ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ทำความดี ต้องมีอุปสรรค คือ มีศัตรูในใจ มันมาปิดบังอำพรางบุญ  (อ่าน 911 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ทำความดี ต้องมีอุปสรรค คือ มีศัตรูในใจ มันมาปิดบังอำพรางบุญ : หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม

ขอเจริญพรว่า ทำความดี น่ะยาก ต้องใช้เวลามากทำความดีนั้นต้องมีอุปสรรคคือ มีศัตรูในใจ มันมาปิดบังอำพรางบุญมีแต่กรรมบัง มันไม่อยากให้สร้างความดีมันมาแย้งกับเราคือ ศัตรูในใจ ไม่อยากจะสร้างความดีกับเขา ตรงนี้น่าคิดมากคนที่สร้างความชั่วน่ะมันไม่มีศัตรูเลย ไม่มีอุปสรรคด้วยเหมือนไหลไปตามน้ำ สบาย ไม่มีใครขัดคอแต่ประการใด

แต่ถ้ามาสร้างความดี ท่านมีศัตรูทีเดียวมันมาแย้ง มันมาเป็นมารให้เราไม่สร้างความดีท่านทั้งหลายโปรดตีความก่อนไม่หมายความว่าสร้างความดีแล้วจะสบายอยู่เย็นเป็นสุข...ไม่ใช่ต้องการสบาย ต้องการอยู่เย็นเป็นสุข กินสบายนอนสบาย นั่นกำลังชั่วแล้ว กำลังทำความชั่ว แต่หลักที่อาตมาจะชี้แจงนั้น

ข้อแรก. สร้างความดีต้องลงทุนความลำบากได้ทุกวิถีทางสร้างความชั่วชอบลงทุนความสบายเอาปูนหมายหัวคนนั้นไว้ก่อน กินสบาย นอนสบายไม่เอางานเอาการแต่ประการใด ตรงนั้นน่าคิดพิจารณาเอามาพิจารณาคน พระเอกนางเอกในเรื่องละครชีวิตไม่เคยมีความสบายเลยตลอดลาโรงของชีวิตละคร มีแต่ความยากความลำบากที่ต้องระหกระเหิน ต้องใช้อุดมการณ์ อุดมคติมากมาย

ข้อสอง. มารไม่มี บารมีไม่เกิด ประเสริฐไม่ได้ถ้ามารมีต่อสู้มาร ขอฝากพี่น้องกรรมฐานไว้ทุกคนมีความหมายเพราะเหตุใดจะสร้างความดีมันมีศัตรูมากมายเหลือเกินเรามีบุญแต่กรรมบัง ไม่อยากให้สร้างความดีมาปิดบังอำพรางเรา เรามานั่งกรรมฐานเอาแต่ความสบายวันนี้นั่งสบายไม่มีเวทนาจิตฟุ้งซ่าน ท่านคิดไหมว่าท่านจะได้ ครูไม่มาสอนท่านแล้วว่างเปล่า นั่งสบาย ใจก็ลอยออกไปชมวิวทิวทัศน์ถือว่าได้ญาณ ถือว่าได้ผลงาน

นั่นแหละถือว่าเลวไม่ได้อะไรเลย เพราะครูไม่มาสอนครูเวทนาก็ไม่ได้มาสอน ครูฟุ้งซ่านก็ไม่ได้มาสอนออกมาอย่างนี้นะ แต่ท่านตีความผิดกันทั้งนั้นเข้าใจว่านั่งสบายวันยังค่ำ ไม่เมื่อยไม่ปวดคิดว่าท่านได้ฌานได้ญาณ คิดว่าได้สมาธิไม่ได้เลยนะ ไม่ได้อะไรเลยตรงกันข้ามกับมารอันนี้ ถ้าเรามานั่ง ความวัวยังไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรกเดี๋ยวก็ปวด เดี๋ยวก็ฟุ้งซ่าน เดี๋ยวก็เสียใจ เดี๋ยวก็ดีใจนั่นแหละครูมาสอน ต้องเรียนต้องเรียนตำรานั้นให้ได้เรียกว่า สมถะ

@@@@@@@

สมถะ แปละว่าต้องศึกษา แสวงหาความรู้ถ้ารู้จริงเมื่อไร พบของจริง ได้ของจริง ของแท้ แน่นอนแล้วจึงจะเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นวิปัสสนาขอฝากท่านไปตีความให้มันชัดเจนกว่านี้หน่อยจิตมีอุปาทาน จิตยึดเวทนา ยึดมากปวดมาก ยึดน้อยปวดน้อยถ้ายึดมาหนักเข้ามันก็ปวดจนน้ำตาจะร่วงนั่นแหละการศึกษาแสวงหาความรู้ เรียกว่า สมถะกำหนดจิตได้ต่อสู้กับเวทนาพอทราบความจริงของเวทนาแล้วมันบังคับบัญชาไม่ได้

เวทนาแปลว่าบังคับไม่ได้ บัญชาไม่ได้ ไม่มีตัวตนแต่มันปวดที่ไหน ปวดที่ขา ขานี่คืออะไร สังขารปรุงแต่งอาศัยรูปอยู่ ณ บัดนี้ มันจึงปวดดังที่กล่าวมาพอศึกษาให้เข้าใจของหลักธรรม ปวดหนอๆๆๆศึกษาหนักเข้าไปเป็นสมถะจับจุดมุ่งหมายได้ก็แตกโป้ง รูปนามขันธ์ ๕ เป็นอารมณ์ก็เรียกว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พบตรงนั้นเมื่อไรจิตก็ไม่เป็นอุปาทานยึดมั่นอีกต่อไป ตรงนั้นแหละมันจะไม่ปวดต่อไป มันปวดเพราะจิตใจไปยึด

แต่จำเป็นต้องยึดเหมือนโยมขึ้นบันได มีอยู่ ๙ ขั้นก้าวขั้นที่ ๑ ก็ต้องเกาะ ก้าวขั้นที่ ๒ มือก็ปล่อยอย่างนี้นะ ก้าวขึ้นไปอีกก็ปล่อยอีกต้องก้าวไปถึงขั้นสุดท้ายเลยนะ ถึงจะปล่อยได้ก้าวต้องมีที่เกาะ เกาะต้องมีที่เก็บตรงนี้ลึกซึ้งมาก แต่เราไม่สามารถจะตีปัญหาอันนี้ได้เราไม่มีโอกาส เราจึงเห็นว่ายาก

ที่อาตมาพูดไว้เมื่อวันก่อนว่ายากแท้แต่เราไม่เคย ถ้าเคยแล้วมันง่ายแท้เพราะทุกอย่างต้องฝึก เรียกว่า สมถะถ้าท่านทำงานเรียนวิชาการเสร็จแล้วไม่ได้ฝึกรับรองจะไม่ได้ผล ทุกอย่างต้องฝึกหมดที่อาตมากล่าวไว้แล้วเป็นเวลานานแข่งเรือแข่งแพแข่งได้ แข่งวาสนาแข่งไม่ได้มีแรงจะไปจ้ำเรือ แต่เสียใจด้วย ท่านพายเรือไม่เป็นลงเรือก็จะล่มแล้วนี่หรือจะไปอวดรู้ อวดดี จะไปแข่งเรือ ใช่หรือไม่ไม่ฝึกการพายเรือ จะมีแรงยังไงก็จ้ำไม่ไปมันก็หมุนไปทางโน้น หมุนไปทางนี้นี่แหละจุดมุ่งหมายอันนี้ต้องฝึก ต้องหัด ต้องดัดนิสัยจิตใจก็จะเข้าสู่จุดมุ่งหมายอันนั้นเป็นประการสำคัญ


@@@@@@@

ปวดหนอ ต้องศึกษา อย่าเลิก ทักษะแปลว่าอะไร หรือเกิดความคิดใหม่ๆ เรื่องเก่ามาคิดให้ทันสมัยประยุกต์ปริทรรศน์ให้เกิดวิปัสสนาญาณ เป็นผลงานของชีวิตประจำจิตประจำใจ ประจำถิ่น ประจำฐาน ประจำครอบครัวจะมีความสุขในตัวเอง ออกมาในทำนองนี้เป็นต้น

ทำอะไรทำให้จริงเถอะ ทำจริงจะได้ผลภายใน ๗ วันมีตัวอย่างที่วัดนี้ ถ้าทำไม่จริง จิ้มๆ จ้ำๆ ไม่ได้อะไร จะได้บาปนะอย่าหมิ่นประมาทต่อกรรมฐานอย่าไปว่าหนอๆ แหนๆ ไม่ได้เรื่องได้ราวระวังนะ “หนอ” มีราคาหลายล้านนะ“หนอ” เป็นคำภาษาไทย แปลมาจากภาษาบาลีว่า “วต”ที่นี่วุ่นวายหนอ ที่นี่ไม่วุ่นวายหนอ เชิญมาได้ทุกเวลามีหลักอยู่ แต่จะไม่ขอกล่าวให้ยืดยาวออกไป“หนอ” เป็นตัวรั้งจิตให้มีสติดีเราหายใจยาวๆ เข้าไว้

อย่าหายใจสั้นคนเราหายใจสั้นมีทิฏฐิมาก โมโหเก่งพองหนอ ยุบหนอให้มันยาวๆ หน่อยได้ไหมพองหนอ ไม่ทันหนอมันก็ยุบ ยุบยังไม่ทันหนอมันก็พองเลยเอาพอง-ยุบ พอง-ยุบ ไม่ต้องได้อะไรกันแล้วไปกันใหญ่แล้วมักง่าย มักได้ เลยเอาดีไม่ได้ เพราะขาดมรรคแปดถ้าคนขาดศีล สมาธิ ปัญญา จะมักง่ายทันที มักได้ด้วยไม่เอาเหนือเอาใต้แต่ประการใดออกมาในรูปแบบลักษณาการอย่างนี้

มาสร้างความดีก็ต้องละความชั่ว สร้างความดีก็ต้องละบาปมาทำบุญยังมีบาปในใจมากอีก รับรองไปไม่รอดไปทอดกฐินกี่โครมก็ไม่ได้ผลเสียเปล่าโดยปราศจากประโยชน์ไม่ได้บุญได้กุศลไปทำทำไมตรงนี้เป็นจุดหมายสำคัญอันหนึ่งน่าจะเป็นที่พึ่งของเราชาวพุทธไปได้แล้ว แต่ไม่เอากันไปเอาสิ่งที่นอกตัว ขยันนอกหน้าที่การงานได้ที่จริงไม่ชอบไปชอบที่ไม่จริง ที่ได้ไม่เอาไปเอาที่ไม่ได้ไม่มีการสร้างความสุขความเจริญในชีวิตของตนอันนี้สำคัญมากน่าจะเข้าใจ

@@@@@@@

ข้อนี้อาตมาเป็นห่วงโยมเหลือเกินต้องทำให้มันถูกจุด ตั้งอกตั้งใจถ้าตั้งใจทำงานมีงานทำเยอะถ้าคนขยันงานเหลือมือ คนขี้เกียจไม่มีงานทำคนขี้เกียจเป็นคนประเภทโมหะพวกไร้ปัญญาขี้เกียจที่สุดไม่อยากเอางานเอาการแต่ประการใดบ้านรกรุงรังอย่างรังไก่รังกา

แต่ไม่มีงานทำคนประเภทโมหะไม่ควรจะฝากงานให้บ้านของตัวเองยังสกปรก ที่กินยังไม่สะอาด ยังไม่ดีที่ถ่ายก็ยังไม่ดีด้วย สวนรกรุงรัง ก็มาถางสวนให้มันเตียนปลูกต้นไม้ให้งอกงามเข้าซิ ถึงจะเรียกว่าคนทำงานคนมีธรรมะเป็นคนขยันคนปฏิบัติธรรมมีแต่ความขยันหมั่นเพียรไม่มีขี้เกียจเลยคนมีคุณธรรมมีค่าสูงมากถ้าจิตใจมีคุณธรรม มีคุณค่าของจิตผลงานก็ตามขึ้นมา ชีวิตมีค่า เวลาก็มีประโยชน์เกิดขึ้น

เรามาปฏิบัติธรรมกันต้องให้ถึงธรรมะอย่าลดละภาวนาไว้ตลอดรายการมีสติสัมปชัญญะรวมรวมเข้าไว้ก่อนถ้าคนมีสติสัมปชัญญะสวยน่ารักจริงๆ จะเดิน จะยืน จะนั่งจะนอน จะเหลียวซ้ายแลขวา จะคู้เหยียด เหยียดขามีระบบ มีระเบียบ เพียบด้วยวินัย มันจะบอกออกมาชัดจะควบคุมตัวเองได้





ขอบคุณ : เว็บลานธรรมจักร
ขอบคุณ : https://www.naewna.com/likesara/591058
วันพุธ ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2564, 19.13 น.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 29, 2021, 06:49:14 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ