พระพุทธศาสนามั่นคง ขึ้นอยู่กับการทำหน้าที่ของภิกษุภิกษุมีหน้าที่สำคัญสองประการ คือ ประการแรก ศึกษาพระธรรม (คันถธุระ) ประการที่สอง อบรมเจริญปัญญา (วิปัสสนาธุระ) เป็นเนื้อนาบุญของอุบาสก อุบาสิกา โดยเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดา พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้อุบาสก อุบาสิกา
ภิกษุ คือ ผู้ขออันประเสริฐ ดำรงอัตภาพอยู่ได้ด้วยก้อนข้าวของชาวบ้าน มีเครื่องใช้สอยในชีวิตประจำวัน เรียกว่า อัฐบริขาร มี 8 อย่าง ได้แก่ สบง จีวร สังฆาฏิ บาตร มีดโกนหรือมีดตัดเล็บ เข็ม ประคดเอว กระบอกกรองน้ำ เป็นผู้ที่ไม่สามารถดำเนินชีวิตได้เช่นเดียวกับอุบาสก อุบาสิกา
ซึ่งเป็นผู้ครองเรือนอยู่ในเพศคฤหัสถ์ เนื่องจากเป็นผู้สละอาคารบ้านเรือน วงศาคณาญาติ เพื่อนสนิทมิตรสหาย และไม่ข้องเกี่ยวกับโลกียวิสัย การบวชเป็นภิกษุนั้นต้องเป็นผู้ที่เคารพศรัทธาในพระพุทธศาสนา มีอัธยาศัยในการครองตนอยู่ในเพศบรรพชิต ต้องประพฤติปฏิบัติตามสิกขาบทในพระวินัยที่เป็นพุทธบัญญัติ 227 ข้อ
ภิกษุมีหน้าที่สำคัญสองประการ คือ ประการแรก ศึกษาพระธรรม (คันถธุระ) ประการที่สอง อบรมเจริญปัญญา (วิปัสสนาธุระ) เป็นเนื้อนาบุญของอุบาสก อุบาสิกา โดยเผยแผ่พระธรรมคำสอนของพระบรมศาสดา พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้อุบาสก อุบาสิกา ได้รู้ความจริง (สัจธรรม) ตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดงในครั้งพุทธกาล เพื่อจะได้ละความไม่รู้ (อวิชชา) และละความเห็นผิด (มิจฉาทิฏฐิ) มีการดำเนินชีวิตประจำวันด้วยความสุจริตโดยมีความเป็นปกติสุขตามอัตภาพของแต่ละบุคคล มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง
ภิกษุที่ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย จะมีส่วนสำคัญในการดำรงพระพุทธศาสนาให้มีความเจริญมั่นคง ในทางกลับกัน ภิกษุที่ไม่ประพฤติปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ไม่ศึกษาพระธรรม มีการล่วงละเมิดสิกขาบทต่างๆ เป็นผู้ไม่เคารพยำเกรงต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีการกระทำย่ำยีต่อพระพุทธศาสนา ภิกษุประเภทนี้เป็นผู้ทำลายพระพุทธศาสนาโดยสิ้นเชิง นับเป็นปัญหาอันใหญ่หลวงที่มหาเถรสมาคม
ซึ่งเป็นองค์กรปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์ จะต้องบริหารจัดการกิจการคณะสงฆ์ให้เป็นไปตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ส่วนสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐ จะต้องทำหน้าที่จำกัดและดูแลกิจการของคณะสงฆ์ จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายของคณะสงฆ์ ไม่อาจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้
เมื่อวานนี้วันที่ 13 กรกฎาคม 2565 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติ เป็นวันอาสาฬหบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เมื่อ 45 ปีก่อนพุทธศักราช พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงปฐมเทศนาธรรมจักรกัปปวัตนสูตรโปรดแก่ปัญจวัคคีย์ ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองสารนาถ แคว้นพาราณสี ประเทศอินเดีย ในวันนั้นเป็นวันที่พระรัตนตรัยครบองค์ 3 ซึ่งประกอบด้วยพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พระอัญญาโกณฑัญญะ หนึ่งในปัญจวัคคีย์ได้เกิดดวงตาเห็นธรรมบรรลุเป็นพระโสดาบันบุคคล
สำหรับวันนี้วันที่ 14 กรกฎาคม 2565 ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติเป็นวันเข้าพรรษา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติให้พระสงฆ์เริ่มเข้าจําพรรษา ประจําที่เป็นเวลา 3 เดือนในฤดูฝน โดยไม่เดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อจะได้ไม่ไปเหยียบย่ำพืชพรรณธัญญาหารของชาวบ้านที่อยู่ระหว่างการเพาะปลูก และจะได้ไม่ไปเหยียบย่ำโดนสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่ออกหากินจนถึงแก่ความตาย
ช่วงเวลาจำพรรษาตลอด 3 เดือน เป็นช่วงเวลาและโอกาสสำคัญในรอบปีที่พระสงฆ์จะได้มาอยู่จำพรรษารวมกันภายในอาวาสหรือสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยจากพระสงฆ์ที่ทรงความรู้ มีโอกาสได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และสร้างความสามัคคีในหมู่คณะสงฆ์
ชาวพุทธพึงทราบว่า ก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงฝากพระพุทธศาสนาไว้กับพุทธบริษัททั้งหลายโดยไม่ได้แต่งตั้งให้มีศาสดาสืบแทนพระองค์ แต่มีพระธรรมเป็นศาสดาสืบแทน
ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของผู้คนทั่วไปในสังคม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาส่วนตัว ปัญหาครอบครัว ปัญหาการทำงาน ปัญหาการอยู่ร่วมกันในสังคม ประการสำคัญที่สุด ปัญหาที่เกิดจากการเวียนว่ายตายเกิดนับภพนับชาติไม่ถ้วนในสังสารวัฏ หากเป็นเพียงแต่ชาวพุทธในนาม ไม่รู้ไม่เข้าใจในพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ความทุกข์และความเดือดร้อนมีแต่จะเพิ่มขึ้น นำไปสู่การประพฤติปฏิบัติทุจริตต่างๆ
เมื่อถึงแก่กรรมย่อมไปเกิดในทุคติภูมิหรืออบายภูมิ ฉะนั้นชาวพุทธจึงไม่ควรดำเนินชีวิตด้วยความประมาทโดยไม่ฟังธรรมตามกาล เพราะผู้ไม่ฟังธรรมตามกาล ย่อมจะสะสมความไม่รู้และความเห็นผิดไปในภพภูมิหน้า ส่วนผู้ที่ฟังธรรมตามกาล ย่อมจะสะสมความรู้และความเห็นถูกไปในภพภูมิหน้า.
ขอขอบคุณ :-
คอลัมน์ : ว่ายทวนน้ำ โดย “ทวีศักดิ์ อุ่นจิตติกุล”
แฟนเพจ : สาระจากพระธรรม
ที่มา :
https://www.dailynews.co.th/articles/1248566/14 กรกฎาคม 2565ม 10:00 น.