ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เชื่อหรือไม่ว่า “ช้างน้ำ” มีจริง มีทั้งในวรรณคดี ธรรมชาติ ความเชื่อทางไสยศาสตร์  (อ่าน 962 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29398
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



เชื่อหรือไม่ว่า “ช้างน้ำ” มีจริง! มีทั้งในวรรณคดี ในธรรมชาติ และในความเชื่อทางไสยศาสตร์!!
เผยแพร่: 2 มี.ค. 2561 10:07:   โดย: โรม บุนนาค

ภาพช้างน้ำในจิตกรรมฝาผนังวัดคงคาราม ราชบุรี


ช้างน้ำ คือสัตว์ลึกลับที่ยังถกเถียงกันตลอดมาว่ามีจริงหรือไม่ เช่นเดียวกับเหล็กไหลที่ยังหาข้อยุติไม่ได้เช่นกัน แต่ก็มีข่าวอยู่เป็นระยะว่าผู้ครอบครองท้าการพิสูจน์ ซึ่งทุกครั้งข่าวก็จบลงด้วยการหายไปเฉยๆโดยไม่มีผลสรุป

ในหนังสือ “ช้างต้น” ซึ่งเรียบเรียงขึ้นเนื่องในโอกาสที่กรมศิลปากรได้ดำเนินจัดทำพิพิธภัณฑ์โรงช้างต้น นอกจากได้กล่าวถึงการคล้องช้างไว้อย่างน่าศึกษาแล้ว ยังได้กล่าวถึงช้างน้ำไว้เพียงเล็กน้อยว่า ช้างน้ำเป็นสัตว์ขนาดเล็ก ตัวยาวเพียง ๖ นิ้ว สูง ๓ นิ้ว มีรูปร่างเช่นเดียวกับช้างบก คือมีสี่ขา มีงวง มีงายาวประมาณ ๓ นิ้ว แต่หางมีรูปร่างอย่างหางปลา เพราะเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในน้ำ

กล่าวกันว่าช้างน้ำมีพิษร้ายแรงมาก เมื่อช้างบกลงไปอาบน้ำและถูกช้างน้ำแทงด้วยงา ก็จะตายด้วยพิษของช้างน้ำในไม่ช้า

เรื่องของช้างน้ำปรากฏอยู่ในวรรณคดีหลายเรื่อง เช่น “พระอภัยมณี” ของ สุนทรภู่ “นิราศตังเกี๋ย” ของ หลวงนรเนติบัญชากิจ ชาดกในพระพุทธศาสนาเรื่อง “เวสสันดร” กล่าวถึงช้างน้ำในกัณฑ์หิมพานต์ คัมภีร์ของศาสนาพราหมณ์ ในเทวปาง กล่าวถึงกำเนิดของช้างน้ำที่ชื่อ “อสุรภังคี”

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคลทรงยืนยันว่า ได้เคยทอดพระเนตรช้างน้ำตัวจริงครั้งหนึ่ง เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จนครศรีธรรมราช และมีชาวบ้านนำช้างน้ำใส่ขวดโหลมาทูลเกล้าฯถวาย ลักษณะเหมือนช้างใหญ่ทุกอย่าง เพียงแต่ต่างขนาดกันมากเท่านั้น


ภาพช้างน้ำที่เป็นข่าว

ในปี ๒๔๘๓ มีข่าวว่าพบช้างน้ำในภาคเหนือ และว่ามีชุมอยู่ในแม่น้ำโขง แม่น้ำสาละวิน และแม่น้ำปิง มีส่วนสูง ๖ นิ้ว ไม่มีขน หนังสีดำมอๆเหี่ยวย่น

เมื่อวันที่ ๒ พฤษภาคม ๒๕๔๖ ช้างน้ำขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ “คมชัดลึก” อีกครั้งพร้อมรูป โดยนายดิเรก เสียงแทน อายุ ๒๘ ปี เจ้าของร้านอาหารพาราไดซ์ ถนนแม่สอด-แม่ระมาด ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้นำซากช้างน้ำมาให้ผู้สื่อข่าวดู อ้างว่าได้มาจากชาวพม่าที่จับได้จากสระน้ำบนภูเขา แต่เลี้ยงไว้ ๗ วันก็ตาย ตอนมีชีวิตอยู่ร้องเหมือนช้างด้วย

นายดิเรกกล่าวว่าได้นำซากช้างตัวนี้ไปเอ็กซเรย์ที่โรงพยาบาลพะวอแล้ว พบว่ามีกระดูกสันหลังและมีโครงสร้างเหมือนช้างทุกประการ ส่วนแพทย์ผู้เอ็กซเรย์บอกว่าให้บริการแต่เรื่องเอ็กซเรย์เท่านั้น ไม่สามารถให้ความเห็นได้ เพราะไม่มีความรู้เรื่องสัตว์

@@@@@@

ส่วนนายสละ ฉ่วยหนู อายุ ๕๐ ปี ควาญช้างบ้านปูเต้อ อำเภอแม่กุ อำเภอแม่สอด ให้สัมภาษณ์ “คมชัดลึก” เรื่องนี้ว่า ในชีวิตยังไม่เคยเห็นช้างน้ำ แต่เชื่อว่ามีจริง พ่อเคยบอกว่าช้างตกมันก็ยังไม่กล้าทำร้ายคนถืองาช้างน้ำ เพราะกลัว แม้แต่เอางาช้างน้ำไปซ่อนไว้ในโพรงไม้ ช้างตัวใหญ่ยังไม่กล้าข้าม

มีความเชื่อทางไสยศาสตร์กันว่า ใครที่พกงาช้างน้ำจะแล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง จึงมีช้างน้ำออกมาเป็นข่าวปั่นราคากันหลายราย บ้างก็จบแบบถูกจับได้ว่าเอาสัตว์ประเภทหนูมาเสียบงาปลอมเข้าไป

ช้างน้ำจึงเป็นเรื่องลึกลับเช่นเดียวกับเหล็กไหล ที่ยังไม่มีการพิสูจน์ และเป็นความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์กันต่อไป



ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก
https://mgronline.com/onlinesection/detail/9610000021114
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ