เหตุการณ์ความประทับใจของลูกศิษย์หลวงพ่อคูณ ครั้งในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินวัดบ้านไร่ในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินวัดบ้านไร่ ในครั้งนั้นมีเหตุการณ์ความประทับใจเกิดขึ้น จนกลายเป็นที่จดจำของลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธมาจนถึงทุกวันนี้
พระหัตถ์ “ในหลวง” เป็นมือคนทำงาน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เมื่อวันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2538 เพื่อทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่บุษบกด้านบนของอุโบสถ ซึ่งวัดบ้านไร่ได้รับพระราชทานพระบรมสารีริกธาตุมาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (เจริญ สุวฑฺฒโน) ในคราวนั้นทั้งสองพระองค์ทรงปลูก “ต้นคูณ” ณ ลานกลางวัดบ้านไร่
ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ เล่าว่าวันนั้นเป็นวันที่หลวงพ่อคูณภาคภูมิใจมากที่สุดในชีวิต ตนจึงได้ถามหลวงพ่อว่า
“ในหลวงตรัสอะไรกับหลวงพ่อบ้าง ?”
หลวงพ่อคูณเงียบไปครู่หนึ่งแล้วตอบกลับมาเบาๆ ว่า
“มึงรู้ไหม มือพระองค์เป็นมือคนทำงานอย่างก๊ะชาวไร่ชาวนา แข็งกะด้างมากๆ”
และเมื่อถูกถามอีกว่า
“หลวงพ่อใช้คำเรียกพระองค์ว่าอะไร”
หลวงพ่อท่านเงียบแล้วตอบว่า พระองค์ตรัสประโยคแรกว่า
“หลวงพ่อครับ พูดตามปกตินะครับ ผมเป็นคนไทย”
@@@@@@
ในคราวนั้นหลวงพ่อคูณได้ทูลเกล้าฯ ถวายเงินเพื่อเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัยจำนวน 72 ล้านบาท ซึ่งปีนั้นหลวงพ่อคูณมีอายุ 72 ปีพอดี ไม่แน่ชัดว่าในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงรับการถวายนั้นมาทั้งหมด ก่อนพระราชทานคืนให้หลวงพ่อคูณครึ่งหนึ่ง ตามอย่างที่หลวงพ่อเคยปฏิบัติเสมอยามที่มีคนถวายปัจจัยหรือไม่ เพราะเคยได้ยินมาเช่นนั้น
แต่อย่างไรก็ตาม ภาพที่ผู้คนไทยทั้งประเทศตื้นตันกันจนได้น้ำตาคือ ภาพขณะที่ทรงประคองหลวงพ่อคูณลงมาตามบันไดนาคราชเซรามิคของอุโบสถ ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นอุโบสถที่มีความงดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
“ถ่ายรูปนี่แสงเข้าตา..ไม่ได้นะโยม”
ในครั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในบุษบกด้านบทอุโบสถ วัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2538
ภายหลังทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจตามหมายกำหนดการนั้น ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงนำแผนที่ขึ้นมากางแล้วมีพระราชกระแสกับพระราชวิทยาคม (สมณศักดิ์ในสมัยนั้นของหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ) ถึงแหล่งน้ำและปัญหาการขาดแคลนน้ำในตำบลกุดพิมานและตำบลใกล้เคียง แล้วเสด็จพระราชดำเนินทรงฉายภาพไปรอบอุโบสถตามพระราชอัธยาศัย
@@@@@@
ระหว่างนั้น พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงขอฉายภาพหลวงพ่อคูณบนลานประทักษิณอุโบสถ วัดบ้านไร่ หลวงพ่อคูณจึงกล่าวออกไปว่า
“ถ่ายรูปนี่แสงเข้าตา..ไม่ได้นะโยม”
ในหลวง รัชกาลที่ 9 ตรัสตอบว่า
“ไม่มีแสงหรอก หลวงพ่อ”
จากนั้นทรงจัดแต่งจีวรและสังฆาฏิของหลวงพ่อคูณให้เรียบร้อยก่อนทรงฉายภาพหลวงพ่อไว้เป็นที่ระลึก
ท่ามกลางความปลื้มปีตินั้น ทำให้กำหนดการเสด็จพระราชดำเนินกลับล่วงเลยไปถึง 2 ชั่วโมงเศษ จากเดิมในเวลา 17 นาฬิกา มาเป็นเวลา 19 นาฬิกาเศษ
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ตรัสเบาๆ กับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิอดุลยเดชว่า “ค่ำแล้ว”
แต่พระองค์ก็ยังคงมีพระราชปฏิสันถารกับหลวงพ่อคูณ แล้วเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมพสกนิกรจนทั่วถึง จึงเสด็จพระราชดำเนินกลับ ซึ่งเป็นเวลาพลบค่ำแล้ว ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงลาหลวงพ่อคูณ ในขณะนั้นหลวงพ่อได้จับพระหัตถ์ของพระองค์พร้อมกำหนดจิต ถวายพระพรว่า “สุคโตๆๆ” ที่มา :
www.dhammajak.netขอบคุณ :
https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/dhamma/136772.htmlBy nintara1991 ,26 January 2019