ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: กราบสักการะ ‘พระเจ้าใหญ่ศรีเจริญ’ อายุกว่า 1,000 ปี ขอให้ปลอดภัยจากโควิด  (อ่าน 920 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0



กราบสักการะ ‘พระเจ้าใหญ่ศรีเจริญ’ อายุกว่า 1,000 ปี ขอให้ปลอดภัยจากโควิด

วันนี้ (30 พฤษภาคม 2564) “ทีมข่าวเฉพาะกิจแนวหน้าออนไลน์” จะพาไปไหว้พระที่มีความเก่าแก่กว่า 1,000 ปี นั้นคือ “วัดพระศรีเจริญ” ตั้งอยู่บ้านหัวตะพาน ต.รัตนวารีศรีเจริญ อ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ อยู่ห่างจากตัวเมืองอำนาจเจริญ ประมาณ 25 กิโลเมตร ด้านทิศตะวันตก ไปตามถนนอรุณประเสริฐ สายหลัก อำนาจเจริญ – ยโสธร ระยะทาง 19 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายสี่แยกไฟแดง ป้อมยามกุญชร เข้าถนนสายรองอีก 10 กิโลเมตร ก็จะถึงวัดพระศรีเจริญ

แม้จะมีการระบาดของโรคโควิด 19 อยู่ในขณะนี้ ทว่าไม่เป็นอุปสรรค ในความศรัทธาของญาติโยม พุทธศาสนิกชน  ยังคง เดินทางเข้ามากราบไหว้ ขอพร สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ปลอดภัยจาก ไวรัสมรณะ ในรูปแบบ ชีวิตวิถีใหม่ (NEWNOMAL) อย่างต่อเนื่อง

วัดพระศรีเจริญ สังกัด มหานิกาย พระครูกิตติ กิติโย เจ้าอาวาสวัดพระศรีเจริญและตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอหัวตะพาน มีพระสงฆ์ 8 รูป สามเณร 35 รูป แม่ชีไม่มี มัคนายก 1 คน ภายในเนื้อที่ 15 ไร่ ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงถูกคัดเลือกเป็นพระนักพัฒนา ได้รับรางวัลวัดพัฒนาตัวอย่างที่มีผลงานดีเด่น เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2551 จากสำนักงานพุทธศาสนา จ.อำนาจเจริญ 



สำหรับ พระครูกิตติ กิติโย อายุ 72 ปี บวช 51 พรรษา เจ้าอาวาสวัดพระศรีเจริญและเจ้าคณะอำเภอหัวตะพาน บวชสามเณรตั้งแต่อายุ 10 ปี ที่วัดปลาปาก จ.นครพนม จากนั้น ได้เดินธุดงค์ ข้ามไปฝั่งประเทศลาว และได้จำพรรษา อยู่ที่ถ้ำช้าง ภูเวียง สปป.ลาว รวม 20 ปี จึงได้ข้ามมาฝั่งไทย โดยได้เดินธุดงค์ไปทั่วประเทศ เพื่อโปรดสัตว์และเผยแผ่พุทธศาสนา

กระทั่งมาถึงที่บ้านท่ายางชุม อ.หัวตะพาน จึงทำการปักกลดพักแรมใกล้กับบ้านเกิด(บ้านหัวตะพาน) เมื่อชาวบ้านหัวตะพานทราบข่าว ก็ได้นิมนต์กลับไปอยู่วัดบ้านเกิด คือ วัดพระศรีเจริญ ซึ่งตอนนั้นขาดแคลนเจ้าอาวาสพอดี อาตมาไม่ขัด ก็เลยรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระศรีเจริญ กระทั่งปัจจุบัน เป็นเวลากว่า 40 ปี

วัดพระศรีเจริญ ภายในอุโบสถมีพระเจ้าใหญ่ศรีเจริญประดิษฐานอยู่ ว่ากันว่า มีอายุกว่า 1,000 ปี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ปั้นด้วยดินเผา สูงจากพื้นดิน  2 เมตร หน้าตักกว้าง 1.30 เมตร ซึ่งผุกร่อนมาก จึงได้ใช้ปูนฉาบทาเสริมองค์เดิม แต่ไม่ได้ทุบองค์เดิมทิ้ง ก็เสริมเฉพาะที่แตกร้าวเท่านั้น กระทั่งปี พ.ศ.2525 ได้บูรณะใหม่อีกครั้ง โดยฉาบด้วยทองทั้งองค์  พร้อมกับก่อสร้างอุโอสถหลังใหม่ครอบ อย่างที่เห็นในปัจจุบัน



พระครูกิตติ กิติโย เจ้าอาวาสวัดพระศรีเจริญและเจ้าคณะอำเภอหัวตะพาน เทศนาสอนวิธีฝึกปฏิบัติ  กรรมฐาน ตอนหนึ่งว่า พุทธองค์ทรงเผยทางสว่างไว้ว่า ให้ควบคุมจิตให้มั่นคงอยู่ฌาน(ฌานคืออารมณ์ชิน)ให้ได้ทุกขณะ วิธีฝึกปฏิบัติ คือ ต้องระลึกไว้เสมอว่า เราจะเจริญภาวนาด้วย” พุทโธ” เริ่มที่ให้นึกถึง พระพุทธรูปองค์ใดก็ได้ที่เราศรัทธา แล้วสมาธิภาวนาทุกวันจนเคยชิน จะเกิดฌานขึ้น ควรทำวันละ 10 -20 นาที ถ้าทำได้สม่ำเสมอ ถึงแม้จะมีกรรมไม่ดีติดตัวมาบ้าง ก็จะพ้นนรก ใครที่ฝึกฌานมาโดยตลอดนั้น สามารถใช้ฌานเข้ามากั้นไม่ให้นึกถึงบาปได้ ก่อนตายแทนที่จะระลึกแต่เรื่องบาป จะมีแต่ภาพแห่งบุญเข้ามาทดแทน ทำให้อารมณ์มีแต่ความสุขความปิติ 



และพระครูกิตติ กิติโย เจ้าอาวาสวัดพระศรีเจริญ เทศนาผลของการทำบุญว่า การทำบุญทุกครั้ง เช่น การได้ช่วยเหลือคน การได้ทำประโยชน์ส่วนรวม ย่อมก่อให้เกิดความปิติดีใจ นั่นแหละคือบุญ ส่วนบุญที่ทำไว้แล้ว มีมากมาย ที่สะสมในสรวงสวรรค์ ทั้งที่ทำไว้ในอดีตชาติหรือในชาตินี้ เราสามารถอุทิศให้แก่ผู้ที่อยู่ในโลกวิญญาณได้ ไม่ว่าศาสนาใด ล้วนมีวิธีสร้างกุศลผลบุญ สะสมคุณงามความดีด้วยกันทั้งหมด

เมื่อเกิดบุญกุศล ก็สามารถส่งแผ่ไปถึงโลกทิพย์ได้ด้วยเช่นกัน  ก่อผลลัพธ์แบบเดียวกัน  ซึ่งพุทธศาสนา ต่างจากศาสนาอื่น ตรงที่มีจุดสุดยอดของการหลุดพ้นจากทุกข์ ก็คือ นิพพาน พระครูกิตติ กิติโย เจ้าอาวาสวัดพระศรีเจริญและเจ้าคณะอำเภอหัวตะพาน เทศนาแก่ญาติโยมที่เข้ามาทำบุญ

และเทศนาให้กำลังใจญาติโยมเกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิด 19  ว่า อย่าตื่นตระหนกเกินไป จงมีสติ และปฏิบัติตามคำแนะนำจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญ ให้ยึด คำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นหลัก เช่น ศีล ภาวนา สมาธิ จะทำให้จิตใจสบาย คลายเครียดได้บ้าง และจะข้ามผ่านวิกฤติ โควิด 19 ไปได้ในที่สุด

 


                         
ขอบคุณ : https://www.naewna.com/likesara/576582
วันอาทิตย์ ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2564, 12.34 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ