« เมื่อ: กรกฎาคม 25, 2018, 06:24:34 am »
0
กฏแรงดึงดูด ในพระพุทธศาสนา ทำงานอย่างไร.?ถาม : กฏแรงดึงดูด ในทางพระพุทธศาสนาทำงานอย่างไรคะ
พระ ดร.นิตินัย อุดมกัน กล่าวว่า
“ธรรมชาติของจิตที่ไม่ได้ฝึกหัดปฎิบัติในทางพระพุทธศาสนา หรือขาดผู้รู้ชี้แนะนั้น จิตบุคคลนั้นย่อมไหลไปสู่สิ่งที่ต่ำหรือดึงดูดไปตามอำนาจของกิเลส ราคะ โทสะ โมหะ เพราะจิตยังหลงอยู่ โง่อยู่ และจิตเกลือกกลั้วมานานนับภพชาติไม่ได้ เลยหลงชินกับสิ่งแบบนั้น ก็ไหลตามอำนาจของอารมณ์ เช่น โกรธมาจากโทสะเมื่อเราไม่ได้ดังใจ อำนาจราคะเมื่อเจอสิ่งที่ชอบใจถูกใจ ก็จะหลงไปตามนั้น
แต่ถ้าจิตที่ฝึกหัดปฎิบัติตามมรรคมีองค์แปดแล้ว ย่อมผ่องใส เป็นจิตที่มีความรู้ก็ไหลไปหาสิ่งที่เป็นบุญเป็นกุศล ดังนั้นถ้าพูดในหลักพระพุทธศาสนาแล้ว การดึงดูดทางจิตใจมีฝ่ายดีซึ่งเป็นฝ่ายกุศล กับฝ่ายชั่ว ฝ่ายอกุศล แล้วแต่จิตบุคคลนั้นชินหรือเคยชินกับสิ่งไหนนั่นเอง”
@@@@@@
ถาม : เคยได้ยินมาว่าชีวิตเราถูกควบคุมด้วยความคิด แต่หากเราชอบคิดลบ ทั้งที่พยายามคิดบวกแล้วแต่ก็ทำไม่ได้ ควรจะจัดการกับความคิดอย่างไร
พระ ดร.นิตินัย อุดมกัน กล่าวว่า
“คงเคยได้ยิน จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว การกระทำต่างๆที่แสดงออกมาทางกายนั้น ล้วนแต่มาจากจิตดังนั้นปราชญ์ผู้รู้ทั้งหลายมีพระพุทธเจ้าและพระอริยสาวกเป็นต้น จึงได้พากันหัดเจริญสติปัญญา ภาวนา รักษาศีล เพื่อให้คิดดี ทำดี ให้เป็นปกตินิสัย ต้องหัดทำจนเคยชิน เมื่อทำบ่อยๆ การฝึกทำบ่อยๆ คือความเพียร แรกๆ อาจจะไม่สามารถเอาชนะความคิดไม่ดี ความคิดลบ แต่เราต้องหัดฝืนในการคิดบวก คิดดี
“ชนะคนอื่นร้อยครั้งไม่เท่าชนะใจตัวเองครั้งเดียว หัดทำไปเรื่อยๆ ทำไม่ได้ก็ต้องทำ เหมือนเด็กหัดเดินล้มแล้วลุกเดี๋ยวก็เดินได้เอง ความคิดคนเราเหมือนกัน หัดคิดดีสัก 1 วินาที 2 วินาที เพิ่มเป็น 10 นาที 1 ชั่วโมง หัดไปเรื่อย เหมือนที่หลวงปู่สนธิ์กล่าวว่า
จงอยู่ดีมีธรรมประจำจิต อย่าคิดชั่วทำตัวให้มัวหมอง
ไปดีมาดีพระธรรมย่อมคุ้มครอง จิตผุดผ่องสงบดีเพราะมีธรรม”
ขอบคุณภาพและเนื้อหาจาก
https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/75732.html#cxrecs_s