ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ชมพุทธศิลป์ 3 แห่ง 3 สมัยในเมืองแม่กลอง ของดีที่ชาวพุทธไม่ควรพลาด  (อ่าน 889 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29347
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



ชมพุทธศิลป์ 3 แห่ง 3 สมัยในเมืองแม่กลอง  ของดีที่ชาวพุทธไม่ควรพลาด

หลายคนมักจะรู้จัก “ แม่กลอง ” หรือ“สมุทรสงคราม” ผ่านตลาดน้ำชื่อดังอย่าง “อัมพวา” ไม่ก็ของดีสุดอร่อย ของฝากถูกใจ อย่างปลาทูและหอยหลอด

แต่ครั้นจะช็อป – ชิม – ชิลอย่างเดียวก็ดูจะไม่ครบสูตร  Secret จึงอาสาพาคุณไป “ชม” งานพุทธศิลป์เมืองแม่กลอง…อีกหนึ่งของดีที่ชาวพุทธและนักแสวงบุญ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง




โบสถ์วัดบางกุ้ง อันซีนไทยแลนด์ (Unseen in Thailand)

วัดบางกุ้ง อำเภอบางคนที ปัจจุบันเป็นวัดร้างเหลือเพียงโบสถ์เล็กๆ 1 หลัง สันนิษฐานว่าวัดนี้สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลาย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจของทหารใน “ค่ายบางกุ้ง” ค่ายทหารที่ตั้งขึ้นเพื่อสกัดกั้นกองทัพพม่าในรัชกาลสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ดังที่ปรากฏในพงศาวดาร

จุดเด่นของโบสถ์แห่งนี้เริ่มต้นที่หลังคาและผนังโดยรอบ ซึ่งปกคลุมด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่สี่ชนิด (โพธิ์ ไทร ไกร และกร่าง) ทั้งสี่มุมของโบสถ์ ด้วยเหตุนี้บางคนจึงเรียกว่า โบสถ์ปรกโพธิ์ หรือ โบสถ์ในต้นไม้ แต่ถึงกระนั้นเราก็ยังสามารถมองเห็นลักษณะภายนอกของโบสถ์ได้ค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าบันด้านตะวันตกที่ยังคงปรากฏลวดลายปูนปั้นและการประดับตกแต่งด้วยเครื่องถ้วยจีน

ภายในโบสถ์ประดิษฐาน หลวงพ่อนิลมณี หรือ หลวงพ่อดำ เป็นพระพุทธรูปประธาน ส่วนผนังทั้งสี่ด้านนั้นแม้จะมีร่องรอยการไหลซึมของน้ำฝนค่อนข้างมาก แต่ก็ยังปรากฏภาพจิตรกรรมเรื่องอดีตพระพุทธเจ้า(เขียนเป็นแถวอยู่บนสุดของผนังทั้งสองด้าน) และพุทธประวัติ (อยู่กลางผนัง) ให้เห็นเป็นบางส่วน เป็นหลักฐานแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า“ในอดีตวัดแห่งนี้มีความสำคัญไม่น้อยทีเดียว”




วัดอัมพวันเจติยาราม  อนุสรณ์สถานแห่งรัชกาลที่สอง

วัดอัมพวันเจติยาราม อำเภออัมพวา อยู่ติดกับตลาดน้ำอัมพวา เชื่อเหลือเกินว่า ขาช็อปน้อยคนนักที่จะรู้ว่าวัดนี้มีความสำคัญอย่างไร มีอะไรควรชมบ้าง นอกจากมาอาศัยจอดรถกันเป็นส่วนใหญ่

อาณาบริเวณของวัดอัมพวันฯ โดยรอบนั้น เคยเป็นนิวาสสถานเก่าของรัชกาลที่ 1 (เมื่อครั้งเป็นหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระปรางค์องค์ใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยระเบียงคด นั้น รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมสรีรังคารและพระบรมอัฐิบางส่วนของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 เพราะทรงเชื่อว่า บริเวณดังกล่าวเป็นที่ตั้งของเรือนเก่าที่สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินีมีพระประสูติกาลพระราชชนกนั่นเอง

เสนาสนะสำคัญในวัดที่ไม่ควรพลาดชมได้แก่ พระอุโบสถ ซึ่งเป็นงานช่างสมัยรัชกาลที่ 1 ส่วนจิตรกรรมภายในพระอุโบสถที่ว่าด้วยพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และผลงานพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 เป็นงานช่างที่คงเขียนขึ้นเพิ่มเติมในสมัยหลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพกระบวนพยุหยาตราบริเวณผนังทางเข้าพระอุโบสถนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงร่วมลงฝีพระหัตถ์ด้วยพระองค์เอง

พระที่นั่งทรงธรรม ประดิษฐานพระพุทธรูปและรอยพระพุทธบาทสี่รอย (เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการเสด็จมาของพระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้แล้ว 4 พระองค์ในภัทรกัลป์นี้) นอกจากนี้ยังมีพระตำหนักใหญ่ทางทิศใต้ พระตำหนักเล็กทางทิศตะวันตก และหมู่กุฏิเรือนไทยโบราณ ซึ่งเป็นงานช่างในสมัยรัชกาลที่ 3 ที่ควรชม




วัดบางแคน้อย อลังการงานช่างที่ต้องไปชม

วัดบางแคน้อย อำเภออัมพวา อยู่ติดกับแม่น้ำแม่กลอง ตามประวัติเล่าว่า คุณหญิงจุ้ย (น้อย) วงศาโรจน์เป็นผู้สร้างขึ้นราว พ.ศ. 2400

อุโบสถหลังแรกของวัดนี้เดิมสร้างอยู่บนแพไม้ไผ่ แต่ภายหลังได้ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ทางวัดจึงต้องเปลี่ยนมาสร้างอุโบสถบนพื้นดินแทน แต่กระนั้นอุโบสถหลังใหม่ก็ชำรุดทรุดโทรมต้องบูรณะซ่อมแซมอีกหลายครั้ง กระทั่งราว พ.ศ. 2530 พระครูสมุทรนันทคุณเจ้าอาวาส จึงดำเนินการสร้างอุโบสถหลังล่าสุดขึ้นตามรูปแบบประเพณีนิยม

จุดเด่นของอุโบสถหลังนี้อยู่ที่การตกแต่งภายใน ซึ่งทั้งหมดเป็นผลงานการแกะสลักไม้ล้วนๆ! ด้วยช่างฝีมือจากจังหวัดเพชรบุรี ไม่ว่าจะเป็นฐานชุกชีพระประธาน พระพุทธสมุทรศรีพิชัยวิสุทธิมุนีหรือ หลวงพ่อชนะมาร ที่แกะสลักจากไม้มะค่าโมงขนาดกว้างถึง 2 เมตรครึ่ง ยาว 3 เมตร ที่น่าทึ่งคือ การใช้ต้นไม้จริงทั้งต้นแทนลำต้นของต้นพระศรีมหาโพธิ์ ส่วนใบโพธิ์นั้นก็แกะสลักด้วยไม้ทั้งหมดดูพลิ้วไหวสวยงามราวกับมีชีวิต

นอกจากนี้ผนังโดยรอบยังแกะสลักไม้เป็นภาพพุทธประวัติตั้งแต่ประสูติจนถึงปรินิพพาน ทศชาติชาดก ส่วนเพดานภายนอกอุโบสถโดยรอบก็เป็นฉากสำคัญๆ ในวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งทั้งหมดนี้ดูงดงามชนิดที่ว่า “ใครได้เห็นเป็นต้องทึ่ง!”

วัดบางแคน้อยยังมีหลายสิ่งที่ควรชม เช่น หมู่กุฏิเรือนไทยอายุกว่า 130 ปี บุษบกแท่นวัชรอาสน์ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระพุทธรูปอดีตพระพุทธเจ้า 28 พระองค์ทรงเครื่องกษัตริย์

@@@@@@@

ลองหาวันว่างสักวันไปเยือนถิ่นแม่กลอง แค่วันเดียวก็สามารถเที่ยวชมงานพุทธศิลป์ได้ถึง 3 สมัย เริ่มตั้งแต่อยุธยาตอนปลาย รัตนโกสินทร์ตอนต้น และงานช่างแผ่นดินปัจจุบัน


 

ภาพ สรยุทธ พุ่มภักดี
http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/30139.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ