กำเนิดมนุษย์ เรื่องน่าคิดจากพระไตรปิฎกมีหลายทฤษฎีที่กล่าวถึงการ กำเนิดมนุษย์ วิทยาศาสตร์พยายามหาคำตอบนี้ ศาสนาซึ่งเป็นศาสตร์ความรู้ที่เก่าแก่ก่อนวิทยาศาสตร์ ก็พยายามตอบคำถามนี้ โดยการยกให้พลังอำนาจวิเศษที่เรียกว่า “พระเจ้า” “พระเป็นเจ้า” หรือ “เทพ” เป็นผู้สร้างมนุษย์ ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเชื่อว่าพระพรหมเป็นผู้สร้างมนุษย์ แต่พระพุทธเจ้าตรัสการกำเนิดมนุษย์ไว้ในพระสูตรที่มีชื่อว่า “อัญคัญญสูตร” โดยยกมาพอสังเขปว่า
@@@@@@
ครั้งเมื่อโลกพินาศไปแล้ว พรหมชั้นอาภัสสรพรหม พรหมเหล่านี้ไม่มีเพศ กิน (ความรู้สึก) ปีติเป็นอาหาร มีรัศมีแผ่ซ่านทั่วกาย เดินทางด้วยการเหาะไปในอากาศ มีวิมานที่งดงาม แล้วโลกก็สงบลงหลังจากการพินาศครั้งใหญ่กลายเป็นผืนน้ำ ตอนนั้นไร้ซึ่งกาลเวลา ไม่มีกลางวัน กลางคืน ไม่มีวัน ไม่มีเดือน และปี ไม่มีฤดูกาล เพราะถูกบดบังด้วยรัศมีของพรหมเหล่านี้ ต่อมาเกิดง้วนดินล่องลอยอยู่เหนือผิวน้ำ เป็นสิ่งที่มีลักษณะเหมือนนมสดที่ถูกเคี่ยวให้งวด พอเย็นลงก็จับเป็นปึกแผ่น สีคล้ายเนยข้นอย่างดี ส่งกลิ่นหอมไปทั่ว
พรหมองค์หนึ่งได้กลิ่นหอมของง้วนดินก็ชักชวนพรหมองค์อื่นเหาะลงมาจากวิมาน แล้วลิ้มรสง้วนดินซึ่งมีรสชาติคล้ายน้ำผึ้ง พรหมทั้งหลายเกิดความอยาก (โลภะ) ขึ้นมา จึงกินง้วนดินนั้น รัศมีกายของพรหมจึงเสื่อมไป ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ เวลากลางวันและกลางคืน ดวงดาวบนท้องฟ้า วันและเวลาจึงเกิดขึ้น
@@@@@@
พรหมเหล่านั้นเพลิดเพลินกับการกินง้วนดิน เมื่อไม่มีรัศมีแล้ว จึงปรากฎสีผิวกายชัดแจน แล้วพรหมแต่ละองค์ก็มีสีผิวกายแตกต่างกันไป บางองค์มีผิวงาม บางองค์มีผิวไม่งาม พรหมที่มีผิวกายงามจึงพากันดูหมิ่นพรหมที่มีผิวไม่งาม และทระนงตนว่าตนนั้นดีกว่าเพราะมีผิวงาม
เมื่อง้วนดินหมดไปก็พากันบ่นถึงรสชาติอร่อยของมัน แล้วเกิดกระบิดินขึ้นมาแทนง้วนดิน มีลักษณะคล้ายเห็ด ซึ่งก็มีสีคล้ายเนยใส หรือเนยข้น รสชาติเหมือนน้ำผึ้ง เมื่อกระบิดินหมดไปก็เกิดเครือดินขึ้นมาแทน มีลักษณะคล้ายผลมะพร้าว แต่สี และกลิ่นยังคล้ายเนยสดและเนยข้น มีรสชาติเหมือนน้ำผึ้ง
@@@@@@
เมื่อเครือดินหมดไป พรหมทั้งหลายพากันบ่นอยากกินเครือดิน ก็บังเกิดข้าวสาลีขึ้นมา ในตอนนั้นข้าวสาลีมีลักษณะเป็นเม็ด ไม่มีรำ ไม่มีแกลบ เม็ดขาวสะอาด มีกลิ่นหอม ตกเย็นพรหมเหล่านั้นจะเก็บข้าวสาลีมากิน โดยไม่ต้องไถ (เหมือนอย่างในปัจจุบัน) แล้วข้าวสาลีก็จะงอกขึ้นมาอีกในตอนเช้า จึงมีข้าวสาลีกินไม่มีหมดไม่สิ้น หลังจากนั้นพรหมก็ปรากฏอวัยวะเพศ จึงรู้ชัดว่าคนไหนเป็นชายหรือหญิง แล้วเกิดการสืบพันธุ์ในเหล่าพรหมขึ้น และอาศัยอยู่บนโลกนี้สืบต่อมา
ดังนั้นหากอิงตามพระสูตรนี้ พรหมเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ อาภัสสรพรหม หรือ อาภัสสรภูมิ เป็นพรหมโลกชั้นที่ 6 เป็นที่สถิตของพรหมที่มีรัศมีแผ่ซ่าน พรหมชั้นนี้จะมีอายุยืนสูงสุดประมาณ 8 กัป
@@@@@@
การกำเนิดมนุษย์ในอัญคัญญสูตร เริ่มมาจากอาภัสสรพรหมเกิดความอยาก (โลภะ) กินง้วนดิน เพราะเกิดอายตนะทางจมูก คือได้กลิ่นหอมของง้วนดิน จึงเหาะลงมากิน เมื่อกินแล้วเกิดอายตนะทางชิวหา (ลิ้น) รับรู้ว่าง้วนดินมีรสชาติอร่อยเหมือนน้ำผึ้ง จึงยิ่งหลงใหล (โมหะ) กินง้วนดินจนหมด เมื่อเกิดกิเลสซึ่งผิดนิสัยของพรหม จึงทำให้รัศมีกายเสื่อม ผิวแท้จึงปรากฏ แล้วพากันดูหมิ่นพรหมที่มีผิวกายไม่งาม พรหมที่ถูกดูหมิ่นก็โกรธ (โทสะ)
พรหมจึงกลายเป็นมนุษย์เพราะมีกิเลส 3 เมื่อนานไปง้วนดินหมดไป กลายเป็นกระบิดิน และเครือดินตามลำดับ แล้วกลายเป็นข้าวสาลีขึ้นมาแทน พรหมกลายเป็นมนุษย์เต็มตัวจึงมีอวัยวะเพศขึ้น เห็นชัดว่าใครเป็นผู้ชายและผู้หญิง เมื่อพิจารณาต่อกันก็เกิดความใคร่ (โลภะ) จึงเกิดการสืบพันธุ์ขึ้น แล้วให้กำเนิดทายาทสืบต่อกันมา
@@@@@@
อัญคัญญสูตรนอกจากเป็นพระสูตรที่พระพุทธเจ้าอธิบายถึงการกำเนิดมนุษย์ว่ามาจากอาภัสสรพรหมแล้ว ยังทำให้เข้าใจถึงเรื่องของการเสื่อมไปของจิต จากจิตบริสุทธิ์ด้วยฌานสู่การเป็นจิตที่มีกิเลส จิตมีกิเลสเพราะอายตนะ (ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจ) นั่นเองที่มา : อัญคัญญสูตร
พุทธอภิปรัชญา ความจริงเกี่ยวกับ จักรวาล โลก มนุษย์ และสังสารวัฏ โดย ปรุตม์ บุญศรีตัน
ภาพ : Photo by Shelby Miller on Unsplash
ขอบคุณเว็บไซต์ :
https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/122524.htmlBy nintara1991 , 9 November 2018