ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: อุทัยฯจัดบวงสรวง'พระเจ้าตาก' เล่าประวัติยกทัพตีพม่า-แจกผ้ายันต์รุ่นพระตรามหาเดช  (อ่าน 1068 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




อุทัยฯจัดบวงสรวง'พระเจ้าตาก' เล่าประวัติยกทัพตีพม่า-แจกผ้ายันต์รุ่นพระตรามหาเดช

28 ธันวาคม 2563 เมื่อเวลา 10.00 น. นายสมพจน์ สารภูษิตสันต์ นายอำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี เป็นประธานถวายราชสักการะ ในพิธีบวงสรวงและพิธีสงฆ์ในวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ บริเวณศาลพระเจ้าตากสินมหาราช ณ วัดแจ้ง ตำบลอุทัยเก่า อำเภอหนองฉาง อุทัยธานี

สืบเนื่องจากตำบลอุทัยเก่า เป็นเมืองโบราณแห่งประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคทาราวดี โดยมีฐานะเป็นหัวเมืองหน้าด่านชั้นนอกคอยสกัดกั้นกองทัพพม่าที่จะเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยาสมัยกรุงศรีอยุธยาเรียกชื่อว่าเมืองอุทัย จนถึงปี พ.ศ.2310 ชาวไทยต้องเสียกรุงศรีอยุธยาให้แก่พม่า ราษฎรชาวเมืองอุทัยถูกพม่ากวาดตอนไปเป็นเชลยเมืองยังเมาะตะมะเกือบทั้งหมด เมื่อสมเด็จพระเจ้าตากสินแห่งกรุงธนบุรี ปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ได้โปรดให้กองทัพกรุงธนบุรีมาขับไล่พม่าให้พ้นจากเมืองอุทไทย และโปรดให้หลวงสรวิชิต หน เป็นนายด่านเมืองอุไทย กองทัพสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้มาพักกองทัพ ณ วัดแจ้ง เพื่อตีพม่าจนได้รับชัยชนะดังกล่าว




หลังจากนั้น ในปี พ.ศ.2555 ชาวบ้านอุทัยเก่า และผู้ที่เคารพนับถือศรัทธาสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช(สมเด็จพระบรมราชาธิราช ที่ 4 )  ได้ร่วมกันจัดหาทุน เพื่อก่อสร้างศาลขึ้นมาใหม่ โดยสร้างเป็นทรงจตุรมุข พร้อมทั้งหล่อพระบรมรูปพระองค์ท่านขึ้นมา (เนื้อทองเหลือง) เป็นรูปปีชระทับยืนถือดาบในมือทั้งสองข้าง เช่นเดียวรูปพระองค์ท่าน ที่จัดสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2516  โดยมีขนาดเท่าองค์จริง และจัดให้มีพิธีเททองหล่อพระบรมรูปพระองค์ท่านขึ้นที่วัดแจ้ง ตำบลอุทัยเก่า อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี ในวันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน 2555  ตรงกับวันแรม 7 ค่ำ เดือน 11 ปีมะโรง (ตรงกับวันตีค่ายโพธิ์สามต้นแตกพ่ายในอดีต ดังกล่าว

ซึ่งศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชซึ่งเป็นศูนย์รวมใจและเคารพนับถือขอคนอุทัยเก่าและเช้าอำเภอหนองฉาง พร้อมกับจังหวัดอุทัยธานี ทีมาบวงสรวงได้ขอสิ่งต่าง ได้สมตามปราฤนามาตลอด โดยจะมีประชาชนทั่วสาทิศจะเดินทางเข้ามากราบไหว้ขอพร  พร้อมกับบนบานศาลกับพระเจ้าตากสินมหาราช




ภายในงานได้มิได้มีพิธีบวงสรวง และพิธีสงฆ์ โดยมีหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ว่างพานพุ่มถวายสักการะพระบรม  พราหมณ์ อ่านประกาศบวงสรวงดวงวิญญาณสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  ประธานในพีธีปักธูป ทีเครื่องสักเวย และโปรยข้าวตอก พร้อมกับเข้าแถวบริเวณหน้าศาลและกล่าวคำถวายราชสดุดีร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา หลังจากนั้นเพระอธิการภูมิสัษฐ์  ปิยสีโล (พกเอก) เจ้าอาวาสวัดแจ้ง ได้นำผ้ายันต์ รุ่นพระตรามหาเดช  สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มาแจกกับจิตอาสา และประชาชนทีมาร่วมงานจำนวน 500 ผืน ไม่พอแจก

หลังจากนั้นได้มีจิตอาสา 904 จิตอาสาพระราชทาน และประชาชนจิตอาสา พร้อมเด็กนักเรียนร่วมกันทำความสะอาดรอบริเวณศาลของพระเจ้าตากสินมหาราช พร้อมพระอุโบสถ์ ตัดต้นไม้ภายในวัดดังกล่าว



ขณะที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์  นำส่วนราชการ และประชาชนวางพานพุ่มดอกไม้ งานรัฐพิธี “วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประจำปี 2563” เพื่อเป็นการยกย่องวีรกษัตริย์ผู้ทรงกอบกู้เอกสารให้เป็นชาติไทย

เมื่อเวลา 08.30 น. ที่หอประชุมจังหวัดกาฬสินธุ์  ศูนย์ราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานงานรัฐพิธี “วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประจำปี 2563” โดยได้วางพานพุ่ม เพื่อถวายราชสักการะ เบื้องหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และอ่านประกาศถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ  สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และยกย่องวีรกษัตริย์ผู้ทรงกอบกู้เอกราชให้ชาติไทย โดยมีส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ คณะกรรมการเหล่ากาชาด ร่วมพิธี โดยเว้นระยะห่าง ตรวจคัดกรอง ตามมาตรป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ( COVID-19)


สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  ทรงเป็นวีรกษัตริย์ผู้ทรงกอบกู้เอกราช จนดำรงเป็นชาติไทยมาตราบเท่าทุกวันนี้ พระราชกรณียกิจที่สำคัญ คือ การกอบกู้เอกราช พระองค์ทรง ใช้เวลา 5 เดือนเศษ ในการรวบรวมไพร่พลทรงยกทัพเรือไปต่อสู้กับพม่า ซึ่งตั้งอยู่ ณ ค่ายโพธิ์สามต้น ธนบุรี และได้รับชัยชนะในที่สุด เป็นการกอบกู้อิสรภาพของชาติไทยกลับคืนมา เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2310  หลังจากเสียกรุงแก่พม่าเพียง 7 เดือน

พระองค์ทรงปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ ณ วันพุธ เดือนอ้าย แรม 4 ค่ำ จุลศักราช 1129 ปีชวด ตรงกับวันที่ 28  ธันวาคม พุทธศักราช 2310 ทรงพระนามว่าพระศรีสรรเพชญ์ หรือสมเด็จพระบรมราชาที่ 4 แต่เรียกขานกันทั่วไปตามพระนามเดิมว่า สมเด็จพระเจ้าตากสินหรือสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี เนื่องจากได้ ทรงสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานี  และเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่  6 เมษายน พุทธศักราช  2325 พระชนมายุได้ 48 พรรษา รวมระยะเวลาทรงครองราชย์ 15  ปี




ขอบคุณ : https://www.naewna.com/likesara/541693
วันจันทร์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2563, 14.41 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ