ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: จูเฬกสาฎก มีอันจะกินในชั่วข้ามคืน เพราะผ้าห่มผืนเดียว  (อ่าน 787 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29297
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



จูเฬกสาฎก มีอันจะกินในชั่วข้ามคืน เพราะผ้าห่มผืนเดียว

ที่คนบอกว่าทำบุญสลึงเดียวได้บุญเท่ากับทำทีละล้านถ้ามีจิตบริสุทธิ์นั้นจริงหรือคะพระอาจารย์

ธรรมะจาก พระอาจารย์มานพ อุปสโม : จริงสิ เพราะบุญมากหรือน้อยวัดกันที่เจตนา คนมีเงินเป็นร้อยล้านพันล้านถึงจะบริจาคทีละรถสิบล้อ เขาก็อาจจะรู้สึกเฉยๆถ้าเฉยละก็ไม่ค่อยได้บุญหรอกนะ ในขณะที่บางคนถวายผ้าเก่าๆ ผืนเดียว แต่มีค่ายิ่งกว่าเงินสิบล้านเป็นไหนๆ

ในพระไตรปิฎกกล่าวถึงพรามณ์ จูเฬกสาฎก (จู – เล – กะ – สา – ดก) และนางพราหมณีผู้เป็นภรรยา ทั้งคู่มีผ้าห่มผืนเดียวเพราะฉะนั้นตอนไปฟังธรรมก็ต้องผลัดกันไป ภรรยาไปตอนกลางวันแล้วก็กลับมาผลัดให้สามีไปตอนกลางคืน ทีนี้พอสามีฟังธรรมแล้วก็เกิดศรัทธาอยากถวายของแด่พระพุทธเจ้า แต่สำรวจดูจนทั่วก็ไม่มีอะไรอื่นที่พอจะถวายได้นอกจากผ้าที่ห่มอยู่แต่เพราะมีอยู่แค่ผืนเดียว พอคิดจะให้ปุ๊บ มัจฉริยะ คือ ความตระหนี่ก็เกิดปั๊บ มันแย้งขึ้นมาทันทีว่า “จะให้ได้อย่างไรเดี๋ยวตอนเช้าภรรยาจะเอาที่ไหนห่ม”


@@@@@@

ท่านว่าทานกับการรบนั้นเสมอกัน เพราะเมื่อมัจฉริยะเกิดจาคะ คือความเสียสละก็เกิดไม่ได้ จาคะกับมัจฉริยะจะรบกันจนตัวเราร้อนฉ่า พราหมณ์สามีสู้กับจิตใจตัวเองตั้งแต่หัวค่ำ ตอนยามที่หนึ่งและยามที่สองจิตคิดจะให้เกิดครั้งเดียว แต่จิตที่คิดจะไม่ให้เกิดเป็นพันครั้ง กระทั่งถึงยามที่สามจึงตัดสินใจได้เด็ดขาด นำผ้าผืนเดียวที่มีอยู่ไปถวายพระพุทธเจ้า

พอถวายเสร็จด้วยความปีติพราหมณ์ก็เปล่งเสียงอุทานว่า “ชิตํ เม ชิตํ เม” (เราชนะแล้วๆ) วันนั้นพระเจ้าปเสนทิโกศลนั่งฟังธรรมอยู่ด้วยได้ยิน จึงให้คนไปถามว่าชนะอะไร พราหมณ์ก็ตอบว่า ไม่ได้ชนะอะไรหรอก แต่ชนะใจตัวเอง พระเจ้าปเสนทิโกศลทรงเกิดความเลื่อมใส จึงพระราชทานผ้าและทรัพย์สินให้พราหมณ์จำนวนมาก จากคนยากจนเข็ญใจจึงกลายเป็นคนมีอันจะกินในชั่วข้ามคืน

@@@@@@

กรรมที่ได้ถวายผ้าครั้งนั้นเป็นบุญใหญ่ เพราะเป็นการสละสิ่งที่มีค่ามหาศาลสำหรับเจ้าของ บุญมากหรือน้อยวัดกันตรงนี้ อันไหนที่สละยาก ให้แล้วหาที่ไหนไม่ได้ หรือการทำของที่ไม่มีให้เกิดมีขึ้นจะมีค่ามากและให้ผลเร็ว กรรมที่เราทำทั้งดีและไม่ดีส่งผลเร็วช้าต่างกัน

   1. กรรมที่ส่งผลในชาตินี้ มีสองอย่าง คือ
       - กรรมที่ส่งผลภายใน 7 วันเรียกว่า ปริปักกทิฏฐธัมมเวทนียกรรม
       - ถ้าให้ผลหลัง 7 วันเรียกว่า อปริปักกทิฏฐธัมมเวทนียกรรม
   2. กรรมที่ให้ผลในภพชาติที่สอง เรียกว่า อุปปัชชเวทนียกรรม
   3. ถ้าให้ผลในภพที่สามเป็นต้นไป เรียกว่า อปราปริยเวทนียกรรม
   4. ถ้ากรรมไม่ให้ผลเลยเรียกว่า อโหสิกรรม


 
ที่มา : นิตยสารซีเคร็ต
ขอบคุณ : http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/99362.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 27, 2018, 06:06:29 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ