษ์ยามหรือ ดูดวงกับพระ รูปนั้นรูปนี้กันบ่อย ๆ เรื่องนี้ถือว่าเป็นกิจของสงฆ์หรือไม่ ผิดวินัยหรือเปล่าคะ

พระอาจารย์ ดร.พระมหาบวรวิทย์ รตนโชโต  ตอบปัญหาธรรม เรื่องดูดวงกับพระนี้ไว้ว่า

ตอบ : จริง ๆ แล้วถือว่าไม่เหมาะสม เพราะสุ่มเสี่ยงต่อการ “อวดอุตริมนุสธรรมที่ไม่มีในตน” คือไม่รู้จริง ไม่เห็นจริง แล้วทำนายทายทักไปดังตนได้รู้ได้เห็น หรือแม้ว่ารู้เห็นจริง ก็ไม่สมควรอยู่ดี เพราะเป็นเดียรัจฉานวิชา คือขวางต่อพระนิพพาน ไม่เป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์ คือการหลุดพ้นจากวัฏสงสาร อาจทำให้ฆราวาสหรือใครก็ตามที่หลงเชื่อเกิดความงมงาย รอคอยแต่โชคชะตา ไม่หมั่นประกอบในความเพียรพยายาม ปล่อยวันเวลาให้ล่วงเลยผ่านไปโดยไม่ได้อะไรเลย มองในแง่ของศีลเองก็ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง เพราะถือว่าพระผู้ดูดวงกำลังประกอบมิจฉาชีพ ทำศีลไม่ให้มีความบริบูรณ์ ถ้าให้ขยายความคือไม่มุ่งมั่นศึกษาพุทธธรรมให้แตกฉาน ไม่ตั้งตนอยู่ในสมณสารูปที่เหมาะสม เมื่อเป็นเช่นนั้นจะสามารถสั่งสอนฆราวาสให้ตั้งอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม ปฏิบัติหน้าที่ของตนไม่ให้บกพร่องได้อย่างไร

ฆราวาสเองก็อย่าได้มองพระเป็นเจ้าพิธี ขอให้มองพระเป็นผู้บอกทางแห่งพระนิพพาน และก็ต้องศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ให้เข้าใจ ว่าสิ่งใดควร สิ่งใดไม่ควร และไม่ฝากความหวังไว้กับสิ่งที่มองไม่เห็น

สุดท้ายหากจะศรัทธาหรือเชื่อมั่นในผู้ใด ก็ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งปัญญา นั่นจึงเรียกว่าสำคัญที่สุด

 st12 st12 st12 st12

ทั้งนี้พระพุทธเจ้าตรัสถึง ฤกษ์ยาม ไว้ในสุปุพพัณหสูตรไว้ดังนี้

“ภิกษุ ทั้งหลาย สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย ประพฤติสุจริตด้วยวาจา ประพฤติสุจริตด้วยใจ ในเวลาเช้า เวลาเช้าก็เป็นเวลาเช้าที่ดีของสัตว์เหล่านั้น สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกาย ประพฤติสุจริตด้วยวาจา ประพฤติสุจริตด้วยใจ ในเวลาเที่ยง เวลาเที่ยงก็เป็นเวลาเที่ยงที่ดีของสัตว์เหล่านั้น สัตว์เหล่าใดประพฤติสุจริตด้วยกายประพฤติสุจริตด้วยวาจา ประพฤติสุจริตด้วยใจ ในเวลาเย็น เวลาเย็นก็เป็นเวลาเย็นที่ดีของสัตว์เหล่านั้น”

ดังนั้น ฤกษ์ยามคือช่วงเวลาที่เหมาะสม สะดวก และมีความพร้อม ในการประกอบกิจการงานนั้น ๆ นั่นเองส่วนการหาฤกษ์ยามในการมุ่งประโยชน์นั้น ให้มองไปที่กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม คือ ทำดี พูดดี คิดดี หากมีครบทั้งสามอย่างเมื่อใดก็ถือว่าเป็นฤกษ์อันเป็นมงคล เป็นฤกษ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองหากประวิงเวลาในการทำดีก็จะพลาดฤกษ์ยามอันดี คือประโยชน์อันจะพึงมีพึงได้ไปได้

ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในนักขัตตชาดกว่า “ประโยชน์ได้ล่วงเลย คนโง่เขลาผู้มัวคอยฤกษ์อยู่ ประโยชน์เป็นฤกษ์ของประโยชน์ ดวงดาวจักทำอะไรได้” หากใครปรารถนาจะให้ชีวิตของตนมีแต่ความเป็นมงคลก็ต้องปฏิบัติตามมงคลนั้นๆ นั่นเอง


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.goodlifeupdate.com/1434/healthy-mind/fate-monk/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ