ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: โควิด-19 ไม่ใช่วันสิ้นโลก ว.วชิรเมธี ที่แรก  (อ่าน 773 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



โควิด-19 ไม่ใช่วันสิ้นโลก ว.วชิรเมธี ที่แรก

‘อย่ายอมแพ้’ เรียนรู้ที่จะสื่อสารเชิงบวกกับตัวเอง และที่สำคัญมองโลกในแง่ดี ซึ่งอันนี้ตรงกับคำสอนของพระพุทธองค์ ‘สำหรับผู้มีปัญญาต่อให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่มีความทุกข์ก็แสวงหาความสุขจนพบ’

ในสถานการณ์ที่ทุกคนต้องการกำลังใจ Thairath Talk ได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับพระนักคิดนักเขียนนักเทศน์ ท่านเจ้าคุณพระเมธีวชิโรดม (ท่าน ว.วชิรเมธี) ที่ท่านได้ให้ธรรมนำใจและเตือนสติให้ทุกคนมองวิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้เป็นโอกาส เป็นครู เป็นช่วงเวลาดีๆ อีกมากมายที่เราจะได้ทำ และแสดงน้ำใจต่อกัน ซึ่งสถานการณ์นี้ไม่ใช่วันสิ้นโลก แต่เป็นเพียงแค่เหตุการณ์ที่ผ่านเข้ามาและจะผ่านไป

และในการสนทนาธรรมครั้งนี้ Thairath Talk ได้ขออนุญาตพระคุณเจ้ากราบนมัสการพูดคุยด้วยคำศัพท์ที่ปกติไม่เป็นทางการ เพื่อให้การสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่น ทั้งนี้หากมีอะไรผิดพลาดไปขออภัยมาที่นี้ ด้วย

Thairath Talk : กราบนมัสการพระคุณเจ้า ขอพูดคุยด้วยภาษาสบายๆ เพื่อนำธรรมเตือนใจใครๆ หลายคนที่กำลังท้อแท้กับสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงเวลานี้

ช่วงเวลานี้เหมาะที่จะเรียนธรรมนะคุณโยม เพราะช่วงนี้เรากำลังมีทุกข์ เหมือนกับว่าเรานะไม่คิดถึงหมอเวลาที่ป่วย ธรรมคือเครื่องมือดับทุกข์

Thairath Talk : ทุกวันนี้สังคมไทย ทุกคนกำลังท้อกับสถานการณ์โควิด-19 ผลพ่วงของมันทำให้ไม่มีงานทำ ไม่มีเงินสำหรับหาซื้ออาหาร ไม่มีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ถ้าต้องใช้หลักธรรมในการคิดในการแก้ปัญหา มีหลักธรรมอะไรที่จะบรรเทาทุกข์เหล่านี้ได้บ้าง

ในเบื้องต้นอยากเจริญพรบอกพวกเราทุกคนว่า อย่าท้อ อย่าสิ้นหวัง รักษากำลังใจเอาไว้ให้ดี สถานการณ์มันจะหนักหนาสักแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้ากำลังใจของเราดี ในที่สุดเราก็จะผ่านไปได้นะคุณโยม

อาตมามีตัวอย่างนึงอยากแบ่งปันว่าในยามทุกข์หนักท้อหนักๆ มีวิกฤติล้อมหน้าล้อมหลัง อาตมาได้อ่านประวัติของ แนลสัน แมนเดลา เป็นคนสำคัญของโลก เขาเป็นอดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา เคยประสบความทุกข์แสนสาหัส เขาถูกรัฐบาลซึ่งเป็นฝ่ายตรงกันข้ามจับนำไปขังลืมไว้ที่เกาะโรบเบิน เรือนจำโพลส์มัวร์ เป็นเวลา 27 ปี ลองคิดกลับมาที่พวกเรา โดนกักตัวในบ้าน อย่างน้อยก็เดือนหรือสองเดือน แต่สำหรับแนลสัน 27 ปีเลยนะ ความทุกข์ของเราและความทุกข์ของเขาใครหนักกว่ากัน

@@@@@@

แต่ทำไมเขาผ่านมันไปได้ และผ่านไปได้ด้วยดี พอเขากลับมาได้กลายเป็นบุคคลสำคัญของโลก ร่างกายแข็งแกร่ง จิตใจเข้มแข็ง ปัญญาของแหลมคม เขาผ่านเวลาหฤโหดมาได้ด้วยการปรับตัวมี 3 เคล็ดลับ

1. แนลสัน แมนเดลา กล่าวว่า “สำหรับคนอื่นมักบอกว่า ข้าพเจ้าถูกนำมาขังคุก แต่สำหรับข้าพเจ้ากำลังมาเรียนต่อต่างหาก” คุณโยมเห็นไหมว่า คนผู้นี้เขามองโลกเชิงบวก การติดคุกคือการมาเข้ามหาวิทยาลัยเรือนจำ

2. ไม่ปล่อยสภาวะการติดคุกที่เจ็บช้ำน้ำใจ ผ่านคืนวันแต่ละวันด้วยความทุกข์ทรมาน บางคนเป็นโรคจิตประสาท แต่แมนเดลาไม่ให้เรื่องเหล่านี้ทำร้ายตัวเอง เขาใช้วันเวลาช่วงนี้ไปออกกำลังชกมวยและเล่นอเมริกาฟุตบอล เขาไม่เคยฟุ้งซ่าน จนกลายเป็นนักมวยที่มีชื่อเสียงในคุก

3. เขาใช้วันเวลาในคุกไปเรียนภาษาของศัตรู เพราะเขาอยากรู้ว่าทำไมคนในประเทศเรามีตั้งเยอะ ทำไมให้คนหลักหมื่นมาปกครองคนเป็นล้านๆ ได้ เขาจึงอยากรู้ว่าคนพวกนี้เก่งอย่างไร แมนเดลาบอกว่าถ้าเราพูดอ่านภาษาเดียวกัน คำพูดเหล่านั้นจะทะลุถึงหัวใจ ออกจากคุกเลยพูดภาษาอังกฤษปร๋อเลย

เวลาที่เราอ่านชีวประวัติของเขามันเตือนจิตสะกิดใจเราเสมอว่า ‘อย่ายอมแพ้’ เรียนรู้ที่จะสื่อสารเชิงบวกกับตัวเอง และที่สำคัญเขามองโลกในแง่ดี ซึ่งอันนี้ตรงกับคำสอนของพระพุทธองค์เลย ‘สำหรับผู้มีปัญญาต่อให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่มีความทุกข์ก็แสวงหาความสุขจนพบ’

เวลาที่เรามองคนนะคุณโยม ถ้าเรามองคนที่ดีกว่าเรา เราก็จะรู้ว่าเราแย่ แต่ถ้ามองคนที่ตกต่ำกว่าเรา เราก็จะมีความหวังขึ้นมา แต่วิธีมองที่ดีกว่านั้นคือมองตามความเป็นจริง และมองว่าเราจะออกจากปัญหาเหล่านั้นได้อย่างไร นี่คือวิธีการมองปัญหาของพระพุทธเจ้านะคุณโยม

สุดท้ายของเรื่องนี้อาตมาประทับใจคำคมอันนึงของแมนเดลา เขาบอกว่า ‘เราเป็นผู้กำหนดชะตากรรม เราเป็นนายเหนือชีวิตของเรา เราเป็นกัปตันแห่งเรือชีวิตของเรา’ หมายความว่า ไม่มีใครมากำหนดชีวิตหรือกล่าวหาเรา ถ้าเราไม่ยอมรับเสียอย่าง เราก็ไม่แย่ตามคนอื่นตัดสิน ถ้าโควิด-19 มันตัดสินเราว่า เธอต้องอยู่บ้าน เธอต้องไม่มีงานไม่มีเงิน ถ้าเรายอมจำนน เราก็เสร็จมันสิ

เราต้องมองว่าโรคระบาดนี้มันมาท้าทายเราให้รู้จักลุกขึ้นมาสู้ชีวิต ลุกขึ้นมาพัฒนาตัวเอง เหมือนที่พระพุทธศาสนานิกายเซน ไม่มีตมก็ไม่มีบัว แปลว่า ถ้าไม่มีความยากลำบาก เราจะออกจากปัญหาได้อย่างไร ดอกบัวทุกดอกงอกออกมาจากตมและน้ำที่สกปรก เช่นเดียวกับชีวิตของเรามันจะสง่างาม ประสบความสำเร็จได้ต้องเผชิญความยากลำบากเสียก่อน ให้เรามองโควิด-19 ว่ามันมีประโยชน์มีคุณค่าต่อเรา ไม่ใช่เวลามานั่งยอมจำนน


@@@@@@

โควิด-19 เราจะผ่านไปด้วยกัน

Thairath Talk : สำหรับคนที่เป็นพนักงานออฟฟิศ หรือเจ้าของกิจการที่ล้มละลาย กำลังเครียดกับผลกระทบเศรษฐกิจเนื่องจากสถานการณ์โควิด- 19 เรามีหลักธรรมอะไรที่จะทำให้ช่วงเวลาเหล่านี้ผ่านไป

อาตมาว่าสิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือ ตั้งสติ อย่าตื่นกลัวตื่นตระหนักมากเกินไป จัดเรียงความสำคัญของชีวิตว่า นาทีนี้อะไรสำคัญที่สุด โยมก็จะได้คำตอบนั่นคือ ตัวชีวิตเรา ไม่ว่าจะหนักหนาแค่ไหน รักษาชีวิตเราเอาไว้ อย่าเพิ่งทำร้ายตัวเอง อาตมาเห็นข่าวมีคนกระโดดตึก อาตมาคิดว่าไม่ควรทำแบบนั้น สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตเราไม่ใช่ทรัพย์สินเงินทอง แต่ตัวชีวิตเรานั้นสำคัญที่สุด หนักหนาแค่ไหนรักษาชีวิตไว้ก่อน เพราะเมื่อผ่านวิกฤติไปแล้ว ถ้าเรายังมีชีวิตอยู่ ทุกสิ่งเริ่มนับหนึ่งใหม่ได้ แจ่ถ้าเราไม่มีชีวิตแล้ว ละครเรื่องนี้มันจบเลย ไม่เหลืออะไรแล้ว

ประเด็นที่สองคือ เราอาจจะล้ม แต่เราไม่ถึงตาย วิกฤติมันมา เราเป็นหนี้เป็นสิน เราเปรียบเวลาเหล่านี้คล้ายเป็นเวลา พายุเข้า หักต้นไม้หมดเลยก็ตาม แต่อย่างน้อยรากของมันยังอยู่ ดังนั้นนักธุรกิจทั้งหลายเตือนใจตัวเองกันนะ ธุรกิจล้มแต่เราไม่ถึงตาย ชีวิตเรายังอยู่ ลูกเมียยังอยู่ ลูกน้องยังอยู่ ธุรกิจก็ยังอยู่ และที่สำคัญไม่ได้มีเราเจ็บอยู่คนเดียว มีเพื่อนร่วมทุกข์ทั่วโลก เพราะฉะนั้นหนักแค่ไหนก็เตือนตัวเอง จะดีจะชั่วก็แค่ล้มไม่ตาย โรคระบาดผ่านไป ก็ลุกขึ้นมาสู้ใหม่เท่านั้นเอง

Thairath Talk : สำหรับคนที่เห็นแก่ตัวในช่วงเวลาที่หลายคนกำลังทุกข์ยาก มีหลักคิดอย่างไรที่จะทำให้เขารู้สึกว่าการแบ่งปันมันสำคัญ

นาทีนี้เป็นนาทีที่เราต้องแสดงความเห็นใจซึ่งกันและกัน เป็นนาทีทองของความเห็นใจ อย่าเห็นแก่ตัว เอาตัวเองให้รอดด้วยและพาคนอื่นให้รอดด้วย ถ้าเรารอดคนเดียวอาจทำสำเร็จแต่เราจะไม่เป็นที่รักของใครต่อใครเลย อาตมามีคำกล่าวของปราญช์ท่านนึงว่า ‘คนเห็นแก่ตัวอาจได้ทุกอย่ง แต่ไม่มีทางได้หัวใจคน’

@@@@@@

วันสิ้นโลก

Thairath Talk : หลายคนบอกว่าเหตุการณ์โควิด-19 มันคือวันสิ้นโลก ในทางพุทธศาสนามีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นไหมครับ และจะผ่านวิกฤติเหล่านี้ได้อย่างไร

คำทำนายวันสิ้นโลกมีอยู่ทุกในทุกระบบความเชื่อของมนุษย์ แต่ในมุมมองพระพุทธศาสนาพูดอยู่เหมือนกัน ในช่วงเวลาหนึ่งโลกก็จะพินาศ แต่จะพินาศด้วยลม น้ำและไฟ ไม่ได้พูดถึงโรคระบาดนะคุณโยม

เพราะฉะนั้นอย่าไปสนใจวันสิ้นโลกเลย มันอีกนานแสนนาน ตอนนี้สิ่งที่สนใจคือเราจะผ่านสถานการณ์ที่วิกฤติในวันนี้ พรุ่งนี้ เดือนนี้ ปีนี้ได้อย่างไรดีกว่า ไม่ต้องไปสนใจเรื่องันสิ้นโลก สนใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้าของเรา และแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าของเรา อันนี้ดีที่สุด

อาตมาเชื่อนะว่า แม้สถานการณ์นี้มันจะร้ายแรงมาก แต่มันจะไม่อยู่กับเราตลอดไป ‘ฝนจะไม่ตกทั้งเดือน แผ่นดินจะไม่ไหวทั้งปี พายุจะไม่กระหน่ำทั้งสัปดาห์’ มันมาแล้วก็ไป ไม่มีอะไรอยู่ยั่งยืนยงตลอดไป ตามสัจธรรมของโลกที่ว่า ใดๆ ในโลกล้วนอนิจจัง มันเกิดขึ้นในช่วงต้น ดำเนินอยู่ในช่วงกลาง และจะแตกดับไปในที่สุด สถานการณ์ของโควิด-19 ก็เป็นเช่นนั้นก็คือไม่เที่ยงเช่นนี้ ในที่สุดมันจะอันตรธานหายไป



ขอบคุณ : https://www.thairath.co.th/horoscope/belief/1827906
ไทยรัฐออนไลน์ ,28 เม.ย. 2563 06:05 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ