คนตาย..จะไม่ได้ไปผุดไปเกิด.!! ความเชื่อโบราณ..ห้ามนำ "ขนมจีน" มาเลี้ยงในงานศพเด็ดขาด.!! เชื่อ..จะทำให้ตายต่อกันไปเป็นทอดๆ
ขนมจีนไม่ใช่อาหารจีน หากแต่เป็นอาหารมอญ คำว่า "ขนมจีน" มาจากภาษามอญว่า "ขฺนํจินฺ" [คะ -นอม-จีน] คำว่า "คะนอม" มีความหมายอย่างหนึ่งว่าเส้นขนมจีน คำว่า "จีน" มีความหมายว่า "สุก" ขนมจีนถือเป็นอีกหนึ่งอาหารคาวที่ได้รับความนิยมมากในไทย
ขนมจีน เป็นอาหารคาวชนิดหนึ่ง ทำด้วยแป้งเป็นเส้นกลมๆ คล้าย เส้นหมี่ รับประทานกับน้ำยา น้ำพริก เป็นต้น อาหารชนิดนี้ ภาษาเหนือเรียก "ขนมเส้น" ภาษาอีสานเรียก "ข้าวปุ้น" และภาคใต้เรียก "หนมจีน"
ตามความเชื่อของคนไทยในสมัยโบราณ ห้ามไม่ให้นำขนมจีนมาเลี้ยงในงานศพอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเชื่อกันว่าจะทำให้เกิดเหตุการณ์ตายต่อกันไปเป็นทอดๆ คนไปจะไม่หมดห่วง และ คนตายจะไม่ได้ไปผุดไปเกิด นอกจากนี้ยังมีการห้ามนำอาหาร ประเภทเส้น และวัตถุดิบจำพวกเครือเถาวัลย์ เช่น แตงกวา แตงโม ฟัก และแฟง มาประกอบอาหารในงานศพอีกด้วย 
ในไทย พม่า ลาว และเขมร ขนมจีนเป็นอาหารที่ใช้เลี้ยงในงานบุญเหมือนกัน เพราะกินสะดวก เป็นอาหารจานเดียว หยิบขนมจีนใส่จาน ราดด้วยน้าแกงในหม้อ ใส่ผักและเครื่องปรุงตามชอบ แค่นี้ก็ได้อิ่มอร่อยกันถ้วนหน้า คนไทยยังนิยมทาขนมจีนน้ายาถวายพระ และเลี้ยงขนมจีนในงานบุญงานมงคลทุกชนิด เพราะเชื่อว่าเป็นขนมมงคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะขาดขนมจีนไม่ได้ในงานแต่งงานและงานหมั้น เพราะเชื่อว่าเส้นที่ยืดยาวทาให้ชีวิตคู่อยู่ยืนนาน
ตรงกันข้ามสาหรับงานศพ คนไทยภาคกลางหลายแห่งไม่นิยมเลี้ยงขนมจีน เพราะไม่ต้องการให้ยืดเยื้อ บางท้องถิ่นก็เชื่อรุนแรงขนาดเลี้ยงขนมจีนในงานศพแล้ว คนตายจะไม่ได้ไปผุดไปเกิด ที่ฟังแล้วอ่อนโยนมากกว่า เห็นจะเป็นความเห็นของคนโพธิ์หัก ราชบุรี ที่ว่า
"งานศพจะทำแกงส้มหรือแกงคั่ว แต่ห้ามทำขนมจีนเลี้ยง โบราณเขาถือ เส้นมันยืดยาวคนตายจะมาผูกพันเกี่ยวข้องกับคนเป็น"
ส่วนในงานแต่งงาน ขนมจีน ถือเป็นอาหารมงคลมากๆ พร้อมกับยังมีการถือเคล็ดด้วยว่าต้องเป็นจับใหญ่ สวย และไม่ขาดรุ่ย เป็นเส้นเรียบร้อยสวยงาม เนื่องจากเชื่อกันว่า เป็นนิมิตที่ดีที่คู่บ่าวสาวจะครองรักกันยืดยาวเหมือนกับเส้นขนมจีนนั่นเอง ขอบคุณข้อมูลจาก :
http://aor-aon.tripod.comhttps://th.wikipedia.org/wiki/ขนมจีน_(อาหารไทย)ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต
เรียบเรียงโดยเสาวลักษณ์ แสงสุวรรณ
http://www.tnews.co.th/contents/453987