ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระพุทธรูปทองคำ 21 องค์ บนพระมาลาเบี่ยง  (อ่าน 1641 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29297
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

พระมาลาเบี่ยง


พระพุทธรูปทองคำ 21 องค์ บนพระมาลาเบี่ยง

พุทธลักษณะ

พระพุทธรูปที่ประดิษฐานรายรอบพระมาลาเบี่ยงประกอบด้วยพระพุทธรูปในสองอิริยาบถ คือ พระพุทธรูปประทับยืน และพระพุทธรูปประทับนั่ง พระพุทธรูปประทับยืนเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่อง พระพักตร์ค่อนข้างกลม แย้มสรวล ทรงศิราภรณ์เป็นชฎามุกุฏซ้อนกันสามชั้น ทรงกุณฑลรูปตุ้ม ประทับยืนตรงแสดงอภัยมุทราด้วยพระหัตถ์ทั้งสอง ทรงกรองศอ พาหุรัด ทองกร และทองพระบาทจำหลักลาย รัดประคดประดับเครื่องเพชรพลอย มีอุบะขนาดสั้นห้อยประดับกับทั้งมีชายภูษารูปหางปลาห้อยย้อยลงมาเบื้องหน้าทับบนอันตรวาสก

สำหรับพระพุทธรูปประทับนั่งนั้น มีพระพักตร์คล้ายคลึงกับพระพุทธรูปประทับยืน ทรงศิราภรณ์และเครื่องอาภรณ์ละม้ายกับพระพุทธรูปประทับยืน เพียงลดรายละเอียดบางอย่างเช่น ความอลังการของชฎามุกุฏลงเป็นอาทิ พระพุทธรูปประทับนั่งเหล่านี้ครองอุตราสงค์ห่มเฉียง เปิดพระอังสาขวา ด้วยปรากฏขอบอุตราสงค์พาดผ่านพระอังสาซ้ายลงมาทางด้านขวา พระพุทธปฏิมาประทับนั่งทั้งหมดประทับนั่งในท่าวีราสนะ พระชงม์ขวาซ้อนเหนือพระชงฆ์ซ้าย แสดงธยานะมุทราพระหัตถ์ขวาซ้อนเหนือพระหัตถ์ซ้ายกับทั้งในพระหัตถ์นั้นมีสิ่งของบางอย่างทรงถืออยู่



ประวัติ

พระพุทธรูปทองคำ 21 องค์ รายรอบพระมาลาเบี่ยงนี้ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ รับสั่งว่า คนทอดแหได้พบพระพุทธรูปดังกล่าวในลำน้ำมูล แขวงเมืองนครราชสีมา ต่อมาพระยานครราชสีมานำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้อัญเชิญพระพุทธรูปเหล่านี้ ประดิษฐานรอบพระมาลาเบี่ยงที่ทรงสร้างขึ้น

สำหรับลักษณะทางประติมานวิทยาเชื่อว่า พระพุทธรูปประทับนั่งซึ่งถือวัตถุบางอย่างซึ่งอาจได้แก่หม้อน้ำมนต์ไว้ในพระหัตถ์นี้ อาจหมายถึงพระพุทธเจ้าไภษัชคุรุไวฑูรยประภาอันมีความหมายถึง พระพุทธเจ้าผู้มีแสงสว่างประดุจแก้วไพฑูรย์ผู้เป็นพระพุทธเจ้าที่ทรงรักษาโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง ความนิยมนับถือพระพุทธเจ้าองค์นี้เจริญสูงสุดในรัชกาลของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มหาราชองค์สุดท้ายของราชอาณาจักรเขมรในราวพุทธศตวรรษที่ 18

@@@@@@

ด้วยเหตุที่ศิลาจารึกในรัชกาลของพระองค์กล่าวว่า พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงสร้างอโรคยาศาลาเหล่านี้คงสร้างขึ้นทั้งในประเทศกัมพูชาและในดินแดนของราชอาณาจักรไทยในปัจจุบัน อโรคยศาลานี้ได้อุทิศถวายพระพุทธเจ้าไภษัชคุรุไวฑูรยประภาทั้งสิ้น

ในหนังสือสาส์นสมเด็จ พระนิพนธ์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ กับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ระบุจำนวนพระพุทธรูปรอบมาลาเบี่ยงว่ามี 28 พระองค์ ยึดรูปแบบการสะกดตามที่ปรากฏในต้นฉบับ



ที่มา : ศิลปวัฒนธรรม ฉบับธันวาคม 2538
ผู้เขียน : ศ.ดร.ม.ร.ว.สุริยวุฒิ สุขสวัสดิ์
เผยแพร่ : วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ.2562
ขอบคุณ : https://www.silpa-mag.com/culture/article_5438
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29297
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.

พระมาลาเบี่ยง ประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำ 21 องค์


ที่มา “พระพุทธรูปทองคำ 21 องค์” บน “พระมาลาเบี่ยง” รัชกาลที่ 1 ทรงสร้าง

พระมาลาเบี่ยง เป็นหนึ่งในเครื่องราชูปโภคพระมหากษัตริย์ ซึ่งรัชกาลที่ 1 ทรงสร้างขึ้น บนพระมาลาเบี่ยงประดิษฐาน “พระพุทธรูปทองคำ” 21 องค์ รายละเอียดต่างๆ ศ. ดร. ม.ร.ว. สุริยวุฒิ สุขสวัสดิ์ ได้เขียนไว้ในนิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับธันวาคม พ.ศ. 2538 ดังนี้

พุทธลักษณะของ พระพุทธรูปทองคำ 21 องค์ ที่ประดิษฐานรายรอบพระมาลาเบี่ยง ประกอบด้วยพระพุทธรูปในสองอิริยาบถ คือ พระพุทธรูปประทับยืน [1] และ พระพุทธรูปประทับนั่ง [2]

พระพุทธรูปประทับยืน เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่อง พระพักตร์ค่อนข้างกลม แย้มสรวล ทรงศิราภรณ์เป็นชฎามุกุฏซ้อนกันสามชั้น ทรงกุณฑลรูปตุ้ม ประทับยืนตรงแสดงอภัยมุทราด้วยพระหัตถ์ทั้งสอง ทรงกรองศอ พาหุรัด ทองกร และทองพระบาทจำหลักลาย รัดประคดประดับเครื่องเพชรพลอย มีอุบะขนาดสั้นห้อยประดับกับทั้งมีชายภูษารูปหางปลาห้อยย้อยลงมาเบื้องหน้าทับบนอันตรวาสก

ส่วน พระพุทธรูปประทับนั่ง มีพระพักตร์คล้ายคลึงกับพระพุทธรูปประทับยืน ทรงศิราภรณ์และเครื่องอาภรณ์ละม้ายกับพระพุทธรูปประทับยืน เพียงลดรายละเอียดบางอย่าง เช่น ความอลังการของชฎามุกุฏลงเป็นอาทิ พระพุทธรูปประทับนั่งเหล่านี้ครองอุตราสงค์ห่มเฉียง เปิดพระอังสาขวา ด้วยปรากฏขอบอุตราสงค์พาดผ่านพระอังสาซ้ายลงมาทางด้านขวา พระพุทธปฏิมาประทับนั่งทั้งหมดประทับนั่งในท่าวีราสนะ พระชงม์ขวาซ้อนเหนือพระชงฆ์ซ้าย แสดงธยานะมุทราพระหัตถ์ขวาซ้อนเหนือพระหัตถ์ซ้ายกับทั้งในพระหัตถ์นั้นมีสิ่งของบางอย่างทรงถืออยู่



พระมาลาเบี่ยง

พระพุทธรูปทองคำ 21 องค์ [3] รายรอบพระมาลาเบี่ยงนี้ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ รับสั่งว่า คนทอดแหได้พบพระพุทธรูปดังกล่าวในลำน้ำมูล แขวงเมืองนครราชสีมา ต่อมาพระยานครราชสีมานำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พระองค์จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้อัญเชิญพระพุทธรูปเหล่านี้ประดิษฐานรอบ “พระมาลาเบี่ยง” ที่ทรงสร้างขึ้น

สำหรับลักษณะทางประติมานวิทยาเชื่อว่า พระพุทธรูปประทับนั่งซึ่งถือวัตถุบางอย่าง ซึ่งอาจได้แก่หม้อน้ำมนต์ไว้ในพระหัตถ์ อาจหมายถึง “พระพุทธเจ้าไภษัชคุรุไวฑูรยประภา” อันมีความหมายถึง พระพุทธเจ้าผู้มีแสงสว่างประดุจแก้วไพฑูรย์ ผู้เป็นพระพุทธเจ้าที่ทรงรักษาโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง

ความนิยมนับถือพระพุทธเจ้าองค์นี้เจริญสูงสุดในรัชกาลของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มหาราชองค์สุดท้ายของราชอาณาจักรเขมรในราวพุทธศตวรรษที่ 18 ด้วยเหตุที่ศิลาจารึกในรัชกาลของพระองค์กล่าวว่า พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงสร้างอโรคยาศาลาเหล่านี้ ทั้งในพื้นที่ที่ปัจจุบันคือประเทศกัมพูชาและในดินแดนของราชอาณาจักรไทย ซึ่งอโรคยศาลานี้ได้อุทิศถวายพระพุทธเจ้าไภษัชคุรุไวฑูรยประภาทั้งสิ้น

อ่านเพิ่มเติม :-

      • เหตุใดคนโบราณทํา “คอก” แคบๆ ล้อมพระพุทธรูป
      • ทำไม “พระพุทธชินราช” จึงเป็นพระพุทธรูปที่จำลองมากที่สุด?
      • นิมิตอัศจรรย์ “หยก” ใหญ่ที่สุดในโลกจากแคนาดา สู่พระพุทธรูปหยกวัดธรรมมงคลฯ





เชิงอรรถ :-
[1] ยึดรูปแบบการสะกดตามที่ปรากฏในต้นฉบับ
[2] ยึดรูปแบบการสะกดตามที่ปรากฏในต้นฉบับ
[3] ในหนังสือสาส์นสมเด็จ พระนิพนธ์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ กับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ระบุจำนวนพระพุทธรูปรอบมาลาเบี่ยงว่ามี 28 พระองค์

ขอขอบคุณ :-
ผู้เขียน : กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม
เผยแพร่ : วันอังคารที่ 26 กันยายน พ.ศ.2566
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 3 มกราคม 2561
website : https://www.silpa-mag.com/history/article_5438
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ