มิอาจหลีกเลี่ยงได้.!! หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เล่าเรื่อง "ตายจากคนไปเกิดเป็นวัว" ผลกรรมจากการเป็นหนี้ข้ามภพข้ามชาติ แม้ตายไปก็ยังต้องชดใช้ .!!เรื่องเล่าจากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่องของการเกิด การตาย เรื่องของบาปบุญ เและจิตสุดท้ายก่อนตายไปนั้นมีมากมาย ดังเช่นเรื่อง ตายจากคนไปเกิดเป็นวัว จาหนังสือ ตายแล้วไม่สูญ โดยมีผู้มาถามว่า เรื่องตายจากคนแล้วเป็นผีนั้นไม่สงสัย แต่อยากทราบว่าคนที่ตายแล้วไปเกิดเป็นสัตว์รับใช้มีบ้างไหม ก็พอดีอาตมาไปพบเข้าเรื่องหนึ่ง เป็นเรื่องของอดีตใกล้ปัจจุบัน เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๔๖๕ พระภิกษุศรี วัดแก้วแจ่มฟ้า ได้เล่าเรื่องนี้ให้ พันโทพระพินิจศาลา ฟัง อาตมาทราบมาจากพระพินิจศาลาอีกทอดหนึ่ง
เรื่องมีอยู่ว่า มีชายจีนคนหนึ่งชื่อ "เก๊า" มีภรรยาเป็นคนไทยชื่อ "ทองคำ" ตั้งร้านค้าขายอยู่ที่ตลาดน้อย จังหวัดพระนคร สมัยที่คุณพระเล่าเรื่องนี้ เขายังนิยมเรียกว่าเมืองบางกอก กรุงเทพฯ หรือพระนครนั้นเป็นชื่อที่ตั้งขึ้นภายหลัง
@@@@@@
นับถอยหลังจาก พ.ศ. ๒๔๖๕ ไป ๓๗ ปี สมัยนั้นแกค้ายาฝิ่นได้ถูกไฟไหม้ร้านค้า ขณะที่เกิดเพลิงไหม้ร้านค้านั้นเป็นเวลาดึกสงัด แกรู้สึกตัวขึ้นต่อเมื่อไฟลุกลามมากเสียแล้ว แกเก็บสมบัติส่วนอื่นไม่ทันเลย คว้าเอาบัญชีค้าขายออกมาได้อย่างเดียว โดยคิดว่าเอาอะไรไม่ได้ก็ช่าง ได้บัญชีไว้คงไม่อดตาย เพราะยังมีลูกหนี้ที่มาซื้อยาฝิ่นที่ยังไม่ได้ชำระเงินอีกหลายราย ต่อมาแกก็เลิกค้ายาฝิ่น หันมาค้าขายชันและนํ้ามันยาง จึงไปซื้อวัวมาตัวหนึ่งสำหรับบดชันขาย แกบดชันขาย แกก็ค่อยๆ รํ่ารวยขึ้นตามลำดับ จนปลูกตึกเป็นที่อยู่และร้านค้า ตอนนี้แกรวยมากก็คิดถึงความดีของเจ้าวัวคู่ยาก เพราะหลังจากไฟไหม้ร้านค้าฝิ่นแล้ว แกก็เกือบสิ้นทรัพย์
ต่อมาค้าขายเล็กๆ น้อยๆ พอมีทุนบ้าง ก็ซื้อวัวตัวนี้มาบดชัน เป็นเหตุให้มีฐานะมั่นคงจนมีตึกมีร้านอยู่ จึงไม่อยากจะรบกวนเจ้าวัวเพื่อนยากให้ลำบากอีกต่อไป จะขายให้ชาวบ้านเอาไปใช้งานหรือก็เกรงว่าวัวจะต้องทำงานหนักอีก จะขายให้แขกก็เกรงว่าแขกจะฆ่า จะเอาไว้ที่ร้านค้าก็ไม่มีที่เหมาะสม ตรึกไปตรองมาก็คิดได้ว่าที่ วัดทองนพคุณ ฝั่งธนบุรี สมัยนั้นเป็นวัดอยู่ในสวนมีบริเวณกว้างมาก สนามหญ้าก็ใหญ่โต คุณเถ้าแก่เก๊าแกมองเห็นประโยชน์ ๒ ทาง คือ
๑) ถ้าแกเอาเจ้าวัวตัวนี้ไปถวายพระ พระท่านไม่มีงานใช้ เจ้าวัวก็จะอยู่เป็นสุขสมกับความตั้งใจของแก ปรารถนาจะให้มันพักผ่อน ไม่ต้องทำงานต่อไป
๒) พระจะได้อาศัยวัวเก็บหญ้าในลานวัดกินเป็นอาหาร เป็นการช่วยพระปราบหญ้าไปในตัว
@@@@@@
เมื่อแกหารือกับคุณนายทองคำศรีภรรยาเป็นที่ตกลงกันแล้ว แกก็นำเจ้าวัวของแกข้ามจากฝั่งพระนครมาฝั่งธน สมัยนั้นสะพานข้ามแม่นํ้าเจ้าพระยายังไม่มี ต้องอาศัยเรือจ้างข้ามฟาก ตอนที่แกเอาวัวข้ามแม่นํ้าแกให้เจ้าวัวตัวนั้นว่ายนํ้า ตัวแกเองนั่งบนเรือ ถึงแม้วัวจะเหนื่อยหน่อยแกก็คิดว่าเป็นการเหนื่อยครั้งสุดท้าย
เมื่อข้ามฟากไปฝั่งธนบุรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แกก็จูงเจ้าวัวเพื่อนยากไปฝากเจ้าอาวาส เมื่อท่านเจ้าอาวาสรับฝากแล้ว แกก็กลับบ้านมานอนสบายใจที่ได้สงเคราะห์วัวตัวที่แกรักได้สมเจตนา พอเช้าวันรุ่งขึ้นแกก็ต้องแปลกใจที่เห็นเจ้าวัวตัวนั้นมายืนอยู่หน้าประตูตึก สมัยนั้นวัวหรือม้าหรือควายเดินในท้องถนนหลวงไม่ใช่ของแปลก เพราะสัตว์พวกนี้มีมากในถนนหลวง รถหาได้ยากเต็มทน วันหนึ่งมีรถยนต์ผ่านหน้าไม่เกิน ๔ เที่ยวเป็นอย่างมาก รถที่ใช้เป็นพาหนะส่วนใหญ่ก็เป็นรถม้า นานๆ จะพบรถเจ๊ก เมื่อแกกินข้าวเช้าเรียบร้อยแล้ว แกก็นำเจ้าวัวตัวนั้นกลับไปให้พระวัดทองนพคุณใหม่ ตายจากคนไปเกิดเป็นวัว
@@@@@@
คืนวันนั้นเองคุณเถ้าแก่เก๊าแกนอนหลับฝันไปว่า เจ้าวัวตัวนั้นมันมาหาบอกชื่อตัวเองว่าชื่อ "ลก" เมื่อสมัยที่แกขายยาฝิ่นนั้น นายลกหรือวัวตัวนั้นเคยซื้อยาฝิ่นเป็นสินเชื่อไว้ ยังชำระหนี้ไม่หมด เห็นว่าเลิกขายยาฝิ่น ก็เลยไม่ยอมจ่ายเงินให้ เจ้าวัวตัวนั้นที่มาเข้าฝันก็พูดต่อไปว่า
"เมื่อฉันเป็นหนี้นายและยังไม่ได้ชำระหนี้ ฉันจึงมาเกิดเป็นวัวเพื่อให้นายใช้งาน เป็นการชำระหนี้ด้วยแรงงาน ขอนายจงไปเอาฉันมาใช้งานจนกว่าฉันจะตายไปตามสภาพ ฉันจึงจะพ้นหนี้ ถ้านายไม่เอาฉันมาใช้ ชาติต่อไปฉันก็ยังจะต้องเกิดเป็นวัวให้ใช้งานต่อไป โอกาสที่จะหมดโทษก็จะไม่มี ถ้านายสงสารฉัน ขอให้นายไปรับฉันมาใช้งานตามเดิมเถิด"
@@@@@@
พอรุ่งเช้าคุณเถ้าแก่เก๊าก็สำรวจตรวจสอบบัญชีลูกหนี้ พบชื่อ "ลก" จริงๆ มีหนี้ตามบัญชีอยู่ ๓๖ บาท เมื่อหลักฐานมีตรงตามความฝัน แกก็ไปนำเจ้าวัวแสนซื่อของแกมาไว้ที่บ้าน ใช้งานแต่เพียงวันละนิดหน่อยพอเป็นธรรมเนียมจนกว่ามันจะตาย
เรื่องนี้คุณพระพินิจบอกว่า เจ้าพวกวัว ควาย ช้าง ม้าที่ถูกใช้งานหนักๆ โดยไม่มีค่าจ้างแรงงาน แต่ผลที่ได้รับเป็นเครื่องตอบแทนความเหนื่อยยากก็คือ หญ้าสดบ้าง หญ้าแห้งบ้าง เห็นจะเป็นเพราะสมัยเป็นมนุษย์คงจะโกงเงิน คือเป็นหนี้แล้วไม่ยอมชำระหนี้สินแบบนายลกนี้เป็นแน่ บางทีเจ้าของเงินเขาไม่ว่าแต่กฎของกรรมว่าเสียเอง ทั้งๆ ที่เจ้าของเงินไม่รู้เนื้อไม่รู้ตัวเรื่องการถูกลงโทษ ส่วนพวกวัวควายที่ถูกเขาใช้งานแล้ว เมื่อเขาหมดความต้องการก็ถูกเจ้าของจับฆ่าเป็นอาหาร ก็คงจะเนื่องมาจากชาติก่อนเคยฆ่าสัตว์ประเภทนั้นตาย จึงต้องไปเกิดเป็นสัตว์ประเภทนั้น และต้องถูกฆ่าตายจนกว่าจะครบจำนวนตามที่เคยฆ่ามาแล้ว
@@@@@@
ก็เป็นอันว่าคนที่คิดจะหลบหนี้ด้วยการฆ่าตัวตาย เพื่อเจ้าหนี้จะได้ตามทวงไม่พบ ถ้าเรื่องนี้มีผลตามที่ท่านคุณพระพินิจเล่าให้ฟังแล้ว ก็หนักใจแทนท่านที่หลบหนี้ เพราะถ้ารับใช้สมัยเป็นคนเพื่อการชำระหนี้ด้วยแรงงาน ยังมีโอกาสกินข้าวกินขนมได้อย่างเจ้าหนี้ เหนื่อยก็ขอร้องผลัดผ่อนได้ ร้อนก็บอกได้ แต่ตอนที่เกิดเป็นวัวเป็นควายนั้นแสนจะระทม หิวอาหาร กระหายนํ้า เหนื่อย ยุงกินริ้นกัด หมดทางที่จะรายงานเพราะพูดไม่มีใครรู้เรื่อง มันเป็นกรรมที่แสนจะทรมาน
ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำวัดท่าซุง
เรียบเรียงโดยเสาวลักษณ์ แสงสุวรรณ
http://www.tnews.co.th/contents/409803