ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อย่าลืมเงินทอน "เจตนาหํ กมฺมํ วทา มิ" แปลว่า "เจตนานั่นแหละเป็นกรรม"  (อ่าน 969 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29402
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



อย่าลืมเงินทอน

ขอความสุขสวัสดีจงมีแด่ทุกๆ ท่าน อาตมาเชื่อว่า หลายๆท่านกำลังให้ความสนใจเรื่องเงินทอนวัด อาตมาก็สนใจเหมือนกัน ขนาดหลวงตาที่วัดยังผวาเรื่องเงินทอนวัดเหมือนกัน เรื่องมีอยู่ว่า หลวงตาท่านไม่สบาย เลยไปซื้อยาที่ร้านขายยาหน้าวัด ท่านซื้อยาไป 450 บาท ท่านให้แบงค์ 500 ไปหนึ่งใบ แล้วท่านก็เดินออกจากร้านขายยาไปเลย เภสัชกรที่เรียกตามหลังว่า
     "หลวงตาครับๆ ไม่เอาเงินทอนหรือครับ" หลวงตาสะดุ้ง ตะโกนกลับเสียงดังว่า
     "ให้โยมเลย อาตมายังไม่อยากสึก"

เห็นไหมโยมอิทธิพลเงินทอนวัดมันรุนแรงขนาดไหน ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าก่อนว่าเงินทอนวัดคืออะไร.? เงินทอนวัดคือ เงินที่วัดต้องมอบคืนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในกรณีที่วัดใช้งบประมาณเงินอุดหนุนไม่หมด ส่วนที่เหลือต้องส่งคืน เรียกว่า เงินทอนวัด

อธิบายความคือ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะมีการจัดสรรงบที่เรียกว่า “เงินอุดหนุน” ที่จ่ายให้กับวัดในประเทศไทย โดยการของบเหล่านี้มีจุดประสงค์เพื่อนำไปปฏิบัติบูรณะซ่อมแซม เพื่อการศึกษาพระปริยัติธรรม และเพื่อการเผยแผ่ดำเนินกิจกรรมทางศาสนา

@@@@@@

จากข่าวที่ว่า “ทุจริตเงินทอนวัด” ยกตัวอย่างสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดสรรงบที่เรียกว่า
“เงินอุดหนุน” ให้วัดหนึ่งจำนวนเงิน 50 ล้าน แต่เมื่อตรวจสอบแล้วทางวัดใช้เงินไป 40 ล้าน เหลืออีก 10 ล้าน ทางวัดต้องส่งคืนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แต่เมื่อไปตรวจสอบปรากฏว่าเงินนั้นไม่มีเพราะถูกโอนไปยังบัญชีคนอื่น จึงถือว่าเป็นการทุจริตเงินทอนวัด   

จากกรณีดังกล่าว เพื่อความเป็นธรรม เราอย่าเพึ่งสึกท่านได้ไหม เพราะบางรูปบวชมาตั้งแต่เด็กๆท่านมีความพอใจในสมณะ ต้องให้เจ้าหน้าที่พิจารณาคดีให้เสร็จก่อนว่าท่านผิดจริงแล้วค่อยสึก แบบนี้ไม่มีใครขัดขืน 

ที่อาตมาพูดนี้ไม่ใช่ว่าเป็นพระ แล้วเข้าข้างพระ อาตมาเข้าข้างความถูกต้อง ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ว่าไปตามถูก แต่ต้องมีการตรวจสอบให้แน่ชัดก่อน เพราะผิดพลาดมาความบอบช้ำเกิดขึ้นแก่พุทธศาสนาแน่นอน 

@@@@@@

จากกรณีดังกล่าวเราจะมองได้ 2 ประเด็นคือ
 
1. ทำผิดเพราะไม่รู้ พระเถระผู้ใหญ่บางรูปไม่ได้มายุ่งเกี่ยวเรื่องเงิน ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพระที่รับผิดชอบ หรือไม่ก็เป็นไวยาวัจกรวัดเป็นคนดูแล เมื่อเราพิจารณาแล้ว ท่านก็ไม่มีเจตนาในการทุจริต ในพุทธศาสนากล่าวไว้ว่า "กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา" พุทธศาสนสุภาษิตว่า "เจตนาหํ กมฺมํ วทา มิ" แปลว่า "เจตนานั่นแหละเป็นกรรม" แต่ถ้ามีเจตนาที่จะโกงก็นับว่าผิด ก็ว่าไปตามกฎหมาย   

2. รู้ว่าผิดแต่ก็ทำ แต่ถ้ารู้ว่าเงินที่ได้มาใช้เท่าไหร่ ที่เหลือต้องคืน และตนเองเป็นผู้บริหารเงินทั้งหมด แต่ยังกระทำผิดก็ต้องรับผลที่ตนเองกระทำนั้น ไม่ว่าเราจะหนีไปอยู่ไหนก็ย่อมหนีกฎแห่งกรรมไม่พ้น เพราะกฎแห่งกรรมยุติธรรมที่สุด


      เจริญพร
   พระมหาสมปอง



ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก
https://today.line.me/th/pc/article/อย่าลืมเงินทอน+พระมหาสมปอง-gZBrMZ/?utm_source=oa&utm_medium=all&utm_campaign=1806230433&utm_term=3
Reporter : พระมหาสมปอง  , เผยแพร่ 20/06/2561 11:00
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ