« เมื่อ: พฤศจิกายน 30, 2017, 06:45:41 am »
0
ความเป็นไทย มาจากความไม่ไทย โดย สุจิตต์ วงษ์เทศความเป็นไทย มาจากความไม่ไทย เพราะไม่มีความเป็นไทยแท้ดั้งเดิม ที่มีล้วนเป็นสมัยหลังและมีขึ้นจากวัฒนธรรม แต่ไม่ยอมรับความจริง เลยพากันหาความเป็นมาของชนชาติไทยอย่างเฟคๆ
ความเป็นมาของชนชาติไทย มีข้อถกเถียงทักท้วงหลากหลายมานานมากกระทรวงศึกษาธิการ สรุปได้ 5 แนวคิดต่างกัน มีในหนังสือประวัติศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตอนนี้ไม่ใช่เวลาทักท้วงถกเถียงว่าที่ยกเรื่องนี้มาไว้ในแบบเรียนนั้นเหมาะสมหรือไม่? จึงขอปล่อยผ่านไปก่อน ว่างเมื่อไรค่อยย้อนมาว่ากันใหม่
แต่จะยกสรุป 5 แนวคิดของกระทรวงฯ เรื่องถิ่นเดิมของชนชาติไทยมาดังนี้
1. อยู่แถบภูเขาอัลไต ในมองโกเลีย แต่ไม่ได้รับการยอมรับ
2. อยู่บริเวณตอนกลางของแม่น้ำฮวงโห แต่ไม่ได้รับการยอมรับ
3. อยู่บริเวณตอนใต้ของจีน แนวคิดนี้ได้รับการยอมรับ
4. อยู่ในเขตประเทศไทยปัจจุบัน ยังมีผู้โต้แย้ง
5. อยู่บริเวณหมู่เกาะทางใต้หรือคาบสมุทรมลายู ไม่เป็นที่ยอมรับ
แนวคิด 1, 2, 5 ไม่เป็นที่ยอมรับ ก็ไม่ต้องยกมาพูดอีก ส่วนแนวคิดที่ 3 ได้รับการยอมรับ ขอละไว้ก่อน เอาไว้ว่างๆ จะต้องยกมาทักท้วงถกเถียง ตอนนี้ยังไม่ว่าง
สำหรับแนวคิดที่ 4 ยังมีผู้โต้แย้ง จะคัดจากหนังสือของกระทรวงฯ บอกไว้ มาให้อ่าน ดังนี้

อยู่ในไทยปัจจุบัน
“4. แนวความคิดถิ่นเดิมของชนชาติไทยอยู่ในเขตประเทศไทยปัจจุบัน
แนวความคิดนี้เสนอโดยผู้เชี่ยวชาญทางด้านโบราณคดี โดยอาศัยหลักฐานจากการขุดค้นทางโบราณคดีที่ได้พบโครงกระดูก และเครื่องใช้ต่างๆ จำนวนมากกระจัดกระจายทั่วประเทศไทย แสดงให้เห็นว่าในดินแดนประเทศไทยมีประชากรตั้งถิ่นฐานเก่าแก่มานานนับหมื่นปี และเมื่อนำมาศึกษาเปรียบเทียบกับโครงกระดูกของคนไทย ปัจจุบันพบว่ามีความเหมือนกัน จึงสรุปว่าโครงกระดูกที่พบนั้นน่าจะถือได้ว่าเป็นชนชาติไทย
แนวความคิดนี้มีผู้โต้แย้ง โดยอ้างเหตุผลว่าโครงกระดูกมนุษย์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า เป็นโครงกระดูกของชาวไทย เพราะโครงกระดูกมนุษย์ในภูมิภาคนี้มีลักษณะคล้ายๆ กัน”
[จากหนังสือประวัติศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ พิมพ์ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2557 หน้า 98]

พิสูจน์ไม่ได้ทั้งนั้นแหละ
โครงกระดูกมนุษย์ที่นักโบราณคดีขุดพบ ถ้าไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นกระดูกของชาวไทย (ตามที่ระบุในตำราเล่มนี้) ก็ย่อมไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นกระดูกของชาวอื่นๆ ทั้งนั้นแหละ เช่น มอญ, เขมร, ชวา, มลายู, พม่า, เวียดนาม, ม้ง, เมี่ยน, ลาว ฯลฯ
เหตุผลอย่างนี้ไม่ควรยกเป็นข้อโต้แย้ง เพราะชื่อชนชาติมีขึ้นสมัยหลังโครงกระดูกมนุษย์เหล่านั้นหลายพันปี จะเอาชื่อชนชาติที่มีสมัยหลังไปกำหนดเป็นชื่อเรียกโครงกระดูกเหล่านั้นหาได้ไม่

ชาวอุษาคเนย์
โครงกระดูกเหล่านั้นที่แน่ๆ เป็นชาวอุษาคเนย์โบราณดึกดำบรรพ์ ไม่ใช่มนุษย์ต่างดาว
1. โครงกระดูกมนุษย์เหล่านั้น ล้วนมีส่วนเป็นบรรพชนสายใดสายหนึ่งร่วมกันของคนปัจจุบันในอุษาคเนย์ รวมถึงเป็นบรรพชนคนไทยด้วย
2. ไทยเป็นชื่อทางวัฒนธรรม เพิ่งสมมุติเรียกไทย, คนไทย เมื่อเรือน พ.ศ. 1800 เฉพาะบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาที่มีรัฐอยุธยาเป็นศูนย์กลาง (ไม่ใช่สุโขทัย) ก่อนหน้านั้นไม่มีคนที่ไหนเรียกตัวเองว่า ไทย, คนไทย มีแต่เรียกอย่างอื่น เช่น ลื้อ, จ้วง, ผู้ไท ฯลฯ
ถ้ารับความจริงเหล่านี้ โครงกระดูกเหล่านั้นก็เป็นได้ทั้งหมด ไม่ว่าไทยหรือไม่ไทย
3. ความเป็นไทย มาจากความไม่ไทย ดังนั้นโครงกระดูกมนุษย์ที่นักโบราณคดีขุดพบก็มีโอกาสเป็นไทยได้ทั้งนั้น ถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมครบถ้วน

หากสงสัยให้อ่านคำอธิบายอยู่ในหนังสือ ความไม่ไทย ของคนไทย ของ นิธิ เอียวศรีวงศ์ (สำนักพิมพ์มติชน พิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2559) หนังสือเล่มนี้ไม่เหมาะสำหรับคนที่เชื่อหัวชนฝาว่าไทยเป็นเชื้อชาติบริสุทธิ์ผุดผ่องดังทองคำ
หน้าปกหนังสือ ความไม่ไทยของคนไทย เขียนโดย นิธิ เอียวศรีวงศ์
ขอบคุณภาพและเนื้อหา
https://www.matichon.co.th/news/748856
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 30, 2017, 06:48:07 am โดย raponsan »

บันทึกการเข้า

ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ