'เมตตาตนก่อน แล้วค่อยเมตตาผู้อื่น' | วิสัชนาธรรมโดย 'หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต'"เมตตาตนก่อนแล้วค่อยเมตตาผู้อื่น" วิสัชนาธรรมโดย "หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต" วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร คัดมาจากหนังสือ หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต ตอบปัญหาธรรมะ ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๒๐ เดือนกันยายน ๒๕๕๓
ปุจฉา : หลวงปู่บอกว่าให้เมตตาตนก่อน แล้วค่อยเมตตาผู้อื่นทั่วทั้งไตรโลกธาตุนั้น ควรเมตตาตนนานมากน้อยขนาดไหน วันหนึ่งๆ ตื่นเช้าขึ้นมาสวดมนต์ไหว้พระแล้วเมตตาตน หลังจากนั้นก็เมตตาผู้อื่นใช่ไหมครับ
วิสัชนา : คำว่าให้เมตตาตนก่อนนั้น เพราะจะได้เอาเมตตาเป็นพยานว่าตนไม่ขอเป็นเวรเป็นภัยกับใคร ส่วนที่จะเจริญนานหรือไม่นานนั้น มันก็ขึ้นอยู่กับปัญญาของเราอีก คือเราเห็นตามเป็นจริงว่าเราไม่ชอบให้ผู้อื่นติเตียน เบียดเบียนอันใดเลย เมื่อมันชัดในขันธสันดานแล้ว เราก็แผ่เมตตาถึงผู้อื่นได้โดยเร็ว และไม่นิยมชั้นวรรณะด้วย หรือจะว่า “โยนิสี่ทุกถ้วนหน้าจงเป็นสุขในพุทธ ธรรม สงฆ์ อยู่ทุกเมื่อเถิด” บริกรรมติดต่ออยู่อย่างนี้ (จนลิ้นไม่กระดุก)
และขอให้เข้าใจว่า คำว่า “โยนิสี่” ก็คือผู้เกิดในครรภ์ ในไข่ ในเถ้าในไคล หรือเกิดผุดขึ้น ที่เรียกว่ากำเนิดสี่ ถ้าเราบริกรรมว่าโยนิสี่ทุกถ้วนหน้า ก็เท่ากับว่าเราแผ่เมตตาให้กับเราและท่านผู้อื่นไปพร้อมกันในขณะเดียว พร้อมกันทั้งไตรโลกธาตุด้วย
หมายเหตุ : "โยนิ" คือ ประเภทการเกิดของสัตว์มี ๔ ประเภท
๑. สัตว์ผู้เกิดในครรภ์
๒. สัตว์ผู้เกิดในไข่
๓. สัตว์ผู้เกิดในเถ้าไคล (สิ่งสกปรก)
๔. สัตว์ผู้เกิดผุดขึ้น เช่น เทวดา, สัตว์นรกขอบคุณ : เว็บลานธรรมจักร
ขอบคุณ :
https://www.naewna.com/likesara/580535วันอังคาร ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2564, 19.23 น.