ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: หลวงพ่อพุทธโสธรองค์ที่เห็นไม่ใช่องค์จริง ร.๕ ทอดพระเนตรแล้วว่า “เอวบาง” งดงามมาก  (อ่าน 1806 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29439
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
พระพุทธโสธรที่ถูกปูนพอก เทียบกับพระพุทธเทวปฏิมากร วัดโพธิ์


หลวงพ่อพุทธโสธรองค์ที่เห็นไม่ใช่องค์จริง! ร.๕ ทอดพระเนตรแล้วว่า “เอวบาง” งดงามมาก!!

หลวงพ่อพุทธโสธรเป็นองค์หนึ่งในตำนานพระพุทธรูปลอยน้ำมา เล่ากันว่าท่านลอยเข้าไปในแม่น้ำบางปะกง โดยลอยมาพร้อมกัน ๓ องค์ ชาวบ้านพยายามจะฉุดขึ้นบกก็ไม่สำเร็จ ทั้ง ๓ องค์ลอยทวนน้ำขึ้นไป ตำบลนั้นเลยได้ชื่อว่า “สามพระทวน” ต่อมาก็กลายเป็น “สัมปทวน” จนถึงทุกวันนี้
       
       ทั้ง ๓ องค์ลอยเข้าไปในคลองหนึ่ง ชาวบ้านพยายามจะฉุดขึ้นฝั่งก็ไม่สำเร็จอีก ทั้ง ๓ องค์ลอยกลับออกมาที่แม่น้ำบางปะกง คลองนั้นเลยได้ชื่อว่า “คลองพระ”
       
       พอลอยออกแม่น้ำ กระแสน้ำก็ทำให้ทั้ง ๓ องค์จมลง องค์ที่เป็นพระพุทธโสธรมาโผล่ที่หน้าวัดโสธร ซึ่งตอนนั้นยังมีชื่อว่า “วัดหงส์” อาจารย์ไสยศาสตร์ท่านหนึ่งได้ตั้งศาลเพียงตาบวงสรวง แล้วใช้สายสิญจน์คล้องพระหัตถ์อัญเชิญขึ้นบนฝั่ง นำไปประดิษฐานไว้ในวิหาร
       
       หลวงพ่อพุทธโสธรเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ สมัยล้านนา หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้างเพียงศอกเศษ มีพุทธลักษณะที่งดงามมาก ทั้งพระหัตถ์ พระเนตร ตลอดจนพระกรรณเป็นลักษณะเฉพาะที่สร้างกันในหลวงพระบางและเวียงจันทน์ ซึ่งเรียกกันว่า “พระลาว” สันนิษฐานว่าน่าจะมาจากลาว

       
พระพุทธรูปในวิหารในวิหาร

       ต่อมาได้เกิดโรคฝีดาษระบาดขึ้นในจังหวัดฉะเชิงเทรา ชายคนหนึ่งซึ่งป่วยด้วยโรคนี้ แต่หันหน้าไปพึ่งใครไม่ได้ เพราะทุกคนตกอยู่ในสภาพเดียวกัน เมื่อไม่มีใครเป็นที่พึ่งจึงหันไปหาพระพุทธโสธร นมัสการอธิษฐานขอให้หลวงพ่อช่วยรักษา และรับเอายาดีจากหลวงพ่อมา ๓ อย่าง คือ ขี้ธูป ดอกไม้เหี่ยวแห้งที่แท่นบูชา และน้ำมนต์ ครั้นเอามาต้มกิน ทา อาบ ปรากฏว่าโรคหายไปอย่างน่าอัศจรรย์ จึงจัดแก้บนถวาย กิตติศัพท์ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อจึงแพร่กระจายไปกว้างขวาง
       
       เมื่อคราวเสด็จประพาสเมืองฉะเชิงเทราใน พ.ศ.๒๔๕๑ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทอดพระเนตรหลวงพ่อพุทธโสธรก่อนจะถูกพอก ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ว่า
       
       “...องค์ที่สำคัญว่าเป็นหมอดีนั้น คือองค์ที่อยู่กลาง ดูรูปตักและเอวบาง เป็นทำนองเดียวกับพระพุทธรูปเทวปฏิมากร...”
       
       คำว่า “หมอดี” นั้นทรงหมายถึง ขี้ธูป ดอกไม้แห้ง และน้ำมนต์ของหลวงพ่อ ที่นิยมเอาไปกินไปอาบ ไปทากัน เชื่อว่าจะทำให้โรคภัยไข้เจ็บหายได้

       
ภาพวิหารหลวงพ่อโสธรจากร่มบิน

       พุทธลักษณะของหลวงพ่อพุทธโสธรองค์เดิมงดงามมาก แต่เมื่อข่าวคราวความงดงามของหลวงพ่อโสธรแพร่ออกไป พระสงฆ์ที่วัดหงส์เกรงว่าจะมีโจรใจบาปมาขโมย จึงนำปูนมาพอกจนกลายเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปิดทอง พระพักตร์แบบศิลปะล้านนา พระเกตุมาลาแบบปลี หน้าตักที่กว้างเพียงศอกเศษ ก็กลายเป็นกว้าง ๑ เมตร ๖๕ เซนติเมตร สูง ๑ เมตร ๙๘ เซนติเมตร ที่พระศอพอกจนเห็นหนาผิดปกติ ทั้งนี้ก็เพื่อกันถูกตัดพระเศียร ฉะนั้นหลวงพ่อโสธรที่เห็นเทอะทะในวันนี้ ความจริงองค์เดิมที่อยู่ภายในเอวบางงดงาม
       
       วัดโสธรวรารามวรวิหาร สร้างมาในสมัยปลายกรุงศรีอยุธยาโดยชาวมอญ จึงมีรูปหงส์อันเป็นสัญลักษณ์ของมอญติดอยู่ปลายเสาสูง จึงเรียกกันว่า “วัดหงส์” ต่อมาหงส์ยอดเสาได้หักลงมา ชาวบ้านจึงเอาผ้าขึ้นไปผูกไว้แทน นานไปคนก็เรียกชื่อวัดใหม่เป็น “วัดเสาธง” หลายปีเสาที่ผุกร่อนก็หักลงมาอีก ชื่อวัดจึงเปลี่ยนอีกครั้งเป็น “วัดเสาธงทอน” หมายถึงหักเป็นสองท่อน จนเมื่อหลวงพ่อโสธรลอยน้ำมาอยู่ที่วัด จึงได้ปรึกษากันถึงชื่อวัดอีกครั้ง เห็นว่าเปลี่ยนมาหลายครั้งแล้วควรจะมีชื่อแน่นอนเสียที จึงให้ชื่อว่า “วัดโสทร” เช่นเดียวกับเรียกหลวงพ่อที่ลอยน้ำมาว่า “หลวงพ่อโสทร” หมายถึงร่วมอุทรกับสามองค์ที่ลอยน้ำมาด้วยกัน ต่อมาก็มีผู้เปลี่ยนชื่อให้อีกครั้ง เป็น “โสธร” หมายถึง “บริสุทธิ์” หรือ “ศักดิ์สิทธิ์”
       
       ทางจังหวัดฉะเชิงเทราได้จัดสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ ได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๓๑ แล้วเสร็จในปี ๒๕๔๗ ใช้งบประมาณค่าก่อสร้างประมาณ ๓,๐๐๐ ล้านบาท เป็นอาคารทรงไทยประยุกต์ หลังคาทรงจัตุรมุข กว้าง ๔๔.๕ เมตร ยาว ๑๒๓.๕ เมตร ยอดปรางค์ซึ่งสูง ๘๔ เมตร มีฉัตรทอง ๕ ชั้นเป็นทองคำแท้หนักถึง ๗๗ กิโลกรัม มีมูลค่ากว่า ๔๔ ล้านบาทในเวลานั้น กำแพงบุด้วยหินอ่อนจากเมืองคาร์ราร่า ประเทศอิตาลี เป็นพระอุโบสถที่งดงามที่สุด และใหญ่ที่สุดด้วย

       
ประชาชนปิดทองและแก้บนกับองค์จำลอง

       ภายในพระอุโบสถหลังใหม่นี้ ประดิษฐานพระพุทธโสธรองค์เดิม และพระพุทธรูปอื่นๆรวม ๑๘ องค์ อยู่บนดอกบัวบานดอกใหญ่ ล้อมด้วยกลีบบัวเป็นศิลปกรรมวิจิตร พื้นหินแกรนิตเป็นภาพมหาสมุทร แสดงถึงตำนานของหลวงพ่อพุทธโสธรที่ลอยน้ำมา มีปลาขนาดใหญ่ของเมืองแปดริ้ว ๕ ตัวว่ายวนอัญเชิญดอกบัว รอบๆมีสัตว์น้ำนานาชนิด ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา คาบดอกบัวมาสักการะ ซึ่งเป็นฝีมือการออกแบบของศาสตราจารย์เกียรติคุณ ประหยัด พงษ์ดำ ศิลปินแห่งชาติ
       
       ส่วนพระอุโบสถหลังเก่าประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธรองค์จำลองที่เปิดให้ประชาชนปิดทอง มีประชาชนหลั่งไหลไปนมัสการไม่ขาดสายทุกวัน และจะแน่นขนัดในวันเสาร์อาทิตย์และวันหยุดราชการ แล้วไม่รู้ว่าใครเป็นเจ้าความคิดที่ปล่อยข่าวว่าหลวงพ่อท่านชอบฉันไข่ต้ม ใครที่บนด้วยไข่ต้มมักจะประสบความสำเร็จ ทุกวันจึงเห็นคนขนไข่ต้มไปแก้บนกันมากมาย บางคนบนเป็นพันฟองไม่รู้ว่าขออะไรไว้ เมืองแปดริ้วเป็นเมืองผลิตไข่ไก่จนล้นตลาดอยู่บ่อยๆ ตอนนี้คนเลี้ยงไก่ไข่เมืองแปดริ้วคงคลายทุกข์ไปได้มาก เพราะมีหลวงพ่อโสธรช่วยรับทุกข์ ทั้งยังช่วยร้านค้าที่หน้าวัดด้วย ซึ่งต่างก็เปิดบริการขายไข่ต้ม ไม่ให้คนแก้บนต้องลำบากขนไข่มาจากบ้าน ธุรกิจดีขึ้นกันทั่วหน้า



ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก
http://www.manager.co.th/OnlineSection/ViewNews.aspx?NewsID=9600000065702
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 29, 2017, 06:41:19 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7294
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ

PRAMOTE(aaaa)

  • ศิษย์ตรง
  • โยคาวจรผล
  • *****
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 3598
  • ความศรัทธาคือเชื่อเรื่องการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ขออนุโมทนาสาธุ


..นะทรงฟ้า..โมทรงดิน..พุททรงสิน....ทาทรงสมุทร...ยะทรงอากาศ
บันทึกการเข้า
การมีกัลยาณมิตร ครูบาอาจารย์ ที่สั่งสอนธรรม เป็นเรื่องที่ดี
..เชื่อเรื่องการตรัสรู้ธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
...และเชื่อในพระธรรมที่เป็นตัวแทนของพระศาสดา