ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: รวมพระสูตร อนุปุพพิกถา ทั้งพระไตรปิฎก ๒๖ พระสูตร มีผู้ฟังธรรม 200,123 คน  (อ่าน 968 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.


รวมพระสูตร อนุปุพพิกถา ทั้งพระไตรปิฎก ๒๖ พระสูตร มีผู้ฟังธรรม 200,123 คน
     
อนุปุพพิกถา อ่านว่า อนุ - ปุพ - พิ - กถา แปลว่า การแสดงธรรมไปตามลำดับ(จากง่ายไปยาก)

อนุปุพพิกถา (พระธรรมเทศนาเป็นลำดับ เพื่อฟอกอัธยาศัยของสัตว์ให้หมดจดเป็นชั้นๆ) ทรงประกาศ ทานกถา สีลกถา สัคคกถา(พรรณาถึงสวรรค์) โทษความต่ำทราม ความเศร้าหมองของกาม อานิสงส์ในความออกจากกาม เมื่อพระผู้มีพระภาคทรงทราบว่า ผู้ฟังมีจิตสงบ มีจิตอ่อน มีจิตปลอดจากนิวรณ์ มีจิตเบิกบาน มีจิตผ่องใสแล้ว จึงแสดง ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค(อริยสัจสี่)

ดวงตาเห็นธรรม ปราศจากธุลี ปราศจากมลทิน ว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลมีความดับเป็นธรรมดา จิตจึงสะอาด ปราศจากมลทิน ควรได้รับน้ำย้อมเป็นอย่างดี

ได้เห็นธรรมแล้ว ได้บรรลุธรรมแล้ว ได้รู้ธรรม แจ่มแจ้งแล้ว มีธรรมอันหยั่งลงแล้ว ข้ามความสงสัยได้แล้ว ปราศจากถ้อยคำแสดงความสงสัย ถึงความเป็นผู้แกล้วกล้า ไม่ต้องเชื่อผู้อื่น เชื่อแต่คำสอนของพระศาสดา

@@@@@@@

พระพุทธเจ้าแสดงอนุปุพพิกถาให้กับใคร / ผู้ฟังธรรมกี่คน / ๒๖ พระสูตร-ฉบับหลวง

   1. ยสกุลบุตร /1 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๔ หน้าที่ ๒๔
   2. บิดาของยสกุลบุตร /1 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๔ หน้าที่ ๒๖
   3. มารดา และภรรยาเก่าของพระยสกุลบุตร /2 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๔ หน้าที่ ๒๘
   4. สหายคฤหัสถ์ ๔ คนของท่านพระยส  /4 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๔ หน้าที่ ๒๙
   5. สหายคฤหัสถ์ ๕๐ คน ของพระยส /50 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๔ หน้าที่ ๓๐
   6. สหายภัททวัคคีย์ ๓๐ คน พร้อมด้วยปชาบดี /31 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๔ หน้าที่ ๓๕
   7. พราหมณ์คหบดีชาวมคธทั้ง ๑๒ นหุต(หมื่น) /120,000 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๔ หน้าที่ ๕๒
   8. พระสาคตเถระ .. ชาวตำบลแปดหมื่น /80,000 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๕ หน้าที่ ๓
   9. พราหมณ์เวลัฏฐกัจจานะ /1 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๕ หน้าที่ ๖๘
 10. สีหเสนาบดี /1 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๕ หน้าที่ ๘๓

 11. ภรรยาบุตรสะใภ้ และทาสของเมณฑกะคหบดี /3 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๕ หน้าที่ ๙๓
 12. โรชะมัลลกษัตริย์ /1 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๕ หน้าที่ ๑๐๐
 13. อนาถบิณฑิกคหบดี /1 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๗ หน้าที่ ๖๘
 14. บุรุษคนเดียว และ บุรุษ ๒ คน /3 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๗ หน้าที่ ๑๑๙
 15. บุรุษ ๑๖ คน /16 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๗ หน้าที่ ๑๑๙
 16. พราหมณ์โปกขรสาติ /1 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๙ หน้าที่ ๑๑๖
 17. กูฏทันตพราหมณ์ /1 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๙ หน้าที่ ๑๘๑
 18. พระราชโอรสขัณฑะและติสสะบุตรปุโรหิต* /2 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๐ หน้าที่ ๗๓
 19. หมู่มหาชนประมาณ ๘๔,๐๐๐ คน* /84,000 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๐ หน้าที่ ๓๕
 20. บรรพชิต ๘๔,๐๐๐ รูป* /84,000 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๐ หน้าที่ ๓๖
     
 21. อุบาลีคฤหบดี /1 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๓ หน้าที่ ๕๕
 22. พหมายุพราหมณ์ /1 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๓ หน้าที่ ๔๑๑
 23. สีหเสนาบดี /1 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ หน้าที่ ๑๔๓
 24. อุคคคฤหบดี /1 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ หน้าที่ ๑๖๐
 25. อุคคคฤหบดี /1 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ หน้าที่ ๑๖๓
 26. สุปปพุทธกุฏฐิสูตร /1 /ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๕ หน้าที่ ๑๐๔
               
*พระพุทธเจ้าพระนามว่า วิปัสสี  (กัปที่ ๙๑ สมัยมนุษย์อายุ ๘๐,๐๐๐ ปี)

พระพุทธเจ้า โคดม มีผู้ฟังธรรม 200,123 คน
พระพุทธเจ้า วิปัสสี มีผู้ฟังธรรม 168,002 คน

   
@@@@@@@
   
ลำดับการแสดง “อนุปุพพิกถา” ของพระผู้มีพระภาค (ลำดับจากง่ายไปยาก)

  1. ทรงประกาศ ทานกถา (ทาน)
  2. ทรงประกาศ สีลกถา (ศีล)
  3. ทรงประกาศ สัคคกถา (สุขของเทวดา)
  4. โทษความต่ำทราม ความเศร้าหมอง ของกามทั้งหลาย (โทษของกาม)
  5. อานิสงส์ในความออกจากกาม (เนกขัมมะ-ความดำริออกจากกาม)
  6. เมื่อทรงทราบว่า กุลบุตร มีจิตสงบ มีจิตอ่อน ปลอดจากนิวรณ์ เบิกบานผ่องใสแล้ว
  7. ทรงประกาศ พระธรรมเทศนา คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
  8. ดวงตาเห็นธรรมว่า สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นมีความดับไปเป็นธรรมดา
  9. ข้ามข้อสงสัยได้แล้ว ไม่เชื่อคำสอนผู้อื่น เชื่อคำของของพระศาสดา (ศรัทธาตถาคต)

(ข้อ 6)พระผู้มีพระภาคใช้ "เจโตปริยญาณญาณ" รู้ใจผู้อื่น ตรวจสอบวาระจิต เมื่อเห็นว่า จิตปราศจากนิวรณ์ น้อมไปเพื่อการฟังธรรมแล้ว ก็จะทรงแสดงอริยสัจสี่(ข้อ 7)ในลำดับต่อไป ธรรมเทศนา"อนุปุพพิกถา" จึงเป็นลักษณะเฉพาะของพระศาสดาเท่านั้น




ขอยกตัวอย่าง 3 พระสูตร ดังนี้

(1.) พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงอนุปุพพิกถา แก่ยสกุลบุตร /ฉบับหลวง เล่มที่ ๔ หน้าที่ ๒๔

เมื่อ ยสกุลบุตรนั่งเรียบร้อยแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดง อนุปุพพิกถา ทรงประกาศทานกถา สีลกถา สัคคกถา โทษความต่ำทราม ความเศร้าหมองของกามทั้งหลาย และอานิสงส์ในความออกจากกาม.

เมื่อพระองค์ทรง ทราบว่า ยสกุลบุตรมีจิต สงบ มีจิตอ่อน มีจิตปลอดจากนิวรณ์ มีจิตเบิกบาน มีจิตผ่องใสแล้ว จึงทรงประกาศพระธรรมเทศนาที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงยกขึ้นแสดงด้วยพระองค์เอง คือ ทุกข์ สมุทัย  นิโรธ มรรค.

ดวงตาเห็นธรรม ปราศจากธุลี ปราศจากมลทิน ว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลมีความดับเป็นธรรมดา ได้เกิดแก่ ยสกุลบุตร ณ ที่นั่งนั้นแล ดุจผ้าที่สะอาดปราศจากมลทิน ควรได้รับน้ำย้อมเป็นอย่างดี ฉะนั้น.


@@@@@@@

(20.) พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงอนุปุพพิกถาแก่ บรรพชิต ๘๔,๐๐๐ รูป /ฉบับหลวง เล่มที่ ๑๐ หน้าที่ ๓๖

[๕๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บรรพชิต ๘๔,๐๐๐ รูปเหล่านั้น ได้สดับข่าวว่า พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า วิปัสสี เสด็จถึงพระนคร พันธุมดี ราชธานีโดยลำดับ ประทับอยู่ ณ มฤคทายวันชื่อว่า เขมะ และมี  ข่าวว่า กำลังทรงแสดงธรรมอยู่ภิกษุทั้งหลาย

ครั้งนั้นแล บรรพชิต ๘๔,๐๐๐  รูปเหล่านั้น ได้พากันไปทางพระนครพันธุมดี ราชธานีทางมฤคทายวัน ชื่อว่า เขมะ ที่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า วิปัสสี ประทับอยู่ ครั้นถึงแล้ว ได้ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า วิปัสสี แล้วพากันนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า วิปัสสี ได้ตรัส อนุปุพพิกถาแก่บรรพชิตเหล่านั้น คือ

ทรงประกาศ ทานกถา สีลกถา สัคคกถา โทษของกามที่ต่ำช้าเศร้าหมอง และ อานิสงส์ในการออกบวช เมื่อทรงทราบว่า บรรพชิตเหล่านั้นมีจิตคล่อง มีจิตอ่อน มีจิตปราศจากนิวรณ์ มีจิตสูง มีจิตผ่องใส จึงได้ทรงประกาศพระธรรมเทศนาที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงยกขึ้นแสดงด้วยพระองค์เอง คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค

ดวงตาเห็นธรรมที่ปราศจากธุลี ปราศจากมลทิน ได้เกิดขึ้นแล้วแก่ บรรพชิต ๘๔,๐๐๐ รูปนั้นว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลมีความดับไปเป็นธรรมดา ณ ที่นั่งนั้นแล เหมือนผ้าที่สะอาดปราศจาก มลทินควร รับน้ำย้อมด้วยดี ฉะนั้น

บรรพชิตเหล่านั้นเห็นธรรม ถึงธรรมรู้แจ้งธรรม หยั่งทราบธรรม ข้ามความสงสัย ปราศจากความเคลือบแคลง ถึงความแกล้วกล้า ไม่ต้องเชื่อผู้อื่นในสัตถุสาสนา

@@@@@@@

(24.) พระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงอนุปุพพิกถาแก่ อุคคคฤหบดี /ฉบับหลวง เล่มที่ ๒๓ หน้าที่ ๑๖๐


อุคคคฤหบดีกล่าวว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ กระผมก็ไม่ทราบเลยว่า พระผู้มีพระภาคทรงพยากรณ์กระผม ว่าเป็นผู้ประกอบด้วยธรรมที่น่าอัศจรรย์ อันไม่เคย มีมา ๘ ประการ เป็นไฉน แต่ขอท่านได้โปรดฟังธรรมที่น่าอัศจรรย์ อันไม่เคยมีมา ๘ ประการ ของกระผม ที่มีอยู่ จงใส่ใจให้ดีกระผมจักเรียนถวาย ภิกษุนั้นรับคำ อุคคคฤหบดี ชาวเมืองเวสาลีแล้ว

อุคคคฤหบดีชาวเมืองเวสาลี ได้กล่าวว่า ข้าแต่ท่านผู้เจริญ ในคราวที่กระผมได้เห็น พระผู้มีพระภาคแต่ไกล เป็นครั้งแรก พร้อมกับการเห็นนั้นเอง จิตของกระผมเลื่อมใสในพระผู้มีพระภาค นี้แลเป็นธรรม ที่น่าอัศจรรย์ อันไม่เคยมีมาประการที่ ๑ ของกระผมที่มีอยู่ ฯ

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ กระผมมีจิตเลื่อมใสแล้ว ได้เข้าไปนั่งใกล้พระผู้มีพระภาคพระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงอนุปุพพิกถาโปรดกระผม คือ ทรงประกาศ ทานกถา สีลกถา สัคคกถา โทษของกาม อันต่ำทรามเศร้าหมอง และอานิสงส์ในเนกขัมมะ

ในคราวที่พระผู้มีพระภาค ได้ทรงทราบกระผมว่า มีจิตควร อ่อนปราศจาก นิวรณ์ บันเทิง ผ่องใสแล้ว จึงทรงประกาศสามุกังสิกาธรรมเทศนาแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค เปรียบเหมือนผ้าที่บริสุทธิ์ไม่หมองดำ จะพึงรับน้ำย้อมได้ดี แม้ฉันใด

ธรรมจักษุอันปราศจากธุลี ปราศจากมลทิน เกิดขึ้นแล้วแก่กระผม ณ ที่นั่งนั้น แลว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งมวลล้วนมีความดับไปเป็นธรรมดา ก็ฉันนั้นเหมือนกัน

ข้าแต่ท่านผู้เจริญ กระผมได้เห็นธรรมแล้ว บรรลุธรรมแล้ว รู้แจ้งธรรมแล้ว หยั่งซึ้งถึงธรรมแล้ว ปราศจากความเคลือบแคลงแล้ว ถึงความแกล้วกล้าแล้ว ไม่ต้องเชื่อผู้อื่น ในคำสอนของพระศาสดา ได้ถึงพระพุทธเจ้าพระธรรม และพระสงฆ์ว่าเป็นสรณะแล้ว และ สมาทานสิกขาบท อันมีพรหมจรรย์เป็นที่ ๕ แล้ว ณ ที่นั่งนั้นแล นี้แลเป็นธรรมที่น่าอัศจรรย์ อันไม่เคยมีมาข้อที่ ๒ ของกระผมที่มีอยู่ ฯ


อ่านพระสูตรทั้งหมดได้ที่ : http://www.anakame.com/page/1_Sutas/1200/1240.htm






ขอขอบคุณ :-
ที่มา : http://www.anakame.com/page/1_Sutas/1200/1240.htm
ภาพ : https://84000.org/tipitaka/picture/f37.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ