ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: มิติใหม่พระสงฆ์ช่วยน้ำท่วม ระดมทุนแจกน้ำ-อาหาร  (อ่าน 1026 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29297
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


มิติใหม่พระสงฆ์ช่วยน้ำท่วม ระดมทุนแจกน้ำ-อาหาร

สัปดาห์นี้มีเรื่องราวสุดซาบซึ้งบนคราบน้ำตา คือพระสงฆ์ตั้งเต็นท์ทำอาหารแจกชาวสกลนครผู้ประสบภัยน้ำท่วม แต่ต้องระวังจะถูกตำหนิเพราะ...??

ฉับพลันที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วม จังหวัดสกลนคร และพื้นที่หลายแห่งในภาคอีสาน ภาพที่เรามักไม่ค่อยเห็นกันบ่อยครั้งนั่นก็คือ ภาพพระภิกษุสามเณร พระสังฆาธิการสลัดจีวร ระดมทุน ระดมน้ำเปล่า อาหารแห้ง ตั้งเต็นท์ทำอาหาร ตระเวนแจกจ่ายอาหารแก่ประชาชนตามหมู่บ้านที่ประสบอุทกภัย ทำให้ชาวพุทธจำนวนไม่น้อยเห็นแล้วอดตื้นตันใจไม่ได้ในความเสียสละของพระคุณเจ้า

คราวนี้ผมสังเกตเห็นว่า มีความพิเศษกว่าทุกครั้ง คือแม้กระทั้งวัดป่าบางวัดที่ดำรงตนไม่รับรู้ความเป็นไปใดๆ ของสังคมก็ยังอดใจทนไม่ไหวจนต้องเปิดโรงครัวทำอาหารแจกชาวบ้าน ในขณะที่ช่วงแรกภาครัฐยังงวยงงอยู่ว่า เหตุการณ์น้ำไหลหลากท่วมตัวเมืองสกลนครเกิดขึ้นได้อย่างไร? และจะไปเอางบประมาณที่ไหนมาช่วยเหลือ?

 :96: :96: :96: :96:

องค์กรมหาเถรสมาคม ในอดีตที่เปรียบเสมือน “เสือหลับ” ทันทีที่เกิดน้ำท่วมสกลนคร ประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม พระพรหมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดยานนาวา ได้สั่งการให้ พระมงคลวชิรกร พระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณ พระมหาอดิศักดิ์ อภิปญฺโญ และทีมงานลงพื้นที่ทันทีพร้อมกับนำน้ำปล่า อาหารแห้ง เครื่องยังชีพเบื้องต้นไปแจกจ่ายประชาชน พร้อมกับระดมทุนช่วยเหลือเต็มที่

ผมสังเกตการใช้คนของ พระพรหมวชิรญาณ แล้ว ถือว่าท่านใช้คนเป็นและเหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะทั้ง พระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณ หรือ พระมหาวีรพล วีรญาโณ ประธานเครือข่ายธรรมะอารมณ์ดี พระมหาอดิศักดิ์ อภิปญฺโญ รองประธานเครือข่ายธรรมะอารมณ์ดี ทั้ง 2 รูปนี้เป็นพระนักเทศน์ชื่อดัง มีเครือข่ายทั่วประเทศมีบารมี เป็นนักประสานสิบทิศ อ่อนน้อมถ่อมตน

และที่สำคัญสนองงานได้เร็ว ประเภทสั่งแล้วทำได้ทันที มองตาก็รู้ความต้องการของนาย มีลูกน้องบางประเภทนายสั่งแล้ว ถามจุกจิก เช่น จะไปเอางบประมาณที่ไหน? จะใช้คนอย่างไร? หรือจะต้องทำอย่างไร? มีลูกศิษย์หรือลูกน้องแบบนี้เขาเรียกว่า “ทำงานไม่เป็น”

 :25: :25: :25: :25:

ส่วน พระมงคลวชิรกร แม้ส่วนตัวจะไม่รู้จักกันแต่ก็ถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ สไตล์การทำงานคงไม่ต่างกันมาก เห็นภาพการระดมทุนขอรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือประชาชนของมหาเถรสมาคมที่นำโดย พระพรหมวชิรญาณ แล้วก็ชื่นใจ หากคณะสงฆ์ไทยฟอร์มทีมดีๆ มีลูกทีมเก่งๆ แบบนี้เชื่อว่าการขับเคลื่อนกิจการคณะสงฆ์คงจะก้าวหน้ามาก และการทำงานแบบนี้ควรที่ประธานฝ่ายต่างๆ ของมหาเถรสมาคมควรดูเป็นแบบอย่าง

ภาพการช่วยเหลือประชาชนและการดำเนินงานผ่านองค์กรของมหาเถรสมาคมแบบบูรณาการแบบนี้เราไม่ค่อยได้เห็นบ่อยครั้ง แต่หากจะถามว่า ในอดีตพระสงฆ์เคยทำไหม?? ผมว่าพระสงฆ์ท่านทำมาตลอดในการช่วยเหลือสังคมและประชาชนในพื้นที่ อย่างน้อยในชีวิตครองสมณเพศของผมก็มีตัวอย่างให้เห็นพระสงฆ์ที่บำเพ็ญอุทิศตนเพื่อสังคม 2 รูป

รูปหนึ่งคือ “พระอุปัชฌาย์” คือ หลวงพ่อลำใย อดีตเจ้าอาวาสวัดทุ่งลาดหญ้า จ.กาญจนบุรี หลวงพ่อลำใย ท่านเป็นนักพัฒนาอย่างแท้จริง ในห้วงเวลาที่สัมผัสกับหลวงพ่อตั้งแต่ปี 2532-2545 ท่านสร้างวัดไม่ต่ำกว่า 5 วัด สร้างโรงพยาบาล สถานีอนามัยหลายแห่ง สร้างบ้านพักคนชรา สร้างอาคารเรียนในโรงเรียนลาดหญ้าและพื้นที่ใกล้เคียงหลายหลัง สร้างหอสมุด สร้างโบสถ์หลายวัด เงินที่คนมาถวายหมดไปกับการก่อสร้างและช่วยเหลือคน หลวงพ่ออุทิศตนเพื่อคนอื่นจนวาระสุดท้ายของชีวิต คือ “มรณภาพคาธรรมาสน์”

 st12 st12 st12 st12

ส่วนอีกรูป คือ “พระศรีสุทธิเวที” เลขานุการเจ้าคณะภาค 9 เลขานุการวัดอรุณราชวราราม รูปนี้เป็นอาจารย์ที่ดูแลผมมาตั้งต้น ท่านเจ้าคุณอุทิศตนเพื่อการศึกษาอย่างแท้จริง ท่านชอบสร้างคนมีลูกศิษย์จบ ปธ.9 ไปแล้วหลายรูปสนับสนุนการศึกษาทั้งเด็กและพระภิกษุสามเณร ทั้งสร้างโรงเรียนการกุศลวัดไตรรัตนาราม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ตั้งมูลนิธิพระศรีสุทธิเวทีเพื่อสนับสนุนการศึกษาบาลี มีการเชิญชวนเด็กและเยาวชนเข้ามาบวชแลส่งเรียนทั้งปริยัติสามัญและบาลี

อันนี้ยังไม่ได้ไล่เรียงพระสงฆ์อีกจำนวนมากที่ท่านสร้างโรงพยาบาล สร้างโรงเรียน สร้างถนนให้กับสังคม และพระคุณเจ้าเหล่านี้ “มีทุนทางสังคม” สิ่งที่ท่านสร้าง ท่านทำ ท่านไม่ได้ของบจากรัฐบาล แต่อาศัย “บุญต่อบุญ” และการที่พระสงฆ์ท่านทำแบบนี้มันก็ “ลดภาระ” ให้กับภาครัฐได้เป็นอย่างดี ทั้งแก้ความเหลื่อมล้ำได้อีกทางหนึ่งด้วย

ฉะนั้นการที่ใครบางคนออกมาพูดทำนองว่า “สร้างโรงพยาบาลดี ดีกว่าสร้างวัด” หรือ “พระเอาแต่ได้” คนประเภทนี้มองแบบคนโลกแคบมองแบบไม่เข้าในวัฒนธรรมองค์กรของพระ พระสงฆ์สายเถรวาทบ้านเราไม่ได้ถูกสอนมาให้บวชเพื่อเป็น “พระโพธิสัตว์” เหมือนสายมหายาน พระสงฆ์สายเถรวาทบวชเพื่อ “ความหลุดพ้นหรือนิพพาน” อยู่แบบสงบเพื่อบำเพ็ญตนในการ ลด ละ เลิก

 st11 st11 st11 st11

การที่พระสงฆ์จะทำอะไรมันก็มีกรอบพระธรรมวินัยคอยควบคุม ภาพที่พระภิกษุ สามเณร จำนวนมากออกมาระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จังหวัดสกลนครมันจึงเป็น “มิติใหม่” พระสงฆ์สายเถรวาทบ้านเรา โดยส่วนตัวถามผมว่าดีไหม? ผมว่าการที่พระสงฆ์ออกมาช่วยเหลือประชาชนแบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ต้องระมัดระวังสมณสารูป อย่าทำอะไรจนเลยขอบเขตของความเป็นสมณะ เพราะเดี๋ยวจะมีประเภทคน “มือถือสาก ปากถือศีล” ออกมาตำหนิเอาอีก

สุดท้ายนี้ประชาชนท่านใดต้องการร่วมบริจาคสิ่งของหรือเงินสด สามารถติดต่อไปได้ที่กองงานฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ของมหาเถรสมาคม วัดยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร โทร 0-2672 3216, 08-1144-4669 หรือ 08-4455-5855 ได้ มีทั้งพระภิกษุสามเณรและฆราวาสคอยรับบริจาค และการรับบริจาคในครั้งนี้ไม่ได้ช่วยเหลือประชาชนอย่างเดียว พระสงฆ์ในพื้นที่ก็เดือดร้อนไม่แพ้กันฆราวาส

….....................
คอลัมน์ : ริ้วผ้าเหลือง
โดย “เปรียญ10” : riwpaalueng@gmail.com


ขอบคุณ เฟชบุ๊ค วัดป่า, วัดยานนาวา พระอารามหลวง , @พระครูสกลวรานุกิจ ดร.สุริยา
ที่,k : https://www.dailynews.co.th/article/588972
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ