ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สาเหตุที่ ”การตักบาตร” ต่างจากการทำบุญวิธีอื่น.?  (อ่าน 846 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29390
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



สาเหตุที่ ”การตักบาตร” ต่างจากการทำบุญวิธีอื่น.?


เคยสงสัยไหมคะ เราตักบาตร ทำไมการตักบาตร มีความสำคัญอย่างไร.? เรื่องนี้พระอาจารย์มีคำตอบ
พระราชญาณกวี(ท่านปิยโสภณ) กล่าวไว้ในบทความ การตักบาตรมีความสำคัญอย่างไร ว่า

@@@@@@@

การตักบาตร เป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญมาก

พระอาจารย์มองว่า วิถีชีวิตชาวพุทธที่เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการให้เป็นวิถีชีวิตที่มีคุณค่ามาก เริ่มต้นชีวิตวันใหม่ด้วยการให้ เหมือนพระอาทิตย์ทอแสงขึ้นมาแล้วให้แสงสว่าง คนไทยเป็นคนชอบให้ แต่ไม่ชอบรักษาศีล ไม่มีชนชาติใดให้ทานเก่งเท่ากับคนไทย จนก็ให้ รวยก็ให้ ให้เป็นเรื่องใหญ่มาก การทำบุญ คือการให้ทานการทำบุญเหมือนเป็นหัวข้อใหญ่ๆ การทำบุญมีอยู่ 3 วิธี คือ ทาน ศีล เจริญสมาธิภาวนา

เราทำขั้นพื้นฐานกันอยู่บันไดขั้นแรก แสดงว่าใจเราเป็นกุศล การให้เป็นเรื่องที่ดี ใจคนไทยเป็นบุญเป็นกุศลมาก ชอบให้ ทำให้เราผ่อนคลาย บางคนเครียดแล้วทำบุญ การทำบุญเป็นวิธีคลายเครียดอย่างหนึ่ง เหมือนกับจิตตสปา คุณค่าของมนุษย์เริ่มต้นที่รู้สึกภูมิใจ พอถึงจุดหนึ่งก็จะต่อไปอีกว่า เป็นผู้ให้ที่ทำให้คนอื่นภูมิใจ เหมือนกับเราตักข้าวใส่บาตรพระ เราภูมิใจที่มีชีวิตสังขารทุกวันนี้เราเป็นผู้ให้ พระเป็นผู้รับ

@@@@@@

สังเกตไหมว่า การทำบุญตักบาตรต่างจากการทำบุญอย่างอื่น เพราะเวลาที่เราให้ปกติ ผู้ให้จะสูงกว่าผู้รับ โดยธรรมชาติของผู้รับเป็นหนี้บุญคุณของผู้ให้ ทีนี้พอเราถวายอะไรแด่พระสงฆ์ เราจะมีความรู้สึกว่าขอบคุณ ที่ท่านมารับถึงหน้าบ้าน ถ้าท่านไม่เดินผ่านบ้านเรา เราจะถวายได้อย่างไร และเราไม่ได้เจาะจงด้วยว่าพระที่เดินมาชื่ออะไรไม่มีใครถาม มีพระฝรั่งรูปหนึ่งบวชที่วัดเราบวชวันแรกคนทั้งโบสถ์กราบ เขาตกใจ เขางง ตื่นเช้าขึ้นมาออกไปบิณฑบาต คุณยายกับหลานนั่งอยู่ด้วยกัน พอพระฟรานซิสเดินมา กราบลงไป แล้วเอาข้าวใส่บาตร

ปรากฏว่าเขากลับไปถามพระอาจารย์เป็นแบบนี้ทั้งประเทศไหม เราก็บอกว่าให้พิสูจน์เอง โดยซื้อตั๋วให้โยมพาไปวัดป่าภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคใต้ เขาก็กลับมาบอกว่า ผมเชื่อแล้วว่าที่นี่คือเมืองพุทธเหมือนกันหมดทั้งประเทศ มีแต่ความสงบร่มเย็น มันเป็นวิธีลดทิฏฐิมานะที่ดีมาก ลดทิฏฐิมานะอย่างไร บวชเสร็จแล้วพ่อแม่กราบลูก นายพลเอกกราบนายทหารที่ขับรถให้ ณ วันที่บวช ไม่ว่าคุณจะใหญ่มาจากไหนก็ต้องไหว้พระสงฆ์ ไหว้ในสมมุติสงฆ์

@@@@@@@

เพราะฉะนั้นพระอาจารย์คิดว่าการบวชเป็นวิธีการที่กลับตาลปัตร วิถีชีวิตของเด็กคนหนึ่งซึ่งมีความรู้สึกว่า อยากเปลี่ยนแปลงชีวิต แต่เปลี่ยนไม่ได้ แล้วก็เข้าพิธีตามระบบของคณะสงฆ์ หลังจากนั้นมันจะพลิกหมดเคยกินเหล้าก็ต้องหยุดกินเหล้า เคยสูบบุหรี่ก็ต้องหยุดสูบบุหรี่ เคยเที่ยวก็ต้องหยุดกติกาของชีวิตเปลี่ยนไปหมด เวลาใส่บาตรพระก็ต้องอธิษฐานจิต ให้โยมมีความสุขความเจริญ มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ อายุยืนไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน คิดอยู่ในใจ นี่คือสิ่งที่พระคิดอยู่ในใจ เราจะได้ยินพระให้พรในตอนท้าย ในขณะที่โยมเวลาใส่บาตร เชื่อว่าหลายๆ คนจะรู้สึกว่าเวลาใส่บาตรต้องคิดอะไร

เด็กๆ อาจสงสัยก็ได้ว่า ต้องคิดอะไรไม่ต้องคิดอะไร คิดว่าทำอย่างไรให้เรามีความสุข เจริญรุ่งเรือง ไม่มีไข้เจ็บเบียดเบียนให้วิถีชีวิตของเราไม่มีสิ่งบดบัง ทางเดินข้างหน้าปลอดโปร่ง มีผู้อุปการะ มีผู้ดูแลมีผู้คุ้มกันปกป้องคุ้มครอง มีคนชี้แนะเวลาที่เดินหลงทาง อธิษฐานในสิ่งดีๆ อะไรก็ได้ที่เป็นพร แต่ไม่ใช่การขอ เป็นการอธิษฐานเพื่อที่เราจะได้ทำ 

โดยอาศัยพระเป็นประจักษ์พยานมันเหมือนเราตั้งใจจะทำอะไร แล้วมีพระเป็นประจักษ์พยานเป็นอธิษฐานบารมี



ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก
http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/41380.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มีนาคม 16, 2018, 06:50:40 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ