ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ในหลวง ร.๙ กับการศาสนา  (อ่าน 1163 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ในหลวง ร.๙ กับการศาสนา
« เมื่อ: ตุลาคม 26, 2017, 07:06:02 am »
0


ในหลวง ร.๙ กับการศาสนา

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้ทรงทำนุบำรุงสืบสานการพระพุทธศาสนา ทั้งด้านพระศาสดา ศาสนธรรม ศาสนบุคคล ศาสนสถาน และศาสนพิธีมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดสาย

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้ทรงทำนุบำรุงสืบสานการพระพุทธศาสนา ทั้งด้านพระศาสดา ศาสนธรรม ศาสนบุคคล ศาสนสถาน และศาสนพิธีมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดสาย ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นพุทธมามกะและเอกอัครศาสนูปถัมภก ทรงบำเพ็ญศาสนกิจ เสด็จออกผนวชตามโบราณราชประเพณี เพราะทรงประจักษ์แก่พระทัยว่า “ธรรมะคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ล้วนมีเหตุผลและเป็นสัจธรรม แม้ผู้ใดจะวิจารณ์ด้วยหลักวิทยาศาสตร์ก็ไม่เสื่อมถอยในความศรัทธา ความเชื่อถือ กับทั้งจักเป็นทางสนองพระเดชพระคุณแด่พระราชบุรพการีอีกทางหนึ่งด้วย” ทรงสถาปนาประมุขสงฆ์เพื่อเป็นหลักในการปกครองคณะสงฆ์ ทรงอุปถัมภ์คณะสงฆ์ไทยทั้งด้านการบริหาร การปกครอง ด้านการศึกษา และการเผยแผ่ อันเป็นการจรรโลงพระพุทธศาสนาให้มีความเจริญรุ่งเรืองและมั่นคงสืบไป



ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลเนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และสืบสานด้านศาสนพิธีในพระราชพิธีต่าง ๆ อยู่เสมอ ตลอดทั้งเสด็จพระราชดำเนินไปในการพิธีที่ทางคณะสงฆ์วัดต่าง ๆ ทำรายงานขอพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์ผ่านมายังกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหน่วยงานของรัฐที่สนองงานสถาบันพระมหากษัตริย์ด้านศาสนพิธี และพระราชทานผ้าพระกฐิน และ เครื่องพระกฐิน แก่หน่วยงาน องค์กร หรือ บุคคล นำไปทอดถวายยังพระอารามหลวง หรือ วัดต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นการส่งเสริมและเป็นกำลังใจให้พุทธศาสนิกชนได้ร่วมสืบสานโบราณราชประเพณีในกฐินกาลทาน อันเป็นการถวายทานตามที่พระวินัยบัญญัติไว้


นอกจากนี้ในฐานะที่ทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมป์ แม้ศาสนาอื่น ๆ ที่อยู่ในพระราชอาณาจักร พระองค์ทรงทำนุบำรุงให้มีความเจริญรุ่งเรืองเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นศาสนาอิสลาม ศาสนาคริสต์ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ เพราะศาสนิกชนทุกศาสนา ถือเป็นประชาชนชาวไทยในพระบรมโพธิสมภาร ที่พระองค์ทรงต้องให้ความอุปถัมภ์ บำรุง และให้ขวัญกำลังใจในการทำความดีของศาสนิกชนในทุกศาสนา ดังพระราชดำรัสที่พระราชทานแก่ผู้แทนองค์การศาสนาและผู้แทนสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในการเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาผกาภิรมย์ วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม 2512


     “...ศาสนานั้นเป็นสิ่งที่ทราบกันอยู่แล้วว่าต้องมี และถือว่าศาสนามีความหมายได้หลายอย่าง ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นศาสนาที่มีชื่อหรือที่ต้องเคร่งครัดตามแนวทางการสั่งสอนอย่างหนึ่งอย่างใด เป็นแต่ต้องมีแนวความคิดที่แน่วแน่ ที่ดี และไม่เบียดเบียน อย่างนี้ก็ถือเป็นศาสนาได้ทั้งนั้น ในเมืองไทยนี้ใครจะถือปฏิบัติตามศาสนาใดก็ได้ทั้งนั้น
     เคยชี้แจงอยู่เสมอว่าเมืองไทยนี้ที่อยู่ได้ก็เพราะไม่มีการกีดกันว่า คนโน้นศาสนาโน้น คนนี้ศาสนานี้ แต่ว่าเป็นที่ทราบกันดีว่าทุกคนปฏิบัติศาสนากิจของตนด้วยความมุ่งดีหวังดี ตั้งใจที่จะให้เกิดประโยชน์ตนและประโยชน์ส่วนรวม ศาสนาทุกศาสนาจึงใช้ได้ทั้งนั้น ขอแต่เพียงอย่าให้เบียดเบียนซึ่งกันและกัน
     สำหรับนักเรียน สำหรับสถาบันการศึกษาก็มีมากันหลายสถาบัน ทั้งทางพลเรือน ทั้งทางทหาร และทั้งชั้นเด็กเล็ก กลาง ใหญ่ ไปจนขั้นอุดมศึกษา ทุกขั้นนี้ก็แยกกันไม่ได้เหมือนกัน ต่างมีความต่อเนื่องกัน...”


     ทีมประชาสัมพันธ์ กรมการศาสนา


ขอบคุณที่มา : https://www.dailynews.co.th/education/605910
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 26, 2017, 07:08:28 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ