ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่น แล้วต้องขัดแย้งกับครอบครัว ควรทำอย่างไร.?  (อ่าน 832 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0





ถ้าเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่น แล้วต้องขัดแย้งกับครอบครัว ควรทำอย่างไร.?


ถาม : ถ้าการ เปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่น จะทำให้ต้องขัดแย้งกับครอบครัวและคนใกล้ชิด ควรทำอย่างไร

ตอบ : การเปลี่ยนศาสนานั้นทำได้ เพราะชีวิตเป็นเอกสิทธิ์ของเจ้าของชีวิต เราจึงมีสิทธิ์เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง แต่หากการตัดสินใจของเราจะทำให้เกิดปัญหาขึ้นในสังคมที่เราอาศัยอยู่ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงาน ครอบครัว ฯลฯ แล้วละก็ อย่างนั้นแสดงว่าผิดวัตถุประสงค์ของศาสนาแล้ว เพราะเป็นการเปลี่ยนไปสู่ความมีปัญหา ไม่ใช่เปลี่ยนแล้วนำไปสู่ความสงบสุข ดังที่ผู้เขียนเคยแนะนำศาสนิกอื่นที่มาปรึกษาปัญหาคล้ายคลึงกันนี้ว่า ความดีงามเป็นมงคล ให้เก็บรักษาไว้กับใจ โดยไม่ต้องเปลี่ยนไปนับถือศาสนาอื่นให้มีปัญหาเกิดขึ้น

ถ้าเราทุกคนต่างทำความดีให้แก่กัน ย่อมไม่มีปัญหา เพราะทุกศาสนาสอนให้เราอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ดังนั้นหากต่างฝ่ายต่างปฏิบัติตามคำสอนที่แท้จริงของศาสนา ย่อมไม่ทำให้เกิดปัญหา เช่นการเป็นชาวพุทธนั้น หากเป็นชาวพุทธแท้ ๆ ที่มีปัญญา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้ามีปัญหาแสดงว่าไม่ใช่ชาวพุทธที่แท้ เพราะการเป็นชาวพุทธที่ปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น ไม่จำเป็นต้องประกาศตัวว่าฉันเป็นชาวพุทธ และไม่ต้องไปวัดก็สามารถทำได้


@@@@

อย่างการสวดมนต์ ไม่ว่าจะในรูปแบบใด ๆ ก็เป็นการปฏิบัติธรรมขั้นต้นแล้ว หรืออย่างการนั่ง การนอน กำหนดลมหายใจเข้าออก พร้อมกับภาวนาว่า “พุท – โธ” “ลมเข้า – ลมออก” หรือ “ออกซิเจน – คาร์บอนไดออกไซด์” ฯลฯ นี่ก็เป็นการปฏิบัติธรรมขั้นกลางแล้ว และเมื่อจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิจวนแน่วแน่ ก็สามารถนำจิตมาพิจารณาสติปัฏฐาน 4 จนกระทั่งบรรลุธรรมขั้นสูงได้ โดยไม่จำเป็นต้องแสดงออกถึงความเป็นชาวพุทธให้ขัดแย้งกับใครที่ไหน

อันที่จริงแล้วคำที่ใช้เรียกศาสนาทั้งหมดในโลกนั้นเป็นเพียงคำที่สมมติขึ้นมาเรียกทั้งสิ้น ดังนั้นผู้ที่เข้าถึงความจริงสูงสุด เกิดปัญญาเห็นแจ้งแล้ว ย่อมพ้นไปจากสมมติ หรือที่เรียกว่า “วิมุตติ” เขาเหล่านั้นจึงไม่ติดอยู่ในสมมติบัญญัติใด ๆ อีก เพราะฉะนั้นไม่ว่าในบัตรประชาชนจะระบุว่าเขานับถือศาสนาอะไร แต่จิตของเขาย่อมไม่ติดอยู่ในศาสนานั้น ๆ อีกแล้ว เพราะคำสอนในศาสนาเป็นเพียงแค่สมมติบัญญัติเท่านั้น

@@@@

ด้วยเหตุนี้เมื่อคนไปถามไอน์สไตน์ว่าเขานับถือศาสนาอะไร เขาจึงบอกว่าไม่มีศาสนา แต่ถ้าถามว่าศาสนาที่ดีที่สุด และมีคำสอนที่เป็นเหตุเป็นผลถูกตรงที่สุดคือศาสนาอะไร เขาจึงตอบทันทีว่าคือศาสนาพุทธ แต่สำหรับตัวเขา เขาไม่มีศาสนา เพราะปัญญาของเขาเข้าถึงความเป็นจริงที่คนทั่วไปยังเข้าไม่ถึง

เพราะฉะนั้นการพูดว่าเรานับถือศาสนานั้นศาสนานี้ แท้จริงแล้วจึงเป็นเพียงเรื่องสมมติเท่านั้น แต่ความดีงาม และความชั่วที่มีอยู่กับใจนั้นต่างหากที่เป็นความจริงซึ่งบุคคลได้กระทำและเก็บสั่งสมไว้ในดวงจิต


 

ที่มา : เพราะถึงธรรมจึงพ้นโลก – ดร.สนอง วรอุไร สำนักพิมพ์อมรินทร์ธรรมะ
photo by truthseeker08 on pixabay
Secret Magazine (Thailand)
ขอบคุณที่มา : https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/113108.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ