ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พลังจันทร์ซ้อนจันทร์ ปลุกดวงชะตาชีวิต  (อ่าน 1070 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


พลังจันทร์ซ้อนจันทร์ ปลุกดวงชะตาชีวิต

ปกติแล้วในวันเพ็ญเดือน 12 จะมีพิธีกรรมหนึ่งที่เรียกกันว่า “อาบน้ำมนต์เพ็ญ” จะทำกันในวันที่พระจันทร์เต็มดวงและเมื่อมา ตรงกับ “วันจันทร์” ด้วยเช่นกัน จะเรียกว่า... “จันทร์ซ้อนจันทร์”

กล่าวกันว่าในเดือนใดปีใดที่มีวาระจันทร์ซ้อนจันทร์ที่ว่านี้จักถือว่าเป็นเรื่องดีเป็นพิเศษกว่าปกติทีเดียว เชื่อกันว่าพิธีกรรมนี้มีมาตั้งแต่โบราณนานมาแล้ว นับตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวร ที่จะทำพิธีอาบน้ำมนต์จันทร์นี้ให้กับผู้ที่จะไปออกรบกับข้าศึกศัตรู

ด้วยเชื่อศรัทธาเป็นอย่างยิ่งว่า...พิธีนี้จะช่วยล้างสิ่งไม่ดีออกจากตัว ล้างบาป ปลุกดวงชะตาชีวิตให้รุ่งโรจน์ ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน อีกทั้งยังเป็นการเสริมเสน่ห์ ความรัก ประดุจหนึ่งในเมตตามหานิยมเลยทีเดียว

พิธีอาบน้ำใต้แสงจันทร์นี้จากอดีตสู่ปัจจุบันผันเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ซึ่งก็มีผู้คนทั่วไปที่เข้าร่วมทำพิธีนี้โดยเฉพาะดารา นักแสดงไม่น้อยที่มีความเชื่อส่วนบุคคลว่าเมื่อได้ผ่านพิธีแล้วจะช่วยให้ผู้คนลุ่มหลง รักใคร่ โด่งดังเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ได้พบได้เห็น

คติความเชื่อโบราณบันทึกไว้ว่า เมื่อได้อาบน้ำ เพ็ญแล้วจะโชคดีมีลาภ มีเสน่ห์เมตตามหานิยม ครั้นบางคนที่มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วย รู้สึกเศร้าหมองก็อาจจะหายเป็นปกติได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่ง

นอกจากนี้ แล้วหลากหลายอาชีพก็ยังมีความศรัทธาด้วยว่าหากได้ผ่านพิธีจะช่วยให้อาชีพ ที่ตนกระทำอยู่นั้นกระทำได้ดียิ่งๆขึ้นไปอีกด้วย ความจำจะดีขึ้น ความชำนาญเก่งกล้าจะดีขึ้น หรือแม้กระทั่งนักเรียนเรียนหนังสือก็จะช่วยให้เรียนเก่ง ความจำดี ไหวพริบปฏิภาณ เยี่ยม

@ @ @ @

ตำราพิชัยสงครามพิธีอาบน้ำเพ็ญ มุ่งหมายชำระล้างร่างกายให้เกิดสิริมงคลกับตัว ว่ากันว่า...ในอดีตต้องทำตอนกลางคืนลงไปดำผุดดำว่ายท่องคาถาอยู่ใต้น้ำและน้ำในที่นี้ต้องเป็นน้ำไหลด้วยจึงจะตรงตามตำรา บันทึกเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังกล่าวเชื่อมโยงไปถึง “แม่พระคงคา” ที่ไหลออกจากพระเกศาแม่พระธรณี



ด้วยว่า...จะต้องเป็นน้ำที่ผุดขึ้นมาจากดิน เพียงได้เห็นน้ำก็รู้ได้ในทันทีแล้วว่าเป็นน้ำที่สะอาดมากจนดื่มกินได้ อีกทั้งสถานที่แห่งนี้จะต้องมีต้นตะเคียนใหญ่อยู่ด้วย เชื่อว่าจะมีพลังเพิ่มมากขึ้น เสมอเหมือนเป็นทางผ่านของพลังงานจากโลกอีกมิติให้เชื่อมโยงถึงกันเพื่อให้พิธีกรรมนี้ศักดิ์สิทธิ์มากยิ่งขึ้น

พลังจากเทวดานางไม้ผู้อารักษ์พิทักษ์ต้นไม้ บ่อน้ำ จะช่วยเสริมเติมเต็มขับไล่สิ่งที่ไม่ดีออกไปจากตัวผู้กระทำพิธีดังกล่าวนี้

“สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต” ข้างต้นนี้คือคำขอขมาพระแม่คงคา (วันลอยกระทง) ความหมายโดยกว้างๆว่า...ข้าแต่คงคา ลูกขอวันทาด้วยประทีปกระทง พระแม่คงคามีความเมตตาต่อลูกสูงส่งคือน้ำในกาย สามส่วนมั่นคง กายจึงยืนยง พระแม่คงคากำเนิดจากฟ้าโปรยปรายลงมาเป็นกระแสธาร เกิดเป็นแม่น้ำปิง, วัง, ยม, น่าน คือ...เจ้าพระยา ท่าจีน...ตาปี นครชัยศรี...โขง ชี มูล...ละหาร ห้วยหนองคลองบึงจนถึงแก่งกว๊าน น้ำใต้บาดาล อีกทั้งประปา

มนุษย์ใช้ประโยชน์จากน้ำนับแต่ตื่นจนหลับ ซักผ้า ล้างหน้า ล้างจาน อาบน้ำ แปรงฟัน ชำระล้างสิ่งสกปรก ฯลฯ...เมื่อขอขมาพระแม่คงคาแล้วก็ขออโหสิกรรม อย่าได้มีสิ่งใดซ้ำเติมด้วยภัยพิบัติต่างๆ น้ำท่วม หรือแม้กระทั่งปัญหาอื่นๆที่มาจากน้ำ...ลูกขอขมา “พระแม่คงคา” ด้วยเทอญ

@ @ @ @

ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับ “พระจันทร์” เกี่ยวโยงไปถึงเรื่องโชคลาภ เงินทอง ความมั่งคั่ง หลายคนอาจจะเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับการไหว้พระจันทร์ ก็คือการไหว้เทพเจ้า ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์

คนจีนโบราณมีความเชื่อศรัทธาต่อเนื่องมานับพันปีแล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้ แม้ว่าในอดีตจะยังไม่มีเทคโนโลยีทันสมัยวิเคราะห์ธรรมชาติรอบตัวอย่างแม่นยำ แต่ก็อาศัยการสังเกต จดบันทึกเป็นสถิติ ศึกษาความรู้...


ความเชื่อมโยงที่ว่านี้ไม่เว้นแม้แต่เรื่องการขอฝนเพื่อการเพาะปลูก บนบานศาลกล่าวเทวดาฟ้าดินเพื่อให้ตนเองและครอบครัวอยู่รอดปลอดภัยเมื่อได้ตามที่ปรารถนาตั้งใจไว้แล้วก็นำเครื่องสักการ บูชามาแก้บน

แน่นอนว่าหนึ่งในศรัทธาความเชื่อนี้ก็คือ การไหว้ “พระจันทร์” หรือ “ดวงจันทร์”

เชื่อว่า...พระจันทร์นั้นเป็นตัวแทนแห่งสตรีมีความนุ่มนวลสง่า ให้ความสงบร่มเย็น ตรงกันข้ามกับพระอาทิตย์ที่ร้อนแรงดุจดั่งชายชาตรี ทั้งยังเป็นตัวแทนแห่งความรัก มีเทศกาลบอกรัก ขอความรักเช่นกัน

แต่ก็อีกนั่นแหละ เรื่องราวเหล่านี้เป็นความเชื่อ ศรัทธาของแต่ละบุคคล บางคนเชื่อมาก บางคนเชื่อน้อย หรือบางคนอาจจะไม่เชื่อเลยก็ว่ากันไปตามแต่ละสถานการณ์

วันไหว้พระจันทร์ หรือเทศกาลไหว้พระจันทร์ ตามวัฒนธรรมจีนจะมีขึ้นในกลางฤดูใบไม้ร่วง เพื่อเฉลิมฉลองการเก็บเกี่ยว ในคืนวันเพ็ญเดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติ หรือเดือนกันยายนตามปฏิทินสากล

เทศกาลนี้ชาวจีนจะเฉลิมฉลองด้วยการไหว้ดวงจันทร์ในเวลากลางคืน บางประเทศอย่างเวียดนาม สิงคโปร์ จะจัดงานใหญ่มีการเฉลิมฉลองด้วยโคมไฟสีแดง เป็นสีสันอย่างมากยามค่ำคืน หรือบางแห่งก็มีการเชิดมังกร นอกจากนี้แล้วยังมี “ขนมไหว้พระจันทร์” ที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับเทศกาลนี้อีกด้วย



สำหรับชาวบ้านยังมีเรื่องราวเล่าขานเกี่ยวกับ “เทพปกรณัมจีน” ตำนานชาวสวรรค์...เทพธิดาแห่งดวงจันทร์นามว่า “ฉางเอ๋อ” คนรักของ “โฮวอี้” นักยิงธนูแห่งสวรรค์ที่ใช้ธนูยิงดวงอาทิตย์ตกลงไปถึง 9 ดวง จากทั้งหมด 10 ดวง...ซึ่งเป็นการกระทำ ที่ฝ่าฝืนบัญชาสวรรค์

จึงถูกลงโทษให้ไปใช้ชีวิตธรรมดาเป็น “มนุษย์” ทั่วไปบนโลกกระทั่งได้พบรักเจอกับแม่นางฉางเอ๋อ แต่แล้วเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เขาได้ถูกคนสนิทฆ่าตาย ส่วนฉางเอ๋อก็ได้ดื่มน้ำอมฤตเพื่อที่จะมีชีวิตอมตะ แล้วเหาะกลับไปยังดวงจันทร์อีกครั้งตามลำพังด้วยความเศร้าสร้อย

กระทั่งถึงยุคสมัยฮั่นเหวินตี้ ราชวงศ์ฮั่นทรงพระสุบินว่าลอยขึ้นไปเที่ยวชมพระราชวังบนดวงจันทร์ได้พบกับฉางเอ๋อกำลังร่ายรำอย่างงดงามยิ่งนัก เมื่อตื่นบรรทมและอยากให้เป็นความจริงจึงรับสั่งให้นางสนมแต่งตัวร่ายรำตามที่ได้พบเจอมา กระทั่งแพร่หลายไปสู่ราษฎร กลายเป็นประเพณีสืบต่อๆกันมา


กล่าวกันว่า...หญิงสาวชาวจีนจะสวดขอพรจากเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ฉางเอ๋อ เพื่อขอให้มีความเยาว์วัย งดงามตลอดไป เหล่านี้คือศรัทธาความเชื่อเกี่ยวกับดวงจันทร์ เรื่องราวพลังแห่งพระจันทร์

“ศรัทธา”...นำมาซึ่งปาฏิหาริย์? เชื่อไม่เชื่อโปรดอย่าได้...“ลบหลู่”.

                     รัก-ยม



ขอบคุณ ; https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1886921
รัก-ยม ,12 ก.ค. 2563 ,05:10 น.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 13, 2020, 06:58:13 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ