ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: คดีติดตัว บวชไปก็อาบัติปาราชิก.!?  (อ่าน 854 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
คดีติดตัว บวชไปก็อาบัติปาราชิก.!?
« เมื่อ: มกราคม 29, 2022, 08:59:55 am »
0



คดีติดตัว บวชไปก็อาบัติปาราชิก.!?

‘ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว’ ปฏิเสธไม่ได้ถึงสำนวนสุภาษิตข้างต้นที่มักจะได้ยินตั้งแต่เยาว์วัยจนถึงสูงอายุ ที่ไว้คอยเตือนสติถึงการกระทำและการดำเนินชีวิตให้อยู่ในกรอบของความดี ทำกรรมดีย่อมได้ผลดี แต่ถ้าทำชั่ว เราก็จะได้สิ่งที่ไม่ดีเป็นการตอบแทน

แต่ปัจจุบันอาจไม่ได้เป็นเช่นนั้น เนื่องด้วยโลกที่เปลี่ยนไปผู้คนต่างดำเนินชีวิตอย่างไร้กฎเกณฑ์ การกระทำในสิ่งที่ผิดก็มากขึ้น อาจด้วยเหตุผลทางสภาวะทางสังคมที่บีบบังคับหรืออาจเป็นเพียงข้ออ้างโดยใช้ความน่าสงสารเป็นชนวนการก่อเหตุ สุดท้ายแล้วทั้งหมดล้วนคือการก่อกรรมติดตัว ถึงจะทำความดีมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถลบล้างสิ่งที่ตัวเองก่อไว้ 

จากประเด็นการเสียชีวิตของ หมอกระต่าย ถูก ส.ต.ต.นรวิชญ์ บัวดก ขี่บิ๊กไบค์ชนขณะกำลังข้ามทางม้าลายเสียชีวิต โดยกองบัญชาการตำรวจนครบาลเอาผิด ส.ต.ต.นรวิชญ์ ใน 7 ข้อหานั้นคือ ขับประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ,ขับไม่ชิดขอบทางด้านซ้าย,ไม่หยุดรถให้ทางคนข้ามทางม้าลาย,นำรถไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนมาใช้ในทาง,นำรถที่มีส่วนควบไม่ครบ ไม่มีกระจก มาใช้ในทาง,นำรถไม่เสียภาษีมาใช้ในทางและนำรถที่ไม่มี พ.ร.บ.มาใช้ในทาง 

ถึงหลักฐานรัดกุมทั้งคลิปวงจรปิดและเอกสารต่าง ๆ ที่สามารถเอาผิด ส.ต.ต.นรวิชญ์ จำคุกและรับผิดกับสิ่งที่ก่อไว้ แต่ทว่าไม่มีการควบคุมตัวเนื่องด้วยสารภาพทุกข้อกล่าวหา ก่อนตัดสินใจ ‘บวช’เพื่ออุทิศส่วนกุศลแทนการรับโทษ

สังคมจึงเกิดการตั้งคำถามต่อเนื่องว่าบุคคลที่กระทำความผิดมีคดีติดตัวสามารถบวชได้หรือไม่ และกรรมที่ก่อไว้จะลดลงได้จริงหรือ ส่วนการกระทำเช่นนี้อาจนำไปสู่พฤติกรรมเลียนแบบเพียงแค่บวชความผิดที่ก่อไว้จะลดลงเพียงเพราะได้ทำความ


@@@@@@@

ทั้งนี้จากข้อมูลกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 17 (พ.ศ. 2536) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระอุปัชฌาย์ในข้อ 14 พระอุปัชฌาย์ต้องงดเว้นการให้บรรพชาอุปสมบทแก่คนต้องห้ามเหล่านี้

     - คนทำความผิดหลบหนีอาญาแผ่นดิน
     - คนหลบหนีราชการ
     - คนต้องหาในคดีอาญา
     - คนเคยถูกตัดสินจำคุกโดยฐานเป็นผู้ร้ายสำคัญ
     - คนถูกห้ามอุปสมบทเด็ดขาดทางพระศาสนา
     - คนมีโรคติดต่อเป็นที่น่ารังเกียจ เช่น วัณโรคในระยะอันตราย
     - คนมีอวัยวะพิการจนไม่สามารถปฏิบัติกิจพระศาสนาได้

ซึ่งการที่จะอุปสมบทได้นั้นจะต้องทำดำเนินการตามกฎมหาเถรสมาคมที่ขีดเส้นที่ว่า “เจ้าอาวาสผู้เป็นพระอุปัชฌาย์จะรับผู้ใดบวช ต้องมีผู้รับรองและให้ผู้รับรองของผู้นั้นและนำผู้จะบวชมามอบตัว พร้อมด้วยใบสมัคร และใบรับรองผู้จะบรรพชาอุปสมบท ซึ่งจะขอได้จากพระอุปัชฌาย์ก่อนถึงวันบรรพชาอุปสมบทไม่น้อยกว่า 15 วัน และต้องไม่มีคุณสมบัติตามที่กล่าวในข้างต้น"

ในกรณีของ ส.ต.ต.นรวิชญ์ นั้นพบว่ายังถือเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา รวมถึงเป็นเจ้าหน้าที่ราชการซึ่งการบวชโดยไม่มีหนังสือรับรองนั้นถือเป็นบุคคลหลบหนีราชการ (คลิกอ่านเพิ่มเติม https://liff.line.me/1454988218-NjbXbq18/v2/article/7NQeplP?utm_source=copyshare)

ทั้งนี้การกระทำความผิดจากกรณีดังกล่าวถือเป็นเคสตัวอย่างที่ทำให้สังคมไทยเกิดการตั้งคำถามกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลายอย่าง ทั้งกระบวนการดำเนินคดีผู้กระทำผิด กฎหมายจราจรที่ไม่เข้มข้น จิตสำนึกการใช้ถนนรวมกัน และที่สำคัญ‘การทำความดีไม่สามารถชำระล้างผลกรรมที่ก่อไว้ แม้จะหลบอยู่ใต้ร่มเงาของผ้าเหลืองยังไงก็อาบัติปาราชิกอย่างแน่นนอน






อ้างอิง :-
- http://www.mahabunhome.com/lekhatambol.pdf
- https://thestandard.co/norawit-7-charges/

ขอบคุณ ; https://today.line.me/th/v2/article/1D39JR2
LINE TODAY ORIGINAL , เผยแพร่ 26 ม.ค. เวลา 00.00 น. • O.J.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ