"มาติกมาตา" อุบาสิกาผู้บรรลุธรรมก่อนพระภิกษุอุบาสิกา หมายถึง ผู้หญิงผู้เข้าใกล้พระรัตนตรัย ซึ่งอุบาสิกาคนแรกในพระพุทธศาสนาคือนางสุชาดา บุตรีเศรษฐีผู้ถวายข้าวมธุปายาสแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า (ศึกษาเรื่องราวของนางสุชาดาได้ที่ >>> นางสุชาดา : อุบาสิกาคนแรกในพระพุทธศาสนา)
เรื่องที่นำมาฝากต่อไปนี้เป็นเรื่องราวของอุบาสิกานางหนึ่งในสมัยพุทธกาล ซึ่งสำเร็จมรรคและผลอย่างรวดเร็ว ลองมาหาคำตอบคลายข้อสงสัยนี้กันว่า อุบาสิกานางนี้บรรลุธรรมได้ด้วยวิธีไหน
ครั้งพระบรมศาสดาประทับอยู่ ณ พระเชตวัน ในกรุงสาวัตถี ได้ทรงปรารถเรื่องอุบาสิกาบรรลุธรรม เพื่อให้เป็นเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่พระภิกษุทั้งหลายในพระเชตวัน โดยเรื่องมีอยู่ว่า ครั้งหนึ่งมีพระภิกษุ 60 รูปเดินทางไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่งในแคว้นโกศล ในอรรถกถา ธรรมบท ระบุชื่อของหมู่บ้านแห่งนี้ว่า “มาติกคาม” เพื่อหาสถานที่จำพรรษาเป็นเวลา 3 เดือน และใช้สถานที่นั้นปฏิบัติกรรมฐานที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนด้วย
@@@@@@
พระภิกษุทั้ง 60 รูป เมื่อมาถึงมาติกคาม ได้รับการต้อนรับจากอุบาสิกาที่มีชื่อว่า “มาติกมาตา” (ชื่อเดียวกับหมู่บ้านเลย ดีไม่ดีหมู่บ้านแห่งนี้อาจเรียกตามชื่อของอุบาสิกาท่านนี้ก็เป็นได้ เพราะมาติกคามมีความหมายว่า บ้าน หรือ หมู่บ้านของนางมาติกะนั่นเอง)
นางมาติกมาตาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามาก นิมนต์ให้พระภิกษุจำพรรษาอยู่ที่วิหารในหมู่บ้านแห่งนี้ นางรับอาสาจัดเตรียมสถานที่ รวมทั้งเป็นผู้เตรียมอาหารและเครื่องดื่มต่าง ๆ ไว้รับรอง รุ่งเช้าก็เตรียมอาหารสำหรับใส่บาตรไว้ใส่บาตรพระภิกษุทั้ง 60 รูป พอถึงเวลามื้อเพลก็นำอาหารและของขบเคี้ยวไปถวายยังวิหาร และระหว่างที่พระภิกษุจำพรรษาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ นางมาติกมาตาอาราธนาอุโบสถศีลด้วย
พระภิกษุทั้งหลายต่างตกลงกันว่าจะออกไปบิณฑบาตทีละรูป จะไม่ออกพร้อมกันเป็นคณะ เมื่อมาติกมาตาเห็นว่ามีพระภืกษุเข้ามาบิณฑบาตในหมู้บ้านทีละรูปก็ประหลาดใจหลงคิดว่า พระภิกษุทะเลาะกันหรืออย่างไรจึงไม่มาเป็นคณะอย่างที่เคย
พระภิกษุรูปหนึ่งจึงตอบอุบาสิกาผู้มีแรงศรัทธาอย่างแรงกล้าว่า
“อาตมาไม่ได้ทะเลาะกัน เพียงแต่แยกกันออกบิณฑบาตเท่านั้นเอง เพราะพวกเราแยกกันปฏิบัติกรรมฐานด้วย”
@@@@@@
นางมาติกมาตาเมื่อได้ยินคำว่ากรรมฐานก็เกิดความสนใจจึงถามพระภิกษุว่า
“พระอาจารย์ปฏิบัติกรรมฐานอย่างไรบ้างเจ้าคะ”
พระภิกษุตอบว่า
“พวกอาตมาต่างพิจารณาอาการ 32 เป็นหลัก”
(อาการ 32 ประการเป็นอย่างไร สามารถศึกษาได้ที่ >>> บทพิจารณาอาการ 32 เพื่อการหลุดพ้นและหยุดการปรุงแต่ง)
มาติกมาตากล่าวต่อทันทีว่า
“ขอพระอาจารย์เมตตาสอนดิฉันบ้างนะเจ้าคะ”
จากนั้นอุบาสิกาก็ก้มลงกราบกับพื้น พระภิกษุตอบรับคำว่า
“ยินดีเพราะสิ่งนี้พระบรมศาสดามิได้ทรงห้ามเราสอนผู้ใด”
จากนั้นมาติกมาตาจึงได้รู้การปฏิบัติกรรมฐานด้วยการเจริญอาการ 32 จนกระทั่งสำเร็จมรรค 3 ผล 3 ซึ่งนางบรรลุธรรมก่อนพระภิกษุทั้ง 60 เสียอีก
มรรค 3 ในที่นี้ไม่ใช่ มรรคมีองค์ 8 แต่หมายถึง มรรค 4 (เส้นทางแห่งพระอริยบุคคล 4 ระดับ) ซึ่งมาติกมาตาได้บรรลุธรรมขั้นอนาคามี (พระอนาคามี) พระอริยบุคคลลำดับที่ 3 ในพระพุทธศาสนา ส่วนผล 3 หมายถึงการสำเร็จเป็นอริยบุคคลขั้นอนาคามีเช่นกัน
จึงสรุปว่า นางมาติกมาตาหลังจากเจริญอาการ 32 แล้วได้สำเร็จเป็นพระอนาคามี ผู้เกิดอีกครั้งก็เป็นพรหม แล้วหลังจากนั้นก็เข้าสู่พระนิพพานทันทีไม่ต้องกลับมาเกิดอีก
@@@@@@
เมื่อมาติกมาตาสำเร็จขั้นพระอนาคามีแล้วได้ใช้ญาณตรวจตราพระภิกษุทั้ง 60 รูป ว่าเวลานี้เป็นอย่างไรบ้าง พบว่าพระภิกษุยังไม่มีรูปใดสำเร็จมรรคผลเลย นางจึงคอยเข้าไปดูแล ทำความสะอาดให้วิหารมีความสัมปายะ และดูแลเรื่องอาหาร จนกระทั่งพระภิกษุทั้ง 60 รูป สำเร็จอรหัตตผลในที่สุด
ไม่ทราบว่าทำไมมาติกมาตาจึงสำเร็จเพียงพระอนาคามี แต่พอสังเกตได้ว่าฆราวาสในสมัยพุทธกาลมักสำเร็จเป็นพระอริยบุคคลระดับสูงสุดคืออนาคามีผล เช่น วิสาขเศรษฐี สามีของพระธัมมาทินนาเถรี สัญชัยเจ้าลัทธิ ผู้เป็นอดีตพระอาจารย์ของพระสารีบุตรและพระมหาโมคคัลลานะ เป็นต้น
ซึ่งไม่มีฆราวาสคนไหนสำเร็จอรหัตตผลเลย (สามารถศึกษาเรื่องพระอนาคามีได้จาก >>> พระอนาคามี : พระอริยบุคคลผู้ไม่กลับมาเกิดอีกต่อไป)
ถ้ามีจะหลังจากสำเร็จอรหัตตผลจะบวชทันที เช่น พระนางเถริกาที่สำเร็จอรหัตตผลจากการพิจารณาอาหารที่พระนางปรุง เป็นต้น (สามารถศึกษาเรื่องราวของพระนางเถริกาบรรลุอรหัตตผลได้อย่างไรจาก >>> พระนางเถริกาผู้บรรลุธรรมจากการทำครัว)
ที่มา : อรรถกถา ธรรมบท เรื่อง ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง ,www.dhammajak.net
ภาพ :
https://pixabay.comขอบคุณ :
https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/171759.htmlBy nintara1991 ,30 August 2019