กงล้อแห่งกาละ ( กาลแห่งการตื่นภาวนา)
ภาวนาธรรมกรรมฐาน ไม่ต้องเสียทรัพย์ ก็เริ่มต้นที่หายใจเข้า กำหนดรู้หายใจเข้า หายใจออก ก็กำหนดรู้ว่า หายใจออก หรือ หายใจเข้า เป็น พุทโธ เป็น พุทโธ อย่างนี้ตลอดวัน ตลอดเวลา อย่าได้ไปใส่ใจในเรื่องอื่น ๆ ที่เป็นโลกธรรมมาก ให้เอาความทุกข์ มากำหนดว่า เราเป็นทุกข์ นะ กำหนด ความรู้สึก ทุกข์ นั้น มันกลัดกลุ้มรุมจิตขนาดไหน แล้วลองหาเหตุแห่งความทุกข์ ที่มันดิ้นพาด ๆ อยู่ขณะนั้นให้เห็นจริง ๆ ว่า มันทุกข์ เพราะอะไร คร่ำครวญเพราะอะไร โศรกเศร้าเพราะอะไร วิตกเพราะอะไร เศร้าหมองเพราะอะไร หามันให้เจอ เมื่อเจอมันแล้ว ลองถามมันสิ ว่า มันจะเลิกมาได้อย่างไร ไม่อยู่กับเราได้อย่างไร คุยกับเหตุแห่งทุกข์ให้เข้าใจ ว่า ที่มัน ทุกข์ เหตุจริงๆ มันคือ อะไร รักหรือ โกรธหรือ หลงหรือ ไม่เข้าใจหรือ เต็มใจหรือ อะไรกันแน่ที่มันทำให้ทุกข์ มองให้เข้าใจ หาสาเหตุแท้จริงของมันซะ เมื่อรู้สาเหตุแท้จริงแล้ว ก็หนีมันให้พ้น ทำลายมันให้ได้ อย่าให้มันเกิดอีก ค่อย ๆ ทำ ค่อย ๆ ตัด ค่อย ๆ ละ ทำไปเรือ่ย ๆ เดี๋ยวมันก็ดีเอง ละเอง เพราะว่า ถ้าเรารู้ทันมันบ่อย ๆ มีสติยับยั้งทัน มันก็จะดับ ค่อย ๆ ดับ จนกระทั่ง มันเกิดขึ้นมาก็ไม่เป็นทุกข์ ในโลกนี้ ไม่มีใครดับตัณหาได้จริง มีแต่ละตัณหาได้เท่านั้น เพราะตัวตัณหา ยังคงอยู่อย่างนั้น ตราบเท่าที่ยังมี ปทปรมะ ( บัวติดดิน ) เวไนยยะ ( บัวใต้น้ำ) อยู่ ตัณหาไม่มีทางสุญหายไปไหน เลย
ขอให้ท่านทั้งหลาย จงใช้เวลาที่มีค่าในการภาวนา ดูลมหายใจเข้า ดูลมหายใจออก กันบ้างเถิด อย่าได้เตลิดไปตามบุญตามกรรมกันมากนักเลย เพราะสังสารวัฏนี้ ไม่เคยให้ความสุข แท้จริง กับ ๆ ใครเลย จงตื่นเถิด จงปฏิญาณตนระลึกถึง พระพุทธเจ้า เถิด ลมหายใจเข้า และลมหายใจออก ของพวกท่านจะได้มีความสุขบ้าง ไม่ถูกกัดกิน ด้วยกาลทั้งสาม
เจริญธรรม / เจริญพร
