« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 10, 2022, 08:24:41 am »
0
รับมือกับการเปลี่ยนแปลง - พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒการเปลี่ยนแปลง ในโลกยุคปัจจุบันการเปลี่ยนแปลง เกิดขึ้นเร็วมาก เราต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา บางเรื่องเป็นเรื่องเฉพาะตัวเรา บางเรื่องเป็นเรื่องของหมู่คณะ บ้างก็เป็นเรื่องระดับประเทศ ระดับโลก แล้วเราก็ต้องมีบทบาทอยู่ 2 ลักษณะ คือ
1. ตัวเราเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง
2. ตัวเราเป็นผู้รับการเปลี่ยนแปลง
เราจะรับบทบาท 2 บทบาทนี้อย่างไร.?
@@@@@@@
ประเด็นแรก ในฐานะผู้นำการเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงที่เราปรารถนาให้เกิดขึ้น เป็นสี่งที่ถูกต้องหรือเปล่า วิสัยทัศน์ในการนำการเปลี่ยนแปลง ถูกต้องและชัดเจนไหม ถ้าผู้นำนำไปถูกทาง ก็ดีไป แต่ถ้านำไปผิดทาง ก็ลงเหวกันทั้งคณะ การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่ว่าจะนำไปสู่สี่งที่ดีขึ้นเสมอไป ถ้านำไปถูกทิศก็ดี แต่ถ้าผิด จะทำให้เกิดอันตรายได้ แล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าที่เราต้องการเปลี่ยนแปลงนี้ จะดีจริง ๆ
ถ้าเรื่องไหนที่เรายังไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซนต์ ก็ควรทำ Pilot Project คือ โครงการนำร่องทดลอง ในกลุ่มที่ไม่ใหญ่เกินไปก่อน แล้วดูผลที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร ดีจริงไหม ถ้ามีรายละเอียดบางอย่างต้องปรับแก้ ก็ปรับแก้ให้เรียบร้อย แล้วค่อยขยายผล ไปสู่ระดับที่กว้างขึ้น
กระบวนการในการนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่องค์กรที่เรารับผิดชอบ
เราในฐานะผู้นำการเปลี่ยนแปลง ต้องสร้างเครดิตให้ตัวเองเสียก่อน ถ้าเครดิตดีจะเปลี่ยนอะไรก็ง่าย เพราะผู้ที่อยู่ในบังคับบัญชายอมรับเรา พูดคำเดียวเขาก็ทำตาม แรงต้านก็ไม่มี แต่ถ้าเครดิตไม่พอ เรื่องง่ายก็กลายเป็นเรื่องยาก เรื่องยากก็ยี่งยาก เพราะว่าแต่ละเรื่องก็จะมีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ทำให้เกิดความวุ่นวาย ถ้าเครดิตเราดีมากขึ้นเท่าไร แรงต้านก็จะยี่งน้อยลง แล้วการเปลี่ยนแปลงก็จะราบรื่น
ถามว่าเครดิตจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
เราต้องสั่งสมบารมี คือ ทำผลงานที่ดีออกมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งผู้คนที่เกี่ยวข้องเกิด ความเชื่อมั่นในตัวเราว่า วิสัยทัศน์ของเราใช้ได้จริงๆ เวลาจะทำอะไรก็สำเร็จหมด เราจะต้องทำแบบไม่มีนอก ไม่มีใน ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ไม่มีผลประโยชน์ตัวเองเข้าไปแอบแฝงอย่างนี้คนก็จะไม่ระแวง ถ้าเครดิตและผลงานเสริมกันอย่างนี้แล้วละก็ น้ำหนักในการชี้นำของตัวเองจะเพี่มขึ้นมาอย่างมหาศาล
กระบวนการในการนำการเปลี่ยนแปลงให้ทำอย่างเป็นขั้นเป็นตอน อย่าบุ่มบ่าม ให้ชั่งน้ำหนัก เสมอว่า เครดิตของเราในใจของผู้รับผลกระทบทั้งหมดมีขนาดไหน แล้วก็ทำการเปลี่ยนแปลง ไปเท่าที่น้ำหนักเรามี แต่ถ้าเราเดินเร็วเกินไปจนกระทั่งเครดิตที่เรามีอยู่ไม่พอจะรองรับ ผลกระทบ จะเกิดขึ้นอย่างมหาศาล
ในการเปลี่ยนแปลงนั้น จะมีผู้ได้รับผลกระทบ มีคนเสียประโยชน์ มีคนได้ประโยชน์ เราต้องดู ตรงนี้ให้ดีว่าเราทำทุกอย่างด้วยความเที่ยงธรรมและเป็นธรรม ไม่ลำเอียงเข้าข้างใคร และให้เขาได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ถ้าอย่างนี้คนพอจะรับกันได้
@@@@@@@
ประเด็นที่ 2 ในฐานะผู้รับการเปลี่ยนแปลง
เราต้องเตรียมตัวเตรียมใจ หรือว่าดำเนินการอย่างไร ให้เป็นประโยชน์กับตัวเรามากที่สุด การทัดทานอะไรต่าง ๆ นั้น ไม่ค่อยได้ประโยชน์เท่าไร ขอให้วางใจเรากลาง ๆ นี่ง ๆ อารมณ์ขัดเคืองไม่พอใจผู้อื่นพยายามเอาออกไป ให้หมดจากใจของเรา นั่งสมาธิใจนี่ง ๆ สบาย ๆ แล้วก็ใคร่ครวญดูสถานการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นว่า จริง ๆ แล้ว การเปลี่ยนแปลงนี้ดีหรือไม่ดี มีบางส่วนดี บางส่วนไม่ดี ควรจะปรับอย่างไร แล้วเข้า ไปร่วมเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงนั้นเองด้วย
ในส่วนที่เราสามารถทำได้ ทำอย่างนี้เป็นประโยชน์ที่สุด ถ้าเรามัวแต่ค้าน ก็ไม่เกิดประโยชน์ แต่ว่าถ้าเรา เข้าร่วมในกระบวนการการเปลี่ยนแปลงนั้นเอง อย่างน้อยทำให้ส่วนที่เรารับผิดชอบปรับไปสู่ทิศทาง ที่ถูกต้อง อย่างนี้เป็นประโยชน์มากกว่า ขณะเดียวกัน เราก็ควรจะฝึกอัธยาศัยเป็น ผู้นำการเปลี่ยนแปลงให้ ตัวเอง เพราะว่าสี่งแวดล้อมรอบตัวเราเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ให้ดูว่ามีอะไรใหม่เกิดขึ้น เทคโนโลยีใหม่ สี่งแวดล้อมรอบตัวเราก็ใหม่ กติกาของสังคมกฎหมาย กฎระเบียบใหม่ ๆ เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เราควรจะใช้สี่งนั้นให้เป็นประโยชน์อย่างไรบ้าง แล้วนำมาเปลี่ยนแปลงตัวเราเองเลย คนที่ทำ อย่างนี้ได้จะสามารถใช้ประโยชน์จากสี่งแวดล้อม ที่เปลี่ยนแปลงไปได้มากที่สุด
ดังนั้น เราจะเป็นคนที่ยึดติดกับสี่งเก่า ๆ โดยไม่ยอมลืมตาดูรอบตัวหรือ ลองเปิดใจรับการเปลี่ยนแปลง ที่เกิดขึ้น แล้วดูสิว่าจะมาใช้ประโยชน์ได้อย่างไร บางเรื่องอาจจะไม่ถูกใจเรานัก ต้องเรียนรู้ใหม่ อะไรเปลี่ยนแปลงก็ต้องเสียเวลาปรับตัว แต่ผลลัพธ์ที่ดีย่อมเกิดกับตัวเราเองเสมอ
@@@@@@@
ท้ายนี้ ขอฝาก พุทธศาสนสุภาษิต ที่ว่า
อุฏฺฐาเนนปฺปมาเทน สญฺญเมน ทเมน จ ทีปํ กยิราถ เมธาวี ยํ โอโฆ นาภิกีรติ
"ผู้มีปัญญา พึงสร้างเกาะที่น้ำหลากมาท่วมไม่ได้ ด้วยความหมั่น ความไม่ประมาท ความสำรวมระวังและความข่มใจ"Thank to :
https://today.line.me/th/v2/article/5yQGYmvLINE TODAY SHOWCASE , เผยแพร่ 03 ก.พ. เวลา 20.41 น. • พระมหาสมชาย ฐานวุฑฺโฒ