พิมพ์

[raponsan]

ปั้นพระ-แม่ชีวิทยากร ผนึกกำลังใช้หลักพุทธแก้ปัญหาสังคม

สถาบันพระวิทยากร สำนักงานส่งเสริมคุณธรรมฯ ร่วมมือ มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย มมร.สร้างแม่ชีวิทยากร พร้อมหลักสูตรเยียวยาจิตใจสตรีที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรง  ผนึกกำลังพระ-แม่ชี ทำงานเผยแผ่เชิงรุก ร่วมแก้ปัญหาสังคม

วันนี้(17 พ.ค.)พระราชกิจจาภรณ์ (เทอด ญาณวชิโร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ในฐานะเลขานุการสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมและความมั่นคงแห่งสถาบันชาติ พระศาสนา พระมหากษัตริย์ วัดสระเกศฯ กล่าวว่า  สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ มีแผนงานขยายขอบข่ายการทำงานตามมติมหาเถรสมาคม ที่เห็นชอบให้สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ เป็นหน่วยงานของคณะสงฆ์ในการสนับสนุน การดำเนินภารกิจด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเชิงรุกและสร้างเครือข่ายขับเคลื่อนงานเผยแผ่พระศาสนาเชิงรุกทั่วประเทศ โดยมีสถาบันพัฒนาพระวิทยากร เป็นหน่วยงานด้านวิชาการภายใต้กำกับของสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ และเมื่อเร็วๆนี้ สถาบันได้เปิดรับสมัครพระภิกษุเข้าร่วมโครงการพระวิทยากรกระบวนธรรม ภาคทฤษฎี รุ่น 2 เพื่อพัฒนารู้ทางพุทธศาสนาสู่การปฏิบัตินั้น ได้รับความสนใจจากพระภิกษุทั่วประเทศเป็นจำนวนมากที่จะเข้าร่วมโครงการดังกล่าว  ที่สำคัญกลุ่มแม่ชียังให้ความสนใจ โครงการของสถาบันพัฒนาพระวิทยากรด้วย

พระราชกิจจาภรณ์ กล่าวต่อไปว่า  แม่ชีจากมหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย(มมร.) ได้เข้าพบตน เพื่อขอวิทยากรจากสถาบันพัฒนาพระวิทยากร สำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมฯ เพื่อไปดำเนินการฝึกอบรมสร้างทีมแม่ชีวิทยากรให้แก่มหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย เน้นกระบวนการให้คำปรึกษาเยียวยาจิตใจสตรีที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรง ให้กลับมามีกำลังใจ  จึงได้มอบหมายให้ พระมหาธนเดช ธมฺมปญฺโญ เป็นผู้ประสานงานกับทางมหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย และให้พระมหา ดร. ขวัญชัย กิตติเมธี กับ พระมหา ดร. ประสิทธิ์ ญาณปฺปทีโป เป็นผู้ออกแบบหลักสูตร ให้สอดคล้องกับพันธกิจของแม่ชีโดยในระยะแรก พระวิทยากรจะร่วมกันถอดบทเรียนกระบวนการทางความคิดของแม่ชี แล้วนำบทเรียนมาออกแบบเป็นหลักสูตรอีกชั้นหนึ่ง ก็จะได้หลักสูตรการให้คำปรึกษาที่เป็นแนวทางเฉพาะของมหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย

“นับเป็นการสร้างเครือข่ายระหว่างสถาบันพัฒนาพระวิทยากรกับมหาปชาบดีเถรีวิทยาลัย ที่มีแม่ชีอยู่ในการดูแลเป็นจำนวนมาก ซึ่งการพัฒนาพัฒนาแม่ชีนั้น ถือว่ามีคุณลักษณะที่พิเศษที่มีมากกว่าพระวิทยากร เนื่องจากความเป็นสตรีจะมีความอ่อนโยน สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ไม่เป็นที่หวาดระแรงและหวาดกลัว จะเกิดผลดีต่อกระบวนการเยียวยาจิตใจกลุ่มสตรีที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงตามหลักพระพุทธศาสนาได้ง่ายกว่าพระวิทยากร จึงนับว่า ความร่วมมือระหว่างพระวิทยากร และแม่ชีวิทยากร จะเป็นกำลังสำคัญในการสร้างบุคลากรด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่มีคุณภาพมีความเข้มแข็งในอนาคต ที่สำคัญบุคลากรเหล่านี้จะเป็นต้นแบบการทำงานให้ชาวพุทธทั่วประเทศได้เห็นว่า พระภิกษุ และแม่ชี สร้างประโยชน์ให้แก่สังคมไทยในฐานะของผู้ให้ และเข้าใจในความเป็นภิกษุ แม่ชี รวมถึงหลักธรรมมากยิ่งขึ้น”ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ กล่าว

ขอบคุณข่าวจาก : https://www.dailynews.co.th/education/574394