(ขวา) กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม (public domain) (ซ้าย) ภาพประกอบเนื้อหา - หุ่นชกมวยไทย
ไขปม กรมหลวงประจักษ์ฯ พระอนุชาในร.5 | ชำระเหตุคนเมาบู๊กัน แถวบ้านหมากแข้ง(อุดร)
หนังสือพิมพ์บางกอกสมัย ฉบับวันที่ 8 ธันวาคม ร.ศ. 117 พ.ศ. 2411 ในหอสมุดแห่งชาติ บอกเล่าเหตุการณ์อันมีสีสันไว้และมีช่วงหนึ่งเกี่ยวข้องกับพระอนุชาพระองค์หนึ่งในรัชกาลที่ 5
เรื่องราวนี้เป็นเอนก นาวิกมูล ค้นพบและนำมาเขียนเผยแพร่ในนิตยสาร ศิลปวัฒนธรรม กรกฎาคม พ.ศ. 2544
เนื้อหาในบางกอกสมัย หน้า 14 ลงข่าวหัวเมือง หัวข้อ “บ้านหมากแข้ง แขวงเมืองกุมภวาปี” ว่าได้รับข่าวจากบ้านหมากแข้ง แขวงเมืองกุมกวาปี มณฑลลาวพวน กล่าวถึงการเล่นนักขัตฤกษ์ที่ “หนองมหาสนุก” ว่าในแขวงเมืองกุมกวาปีนั้น จะหาทําเลที่แยบคายเหมือนหนองมหาสนุกนี่ยากนัก
หนองมหาสนุกตั้งอยู่ไกลจากบ้านหมากแข้งประมาณร้อยเส้นเศษเท่านั้น หนองดังกล่าวมีรูปเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างยาวราวข้างละ 10 เส้นเศษ มีต้นไม้ล้อมรอบ ในหนองไม่มีผักใด ขอบหนองและกลางหนองน้ำลึกเท่ากัน ประมาณเพียงสะเอว “พระเดชพระคุณข้าหลวงต่างพระองค์ ซึ่งสําเร็จราชการมณฑลลาวพวนทรงโปรดสถานที่ทําเลหนองนี้มาก” จึงทรงสละทรัพย์ส่วนพระองค์จ้างราษฎร ปลูกสร้างตําหนักขึ้นที่กลางหนอง มีสะพานไต่ถึงกัน และปลูกเรือนแพน้อย ๆ ขึ้นอีก 19 แพจนรอบหนอง นอกจากนั้นยังทําแพเล็กใหญ่ขึ้นอีกเป็นอันมาก
@@@@@@@
ผู้สื่อข่าวซึ่งไม่ปรากฏนามรายงานต่อไปว่า วันที่ 28 ตุลาคม ร.ศ. 117 มีการนัดประชุมเล่นนักขัตฤกษ์ในหนอง พระเดชพระคุณข้าหลวงต่างพระองค์ได้เสด็จไปที่หนองนั้นด้วย พร้อมด้วยข้าราชการและราษฎรเป็นอันมาก มีการออกร้านขายของที่เรือนแพรอบหนองเป็นการรื่นเริง ตามประสาเมืองดอน
“เวลาค่ำได้มีคอนเซอดในแพหลังหนึ่งซึ่งทําเป็นแพใหญ่งดงามมาก แพได้ลอยไปลอยมาอยู่ในกลางหนอง”
ในเวลานั้นก็มีผ้าป่าของนายอุ้ยมหาดเล็กแห่รอบหนองด้วย เสียงแตรกลองคอนเซอดและกลองผ้าป่าดังหวั่นไหวไปทั้งหนอง
ฝ่ายการเล่น “ในประเทศโน้น” ซึ่งควรหมายถึงการเล่นของชาวอีสาน ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีลาวแคนหลายวงเที่ยวแอ่วเที่ยวโอ้ไปทั่ว อีกประมาณ 6 ทุ่มเศษจึงได้หยุดการเล่นผ้าป่า แห่ผ้าป่าไปทอดเสียในดง
รุ่งขึ้นวันที่ 28 มีการขายของเช่นวันก่อน เวลากลางวันมีแห่กฐิน พระเดชพระคุณข้าหลวงต่างพระองค์โปรดให้ท่านหยัน แต่งเป็นเจ้าจีนแทนพระองค์ มีกระบวนแห่พร้อมด้วยแตร กลองยาว พิณพาทย์เครื่องใหญ่ แอ่วลาว มีคนรุ่นหนุ่มแต่งตัวแบบ ต่างๆ กันขี่แพแห่ด้วย ครั้นแห่รอบแล้วก็นํามาทอดแก่พระสงฆ์ วัดบ้านเชียงพิน
เวลาบ่ายมีเรื่องสนุกเกิดขึ้นคือ นาย ส. กับนาย อ. เดิม เดินมาด้วยกันดีๆ โดยต่างเมาสุราด้วยกันทั้งคู่ ทันใดนั้นทั้งสองเกิดนึกอย่างไรขึ้นมาไม่ทราบ ลุกขึ้นวางมวยกันคนละนอนสองนอน ฝ่ายคนที่ดูก็เฮฮากันขึ้น
@@@@@@@
ความทราบถึงพระเดชพระคุณข้าหลวงต่างพระองค์ “จึ่งโปรดเกล้าฯ ให้คนทั้งสองลงสู่แพกลางน้ำ แล้วก็ให้กระทํายุทธหัถกันต่อไป คนครอบหนองได้โห่ฮากันสนุกสนานมาก เมื่อถูกเหมาะเข้าที่ใดก็เหาะลงไปในน้ำ ฝ่ายคนหนึ่งก็เหาะตามลงไปปล้ำกัน น้ำเป็นฟองอยู่จนต้องมีคนเข้าห้าม จึ่งได้เลิกกัน”
นี้เรียกได้ว่าเป็นพระอารมณ์ขันอีกอันหนึ่งของพระเดชพระคุณข้าหลวงต่างพระองค์
เวลาคํามีคอนเซอดและลาวแคนเหมือนวันก่อน แต่ผ้าป่าเปลี่ยนเป็นผ้าป่าของกองยุติธรรม 1 นายรองสุจินดา 1 กอง เสมียนคลังและมหาดไทย เมื่อแห่แหนเสร็จแล้วก็นําผ้าป่านั้นไปทอดทิ้งเสียในป่า
พระเดชพระคุณ ข้าหลวงต่างพระองค์ สําเร็จราชการมณฑลลาวพวน
ในข่าวที่ใช้คำเรียกว่า “พระเดชพระคุณ ข้าหลวงต่างพระองค์ สําเร็จราชการมณฑลลาวพวน” แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร
บทความของเอนก นาวิกมูล สรุปว่าหมายถึง พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม พระอนุชาองค์หนึ่งในรัชกาลที่ 5
ทรงเป็นพระราชโอรสในรัชกาลที่ 4 มีพระนามเดิมว่าว่าพระองค์เจ้าชายทองกองก้อนใหญ่ ประสูติเมื่อวันเสาร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2399 เคยเป็นแม่ทัพไปปราบฮ่อ เป็นข้าหลวงสําเร็จราชการมณฑลลาวพวน เป็นเสนาบดีกระทรวงวัง กระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารเรือ สิ้นพระชนม์เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2467
@@@@@@@
เป็นต้นสกุลทองใหญ่
เจ้านายพระองค์นี้ทรงชอบเรื่องเทคโนโลยี และมีพระอารมณ์ขันเอาการ ทรงเคยนิพนธ์เรื่องนาฬิกา ลงในหนังสือวชิรญาณวิเศษ เคยเล่นกล้องถ่ายรูปตั้งแต่ต้นรัชกาลที่ 5 เคยออกหนังสือสยามประเภทล้อเลียนหนังสือสยามประเภทของนาย ก.ศ.ร. กุหลาบ มาแล้ว
คลิกอ่านเพิ่มเติม : “รายงานการประชุมปาลิเมนต์สยาม” พระราชนิพนธ์ร.6 ล้อเลียน ก.ศ.ร.กุหลาบ-เทียนวรรณ?
และก่อนจะจัดให้คนเมาชกกันบนแพในหนองมหาสนุก ทรงเคยตักบาตรด้วยนักโทษมาก่อนด้วย
คลิกอ่านเกร็ดเกี่ยวกับ “บ้านหมากแข้ง” จากบทความฉบับเต็มที่นี่ หมายเหตุ : เนื้อหานี้เรียบเรียงจากบทความ “ความสนุกที่บ้านหมากแข้ง” โดย เอนก นาวิกมูล เผยแพร่ในนิตยสาร ศิลปวัฒนธรรม ฉบับกรกฎาคม พ.ศ. 2544
ที่มา : ศิลปวัฒนธรรม ฉบับกรกฎาคม 2544
ผู้เขียน : เอนก นาวิกมูล
เผยแพร่ : วันศุกร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2564
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 21 มกราคม 2563
ขอบคุณ :
https://www.silpa-mag.com/history/article_44427