พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ ประดิษฐานในวิหารบนเขาแก่นจันทร์ จังหวัดราชบุรี (ภาพจากหนังสือ "๑๐๘ องค์พระปฏิมา พระพุทธรูปคู่แผ่นดิน" จัดพิมพ์โดย กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม)
พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ : พระพุทธรูปปกป้องบ้านเมืองด้วยพระราชหฤทัยร.9พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ (พระพุทธรูปสี่มุมเมือง) สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ปางสมาธิ ประทับขัดสมาธิราบ โลหะหล่อสำริดหน้าตักกว้าง ๔๙ นิ้ว พระพักตร์แจ่มใส พระเนตรเปิด พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย พระบาทขวาทับพระบาทซ้าย
พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ เป็นจตุรพุทธปราการ หมายความถึง พระพุทธรูปปกบ้านคู่เมือง หรือพระอารามที่มีมหิทธานุภาพล้ำลึกปกป้องภยันตรายจากอริราชศัตรู ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายอัปมงคล เสริมดวงชะตาเมือง ตลอดทั้งคุ้มครองอาณาประชาราษฎร์ให้อยู่ร่มเย็น ตามตำราพุทธไชยปราการที่สืบทอดมาแต่โบราณ
ย้อนเวลาเมื่อพุทธศักราช ๒๕๑๑ สืบมาระยะหนึ่ง สถานการณ์บ้านเมืองมีภัยจากลัทธิคอมมิวนิสต์ มีผู้คิดร้ายที่กระจายอยู่กว้างขวางรอบทิศ ที่มุ่งครอบครองประเทศ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ ๙ มีพระราชหฤทัยปราถนาแรงกล้าให้บ้านเมืองผ่านพ้นภัยพิบัติ พลเมืองดำรงชีวิตเป็นสุขราบรื่น ตั้งมั่นอยู่ในธรรมไม่หลงเป็นเครื่องมือความขัดแย้ง หลีกเลี่ยงต่อสู้ประหัตประหารกันเอง
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้หล่อ “พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ” เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๑๑ ซึ่งประมวลคุณวิเศษอันเอกอุที่บุรพมหากษัตริย์ทรงปกป้องภัยบ้านเมืองและพสกนิกรในอดีตมารวมไว้กรมการรักษาดินแดน กองทัพบก กระทรวงกลาโหม เป็นผู้จัดสร้าง
(ภาพจากหนังสือ “๑๐๘ องค์พระปฏิมา พระพุทธรูปคู่แผ่นดิน” จัดพิมพ์โดย กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม)
กรมการรักษาดินแดน คือหน่วยปกป้องรักษาบ้านเมือง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ทรงสถาปนา ทรงมีพระพุทธนิรโรคันตราย ความหมายว่า “การปราศจากภยันตรายทั้งปวง” เป็นพระพุทธรูปประจำรัชกาล เมื่อรวมพลังแห่งพระพุทธชัยวัฒน์แล้ว พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ ย่อมบริบูรณ์แก่การปกปักรักษาบ้านเมืองและอาณาประชาราษฎร์ในแผ่นดินทั้งสี่ทิศให้รุ่งเรืองเป็นที่สุด
วันที่ ๒๗ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๑๑ พระราชทานแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง ๔ จังหวัด ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวังดุสิต อัญเชิญไปประดิษฐานคุ้มครองแผ่นดินในทิศทั้งสี่ตามพระราชปณิธานสืบไป
องค์ที่ ๑. ประจำทิศเหนือ ประดิษฐาน ณ ศาลหลักเมืองจังหวัดลำปาง
องค์ที่ ๒. ประจำทิศใต้ ประดิษฐานภายในศาลาจัตุรมุขหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง
องค์ที่ ๓. ประจำทิศตะวันออก ประดิษฐานในศาลาจัตุรมุข วัดศาลาแดง ถนนพิชัยรณรงค์สงคราม ตรงข้ามศาลากลางจังหวัดสระบุรี
องค์ ๔. ประจำทิศตะวันตก ประดิษฐานในวิหารบนเขาแก่นจันทร์ อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรีที่มาข้อมูลและภาพ : “๑๐๘ องค์พระปฏิมา พระพุทธรูปคู่แผ่นดิน”. จัดพิมพ์โดย กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม.
เผยแพร่ : วันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2563
เผยแพร่ครั้งแรกในระบบออนไลน์ : เมื่อ 1 มีนาคม พ.ศ.2561
ขอบคุณ :
https://www.silpa-mag.com/history/article_15824