ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ครองรัก ครองธรรม : 3 วิชารักในพุทธศาสนา  (อ่าน 967 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ครองรัก ครองธรรม : 3 วิชารักในพุทธศาสนา
« เมื่อ: มิถุนายน 13, 2018, 06:06:15 am »
0



ครองรัก ครองธรรม : 3 วิชารักในพุทธศาสนา

โดย พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ

พุทธศาสนาเป็นศาสนาแห่งความรักที่บริสุทธิ์ ความรัก ที่บริสุทธิ์ในที่นี้คือการให้ พระพุทธเจ้าทรงให้ในสิ่งที่ดีที่สุดแก่มนุษย์ เป็นการให้เพียงฝ่ายเดียว ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน แม้กระทั่งคำขอบคุณหรือความรักตอบ

พระอาจารย์นวลจันทร์ กิตติปัญโญ ชี้แนะคำสอนว่า สิ่งที่ดีที่สุดที่พระพุทธเจ้าทรงมอบให้มนุษย์ทุกคนไม่ใช่ทรัพย์สมบัติหรือแก้วแหวนเงินทองใดๆ แต่ ท่านทรงให้ในสิ่งที่มนุษย์พึงได้รับเมื่อเกิดมาชาติหนึ่ง นั่นคือ การหลุดพ้นจากวัฏสงสาร การเวียนว่ายตายเกิด ท่านปรารถนาให้เราพ้นทุกข์เข้าสู่นิพพาน ซึ่งจะทำให้มนุษย์เกิดปัญญา ตื่น เบิกบาน มีอิสระปล่อยวาง ปลอดโปร่ง โล่ง เบาสบาย ไม่เวียนวน ไม่มีทุกข์และได้สัมผัสถึงความสงบร่มเย็น

ทุกคนอาจไม่ได้เกิดมาพร้อมกับความรักอันบริสุทธิ์ สามารถรักทุกสรรพสิ่งได้อย่างไม่มีเงื่อนไข ฉะนั้นจึงต้องอาศัยหลักธรรมอื่นๆ มาช่วยกำกับ วิทยานิพนธ์ “การศึกษาความรักในพระพุทธศาสนา”รวบรวมหลักธรรมไว้ 3 หลักธรรม ดังนี้

@@@@@@@

1. เบญจศีลหรือศีล 5
ใช้สำหรับความรักขั้นที่ 1 คือ รักตัวกลัวตาย เพราะหากมีความรักขั้นนี้มาก อาจเป็นอันตรายต่อผู้อื่น เช่น ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ลักขโมยของผู้อื่น ล่วงละเมิดของที่ผู้อื่นหวงแหน เป็นต้น จึงควรนำใช้ศีล 5 มากำกับไม่ให้รักตัวเองมากเกินไปจนเบียดเบียนชีวิตของผู้อื่น และศีล 5 ยังเป็นหลักประพฤติปฏิบัติที่นำทางมนุษย์ไปสู่ความเจริญอีกด้วย

@@@@

2. ทิศ 6
เหมาะสำหรับความรักขั้นที่ 2 และ 3 คือ รักใคร่ปรารถนาและรักเมตตาอารีเนื่องจากทิศ 6 เป็นหลักธรรมที่ใช้กำกับความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลต่างๆ ให้เป็นไปอย่างราบรื่น ประกอบด้วย
- ทิศเบื้องหน้าคือ บิดา มารดา
- ทิศเบื้องขวาคือ ครูอาจารย์
- ทิศเบื้องหลังคือ บุตรและภรรยา
- ทิศเบื้องซ้ายคือ มิตรสหาย
- ทิศเบื้องล่างคือ คนรับใช้และคนงาน
- ทิศเบื้องบน คือ พระสงฆ์ สมณพราหมณ์

หลักธรรมทิศ 6 ช่วยให้ทราบว่าควรปฏิบัติต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับชีวิตเราอย่างไร หรือแสดงความรักรูปแบบใดจึงจะเหมาะสม เช่น บิดามารดา ควรเลี้ยงดูบุตรให้อยู่ในทำนองครองธรรม และบุตรก็ควรตอบแทนบุญคุณบิดามารดาเมื่อเติบโตขึ้น หรือสามีควรยกย่องภรรยาให้สมฐานะ ไม่นอกใจและไม่ดูหมิ่น ขณะที่ภรรยาก็ควรกระทำเช่นเดียวกัน เป็นต้น

@@@@

3. พรหมวิหาร 4
ใช้สำหรับความรักขั้นสูงสุด คือรักที่มีแต่ให้ เป็นความรักที่ไม่มีข้อจำกัด ไม่มีการแบ่งแยก พรหมวิหาร 4 ประกอบด้วย เมตตา คือความรักปรารถนาดีอยากให้ผู้อื่นมีความสุข และควรพัฒนา “เมตตา” ให้กลายเป็น เมตตาอัปปมัญญา คือเมตตาอย่างไม่มีขอบเขต ไม่มีประมาณ แผ่ไปทั่วสรรพสัตว์ กรุณา ช่วยให้ผู้อื่นพ้นทุกข์ มุทิตา ยินดีเมื่อผู้อื่นมีความสุข และ อุเบกขา การวางใจให้เป็นกลาง พรหมวิหาร 4 เป็นหลักธรรมเบื้องต้นที่ทำให้ปุถุชนทั่วไปพัฒนาความรักจากขั้นพื้นฐานไปสู่ความรักอันบริสุทธิ์ได้



อ้างอิง :-
วิทยานิพนธ์ “การศึกษาความรักในพระพุทธศาสนา” ของ นางสาวณัฐมา ขันติธรรมกุลมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พ.ศ.2553
http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/secret-trick/79277.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 13, 2018, 06:22:43 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ