ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "เปรต" มีชีวิตอยู่ด้วย "การให้จากผู้อื่น" แต่เพียงอย่างเดียว  (อ่าน 2389 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29390
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0




การอุทิศส่วนบุญให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว | "เปรต" มีชีวิตอยู่ด้วย "การให้จากผู้อื่น" แต่เพียงอย่างเดียว

อังคุตตรนิกาย ทสกนิบาต เล่ม ๕ ชาณุสโสณีสูตร หน้า ๔๓๕-๔๔๐ ชานุสโสณีพราหมณ์ เข้าไปทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับว่า ทานที่อุทิศให้แก่ญาติสาโลหิตผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ทานนั้นจะถึงแก่ญาติทั้งหลายหรือไม่

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ในบรรดาสัตว์ทั้งหลาย มีสัตว์ นรก สัตว์เดรัจฉาน มนุษย์ เทวดา และเปรตทั้งหลาย มีเปรตจําพวกเดียวที่อยู่ในฐานะที่ได้รับส่วนบุญที่มีผู้อุทิศไปให้ เพราะวิสัยของเปรตย่อมยังชีพอยู่ ด้วยทานที่หมู่ญาติ หรือหมู่มิตรสหายให้ไปจากมนุษย์ โลกนี้เท่านั้น ส่วนสัตว์เหล่าอื่นที่ไม่ได้รับเพราะเหตุว่า

    - สัตว์นรก มีกรรมเป็นอาหาร มีกรรมเป็นผู้หล่อเลี้ยงอุปถัมภ์ให้สัตว์นรกนั้นมีชีวิตอยู่
    - สัตว์เดรัจฉาน มีชีวิตอยู่ด้วยข้าว น้ำ หญ้า และเนื้อสัตว์ เป็นต้น
    - มนุษย์ มีชีวิตอยู่ด้วยอาหารมีข้าวสุก และขนม เป็นต้น
    - เทวดา มีสุทธาโภชน์ คืออาหารทิพย์

ส่วน เปรต ไม่มีการทําไร่ไถนา ไม่มีการเลี้ยงโค ไม่มีการค้าขาย เปรตมีชีวิตอยู่ด้วยการให้จากผู้อื่นแต่เพียงอย่างเดียว เพราะฉะนั้น เปรตจึงอยู่ในฐานะที่จะได้รับส่วนบุญที่มีผู้อุทิศไปให้ชานุสโสณีพราหมณ์ทูลถามอีกว่า ก็ถ้าญาติสาโลหิตผู้ล่วงลับไปแล้วไม่เข้าถึงฐานะที่จะรับได้ ใครจะเป็นผู้บริโภคทานนั้น

@@@@@@@

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ทานที่ถวายแล้วนั้น แม้ว่ามุ่งหมาย สัตว์ใด จะอยู่ในฐานะที่รับได้หรือรับไม่ได้ก็ตามที ทานนั้นจักไม่ไร้ได้ผล ผู้ที่ให้ย่อมได้รับทายกผู้ให้นั้นแม้จักไปบังเกิดในกําเนิดช้าง ก็ย่อมได้ ตําแหน่งช้างมงคลหัตถี เป็นต้น

- ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะติโรกุฑฑสูตร อรรถกถา ความตอนหนึ่งกล่าวว่า พระเจ้าพิมพิสารอุทิศส่วนบุญที่ได้ถวายทาน ให้แก่เปรตผู้เป็นญาติสาโลหิตทั้งหลาย ที่รอคอยมาเป็นเวลานาน

- ขณะที่พระเจ้าพิมพิสารถวายข้าวยาคู ของเคี้ยว ของกิน แล้วทรงอุทิศว่า ขอทานนี้จงถึงแก่พวกญาติทั้งหลาย ทันใดนั้นข้าวยาคู ของเคี้ยว ของกินอันเป็นทิพย์ ก็บังเกิดแก่เปรตเหล่านั้นให้อิ่มหนำสําราญ มีอินทรีย์อิ่มเอิบ

- ขณะที่พระราชาถวายผ้า และเสนาสนะเป็นต้น แล้วทรงอุทิศว่า ขอทานนี้จงถึงแก่พวกญาติทั้งหลาย ทันใดนั้นเอง ผ้าทิพย์ ยานทิพย์ ปราสาททิพย์ เครื่องปูลาดและที่นอนอันเป็นทิพย์ บังเกิดขึ้นแล้วแก่เปรตเหล่านั้น ได้สวมใส่ใช้สอย

- ขณะที่พระราชาหลั่งทักษิโณทก (กรวดน้ำ) ทรงอุทิศว่า ขอทานเหล่านี้จงถึงแก่พวกญาติทั้งหลาย ขอญาติทั้งหลายจงมีความสุข ทันใดนั้นเอง สระโบกขรณีดารดาษด้วยปทุมก็บังเกิดแก่พวกเปรตเหล่านั้น ให้ได้อาบและดื่มกิน ระงับความกระหายกระวนกระวายได้ มีผิวพรรณดุจทอง พ้นจากความเป็นเปรตในทันทีนั้นเอง


@@@@@@@

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสให้เห็นประโยชน์ในการถวายทานแก่พระราชาว่า ทักษิณาวันนี้มหาบพิตรได้ถวายไว้ดีแล้วในสงฆ์ ทาน นั้นได้สัมฤทธิ์ผลเพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่เปรตผู้เป็นญาติเหล่านั้น ให้ประสบทิพยสมบัติในขณะนั้นทันทีไม่นานเลย พระองค์ได้แล้วอย่างโอฬาร ทั้งภิกษุสงฆ์อันพระราชาถวายข้าวน้ำให้อิ่มหนำก็เป็นบุญไม่น้อย

จบเทศนาการบรรลุธรรมมีแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายมากมาย ซึ่งสลดใจเพราะการพรรณาโทษแห่งการเกิดเป็นเปรต ในวันรุ่งขึ้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง ติโรกุฑฑสูตรอีก การตรัสรู้ ธรรมได้มีแก่เทวดาและมนุษย์ถึง ๗ วัน




ขอบคุณที่มา : https://www.nirvanattain.com/สิ่งที่ควรทำ/สร้างบุญบารมี/ทาน-การให้-การแบ่งปัน-การเสียสละ.html
ขอบคุณภาพจาก : https://hilight.kapook.com/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ