ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ของดีหายาก 'ข้าวตอกพระร่วง-ข้าวก้นบาตรพระร่วง' หินศักดิ์สิทธิ์แห่งกรุงสุโขทัย  (อ่าน 1147 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29319
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



ของดีหายาก 'ข้าวตอกพระร่วง-ข้าวก้นบาตรพระร่วง' หินศักดิ์สิทธิ์แห่งกรุงสุโขทัย

วันที่ 17 ก.พ.64 นายเหล็ง จันทร์ฉาย อายุ 75 ปี เจ้าของบ้านข้าวตอกพระร่วง เลขที่ 382/1 หมู่ 2 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย ได้เล่าความเป็นมาของข้าวตอกพระร่วง และข้าวก้นบาตรพระร่วง ซึ่งเป็นหินศักดิ์สิทธิ์ของชาวสุโขทัย ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า "ข้าวตอกพระร่วง" และ "ข้าวก้นบาตรพระร่วง" ตามตำนานนั้นเกิดจาก "พระร่วง" ผู้มีวาจาสิทธิ์ ครั้งออกผนวชที่วัดเขาพระบาทใหญ่ ในวันตักบาตรเทโวโรหณะ เมื่อได้ฉันภัตตาหารเสร็จแล้ว ข้าวที่เหลือก้นบาตรท่านได้โปรยลงที่ลานวัด และอธิษฐานว่าให้ข้าวตอกดอกไม้นี้กลายเป็นหินชนิดหนึ่ง มีอายุยั่งยืนชั่วลูกชั่วหลาน

สำหรับข้าวตอกพระร่วง (เพชรหน้าทั่งหรือแร่เหล็กไพไรต์) จะมีลักษณะเป็นก้อนสี่เหลี่ยมคล้ายลูกเต๋าโดยธรรมชาติ ฝังตัวอยู่ในหินก้อนใหญ่ ส่วนข้าวพระร่วง หรือข้าวก้นบาตรพระร่วง นั้นจะมีลักษณะคล้ายเมล็ดข้าวสารจำนวนมาก ฝังตัวอยู่ในหินก้อนใหญ่เช่นกัน แต่เมื่อนำมาผ่าเจียระไนเสร็จแล้ว ก็จะดูคล้ายเมล็ดข้าวสุกที่ฝังตัวอยู่ในหินสีดำ

@@@@@@@

โดยหินทั้ง 2 ชนิดนี้พบมีจำนวนมากบนเขาพระบาทใหญ่ (จุดเกิดตำนาน) ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย ซึ่งในอดีตเมื่อหลายสิบปีก่อน เคยมีชาวบ้านขึ้นไปขุดหากันจำนวนมาก กระทั่งเกิดเรื่องเศร้า มีชาวบ้านชายรายหนึ่งถูกดินถล่มทับเสียชีวิตคาอุโมงค์ เพราะขุดลึกเกินไปเพื่อหาข้าวตอกพระร่วงก้อนใหญ่ หวังขายได้ราคาดี ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสั่งห้ามการขุดค้นหาข้าวตอกพระร่วงบนเขาแห่งนี้เพื่อความปลอดภัย

ขณะที่เรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ของ "ข้าวตอกพระร่วง" และ "ข้าวก้นบาตรพระร่วง" ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นหินมงคล ใครมีไว้บูชาจะเจริญ ค้าขายขึ้น รวมทั้งเกิดโชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย และป้องกันคุณไสย อีกด้วย

ลุงเหล็ง บอกอีกว่า ปัจจุบันที่บ้านข้าวตอกพระร่วงได้มีการนำหินข้าวตอกพระร่วง และข้าวก้นบาตรพระร่วง ที่ขอแบ่งซื้อจากคนเฒ่าคนแก่ มาเจียระไนเป็นเครื่องประดับ เช่น ทำหัวแหวน สร้อยคอ สร้อยข้อมือ ส่วนเศษผงจากการเจียระไนก็เอาไปบดละเอียดนำมากดเป็นพิมพ์พระต่างๆ ทำมานานกว่า 20 ปีแล้วจนได้รับการคัดสรรให้เป็นผลิตภัณฑ์โอทอป 4 ดาว

















ขอบคุณ : https://www.naewna.com/likesara/553420
วันพุธ ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564, 17.07 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ