ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: วัตรบท ๗ ประการ ของ "ท้าวสักกะ"  (อ่าน 2455 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29390
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
วัตรบท ๗ ประการ ของ "ท้าวสักกะ"
« เมื่อ: สิงหาคม 31, 2021, 07:22:02 am »
0

เมื่อครั้งที่พระมหาบุรุษยังบำเพ็ญทุกรกิริยาก่อนจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตามพุทธประวัติกล่าวว่า ท้าวสักกเทวราชได้เสด็จลงมาดีดพิณสามสายเพื่อเตือนสติไม่ให้ทรมานตนจนเกินไป ทำให้พระสิทธัตถะทรงได้พระสติรำลึกขึ้นว่า มัชฌิมาปฏิปทาน่าจะเป็นทางที่จะทำให้ตรัสรู้ได้มากกว่าการทรมานตนเอง (ขอบคุณภาพจาก https://th.wikipedia.org/)


วัตรบท ๗ ประการ ของ "ท้าวสักกะ"

พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ในกูฎาคารศาลา ทรงปรารภท้าวสักกเทวราช ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ ๓๐ นี้

ครั้งหนึ่งเจ้าลิจฉวีพระนามว่า "มหาลิ" ได้เสด็จมาฟังพระธรรมเทศนาของพระศาสดา พระศาสดาได้ทรงแสดง "สักกปัณหสูตร" โดยที่พระศาสดาทรงกล่าวถึงท้าวสักกะอย่างกระจ่างชัดมาก ดังนั้นเจ้ามหาลิจึงดำริว่า พระศาสดาจะต้องเคยพบกับท้าวสักกะด้วยพระองค์เองมาแน่ๆ แต่เพื่อให้เกิดความมั่นใจเจ้ามหาลิจึงได้ทูลถามเรื่องนี้กับพระศาสดา ซึ่งพระศาสดาได้ตรัสตอบว่า "มหาลิ อาตมภาพรู้จักท้าวสักกะ อาตมภาพยังรู้ด้วยว่า ธรรมะอะไรทำให้ท้าวเธอเป็นท้าวสักกะ"

จากนั้นพระศาสดาได้ทรงเล่าว่า ท้าวสักกะผู้เป็นจอมแห่งเทพทั้งหลายนี้ในอดีตชาติเมื่อครั้งเป็นมนุษย์มีชื่อว่า "มฆมาณพ" อยู่ในหมู่บ้านชื่ออจาละในแคว้นมคธ มฆมาณพนี้กับสหายอีก ๓๒ คนได้ช่วยกันก่อสร้างถนนหนทาง และที่พักริมทาง   



สำหรับตัวมฆมาณพเองนั้นได้ปฏิบัติวัตรบท ๗ ประการ ตลอดชีวิต คือ

     ๑. เลี้ยงดูบิดามารดา
     ๒. ให้ความเคารพผู้ใหญ่ในตระกูล
     ๓. พูดคำสุภาพอ่อนหวาน
     ๔. ไม่พูดส่อเสียด
     ๕. ชอบเผื่อแผ่แบ่งปัน ไม่ตระหนี่
     ๖. มีวาจาสัตย์ และ
     ๗. ไม่โกรธ ระงับความโกรธได้

เพราะกระทำคุณงามความดี และปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเหล่านี้ในชาตินั้น ทำให้มฆมาณพได้ไปเกิดเป็นท้าวสักกะ เจ้าแห่งเทวดาทั้งหลาย


@@@@@@@

จากนั้นพระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ ๓๐ ว่า

        อปฺปมาเทน มฆวา
        เทวานํ เสฏฺฐตํ คโต
        อปฺปมาทํ ปสํสนฺติ
        อปฺปมาทํ ครหิโต สทาฯ


        (แปล)ท้าวมัฆวานถึงความเป็นใหญ่แห่งหมู่เทพ
        เพราะความไม่ประมาท(ในการทำความดี)
        บัณฑิตจึงสรรเสริญความไม่ประมาท
        และติเตียนความประมาททุกเมื่อ.


เมื่อจบพระสัทธรรมเทศนา เจ้าลิจฉวีนามว่ามหาลิได้บรรลุพระโสดาปัตติผล ส่วนบริษัทที่มาประชุมกันเป็นอันมาก ก็ได้บรรลุพระอริยผลทั้งหลาย มีพระโสดาบัน เป็นต้น.




ขอบคุณที่มา : https://sites.google.com/site/danvivekkabin/conduct
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ