พิมพ์

[raponsan]

จีนออกค้าทางทะเลสมุทรด้วยสำเภาขนาดใหญ่และมีเทคโนโลยีก้าวหน้า ภาพนี้เป็นแบบจำลองเรือมหาสมบัติ “เป่าฉวน” จำลองขึ้นมาตามสัดส่วนที่บันทึกโดยหลอเหมาเติ้ง สมัยราชวงศ์หมิง ในหนังสือบันทึกการท่องทะเลตะวันตกของขันทีซานเป่า (ปัจจุบันจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน)


จีนแต่งสำเภาออกค้าทางทะเลถึงอุษาคเนย์ อีกไม่นานก็มีคนไทย


จีนแต่งสำเภาออกค้าขายทางทะเลสมุทรด้วยตัวเองถึงอุษาคเนย์ ราวหลัง พ.ศ. 1500 ส่งผลผลักดันให้มีคนไทยขึ้นในโลก (ก่อนหน้านั้นไม่มีคนเรียกตัวเองว่าไทย)

นักวิชาการทั่วโลกรู้ว่ายุคดั้งเดิมดึกดำบรรพ์ จีนไม่ออกค้าด้วยตัวเองทางทะเลสมุทร แต่ให้ “คนกลาง” เดินเรือเลียบชายฝั่งขนสินค้าจากจีนไปขาย ซึ่งยุคนั้นน่าจะมีทั้งศรีวิชัยและจาม กับชวา-มลายู ฯลฯ

จนหลัง พ.ศ.1700 สำเภาจีนมีเทคโนโลยีสูงขึ้น แล้วมีขนาดใหญ่กว่าแต่ก่อน จึงมีระวางบรรทุกสินค้ามากกว่าเดิม แล้วต้องการสินค้ามากขึ้น

ความก้าวหน้าทางการเดินเรือของจีน ทำให้รัฐชายฝั่งทั้งสุวรรณภูมิกระตือรือร้น กว้านทรัพยากรป้อนตลาดการค้าที่คึกคักกว้างขวางจากจีน

คนพูดภาษาตระกูลไต-ไท (ยังไม่เรียกตัวเองว่า ไทย) อยู่ดินแดนภายใน ก็ถูกกระตุ้นให้ต้องเคลื่อนไหวเป็นผู้ขนย้ายทรัพยากร แล้วโยกย้ายตัวเองลงไปดินแดนรัฐชายฝั่ง

ในที่สุดภาษาไต-ไทกลายเป็นภาษากลางทางการค้าภายในภูมิภาค (ยังไม่เรียก ภาษาไทย)

อำนาจของภาษาและวัฒนธรรมไต-ไท ทำให้คนพื้นเมืองในรัฐชายฝั่งบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา กลายตัวเองอยู่ใต้ภาษาและวัฒนธรรมไต-ไท

ครั้นนานไปก็สมมุติเรียกตัวเองด้วยคำว่า ไทย หรือคนไทยในยุคอยุธยา (หรือก่อนนั้นไม่นาน) สืบจนปัจจุบัน

เขียนบอกเล่าเท่านั้นอย่างง่ายๆ ใครจะอธิบายเป็นอย่างอื่นก็ได้

 

รัฐบาลต้องแก้ไขความผิดพลาดของประวัติศาสตร์แห่งชาติ

ในอดีตรัฐบาลไทยบังคับครอบงำคนทั่วประเทศไทย ให้เชื่อตามว่าคนไทยเป็นเชื้อชาติไทยบริสุทธิ์ มีถิ่นกำเนิดอยู่เทือกเขาอัลไต (ในมองโกเลีย) ต่อมาถูกรุกรานขับไล่ คนไทยจึงหนีลงไปตั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานีแห่งแรกของคนไทย

แต่ไม่เคยพบหลักฐานสนับสนุนเรื่องนี้ นักวิชาการทั่วโลกไม่ยอมรับ

ในที่สุดสังคมไทยลดความน่าเชื่อถือต่อประวัติศาสตร์แห่งชาติสำนวนนี้ ส่วนทางการไทยทำเงียบเชียบโดยไม่แสดงท่าทีอย่างใดอย่างหนึ่งตรงไปตรงมา แต่ปล่อยสถานศึกษาทั่วประเทศยังมีการเรียนการสอนเหมือนเดิมตามที่ถูกบังคับครอบงำ เนื้อหาหลักยังเป็นเรื่องคนไทยเชื้อชาติไทยมีมาแต่อัลไตและสุโขทัย

รัฐบาลไทยปัจจุบันไม่ได้เป็นผู้สร้างเรื่องผิดพลาดนี้ แต่ (เป็นทายาทรัฐบาลอดีต) ยังสืบทอดความผิดพลาดไว้อย่างเหนียวแน่น จึงควรเร่งรัดแก้ไขให้ถูกต้องสอดคล้องหลักฐานตามสากลโลก

แล้วบังคับบัญชาหน่วยงานของรัฐบาล สร้างคำอธิบายว่าคนไทยเป็นใคร? มาจากไหน? ตามหลักฐานประวัติศาสตร์โบราณคดีมานุษยวิทยา ทั้งจากเอกสารประวัติศาสตร์และการขุดค้นทางโบราณคดี

 

อย่ามุบมิบงุบงิบ

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สุโขทัย เคยบอกผู้สื่อข่าวว่าปลดออกแล้วเรื่องสุโขทัยเป็นราชธานีแห่งแรกของไทย ทำเสมือนงุบงิบปกปิดซ่อนเร้นความผิดพลาด

ในทางที่ถูกแล้วกระทรวงวัฒนธรรมกับกระทรวงศึกษาธิการ ต้องแถลงร่วมกันว่ายกเลิกเรื่องสุโขทัยไม่ใช่ราชธานีแห่งแรกของไทย แล้วต้องประกาศให้รู้ทั่วกันโดยไม่มุบมิบว่าคนไทยไม่ได้มาจากอัลไต


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news/439497