ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ‘อดทนอย่างสง่างาม ในโมงยามแห่งความทุกข์ทน’  (อ่าน 1062 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.



WORLD : ‘อดทนอย่างสง่างาม ในโมงยามแห่งความทุกข์ทน’


รู้จัก ‘กามัง’ แนวคิดที่ทำให้คนญี่ปุ่น เข้มแข็งได้ในสถานการณ์ที่ยากจะรับมือ

แค่เพียงวันแรกของปี 2024 ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.6 บริเวณตอนกลางของประเทศ ก่อนที่ในวันถัดมาจะเกิดเหตุการณ์อุบัติเหตุเครื่องบินชนกันที่สนามบินฮาเนดะที่ทำเอาคนทั้งโลกส่งความห่วงใยไปยังดินแดนอาทิตย์อุทัย และถ้าย้อนกลับไปในอดีต ดินแดนนี้ก็ประสบปัญหาอยู่บ่อยครั้งจากทั้งภัยธรรมชาติและฝีมือมนุษย์ แต่สิ่งที่ทั่วโลกเห็นนั้นก็คือ ชาวญี่ปุ่นจะรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันเหล่านี้ด้วยความอดทน เข้มแข็ง มีสติ และช่วยเหลือกันและกัน จนสามารถฟื้นตัวจากเหตุการณ์ต่างๆ ได้ในเวลาอันสั้น พร้อมกับดำเนินชีวิตต่อไปอย่างเป็นปกติ

คุณสมบัติเช่นนี้ของคนญี่ปุ่นส่วนหนึ่งมาจากแนวคิดที่ถูกถ่ายทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ที่เรียกว่า ‘กามัง’ (我慢) โดยแนวคิดดังกล่าวหมายถึง ‘ความอดทนต่อสิ่งที่ทนได้ยากอย่างมีศักดิ์ศรีและเปี่ยมด้วยสติ’ และถ้าพิจารณาจากรากศัพท์แล้ว คำดังกล่าวจะแปลได้ว่า ‘ความอดทน’ หรือ ‘ความเพียร’ โดยแรกเริ่มนั้น ‘กามัง’ เป็นคำสอนของพุทธศาสนานิกายเซนที่ได้รับการอธิบายว่าเป็นคุณธรรมที่ควรจะยึดถือไว้เพื่อให้สามารถรับมือกับช่วงเวลาที่ยากลำบากได้ดีที่สุด โดยไม่แตกสลายและสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างงามสง่า

@@@@@@@

ก่อนจะถูกนำมาพัฒนาต่อยอดอย่างแพร่หลายในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่นพยายามพัฒนาประเทศอย่างเต็มรูปแบบ โดยในช่วงนี้มีการนำ ‘กามัง’ มาใช้สอนผู้คนให้รู้จักอดทน ควบคุมตนเองให้เป็น และเห็นประโยชน์ต่อส่วนรวมเป็นหลัก ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้จะเห็นได้อย่างชัดเจนที่สุดในช่วงที่ญี่ปุ่นเผชิญกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในภูมิภาคโทโฮกุเมื่อปี 2011 ผ่านความสามารถในการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว การรับมือกับปัญหาด้วยความสุภาพ และการช่วยเหลือซึ่งกันและกันโดยไม่แบ่งแยก

โนริโกะ โอดะกิริ (Noriko Odagiri) ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาคลินิกจากมหาวิทยาลัยนานาชาติโตเกียว ได้อธิบายว่าส่วนหนึ่งที่แนวคิดนี้มีอิทธิพลต่อคนญี่ปุ่นนั้น มาจากค่านิยมของคนญี่ปุ่นเองที่ให้ความสำคัญกับการไม่เปิดเผยมากเกินไปและระมัดระวังอย่างยิ่งต่อการส่งพลังด้านลบต่อผู้อื่น ดังนั้นการอดทนและควบคุมตนเองให้ได้จึงเป็นเรื่องสำคัญ


@@@@@@@

โดยแนวคิดนี้จะถูกปลูกฝังตั้งแต่เด็กๆ จากการที่พ่อแม่ฝึกอบรมให้ลูกๆ เรียนรู้จากผู้ใหญ่จนทำให้เด็กเกิดความอดทนต่อการศึกษา และรู้จักรับผิดชอบตนเอง จนสามารถเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างอดทนและไม่เป็นภาระของคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นการรู้จักเข้าคิวนานๆ เพื่อซื้อของสักชิ้น ไปจนถึงการต้องอดทนเพื่อทำงานกับคนที่ไม่ชอบขี้หน้าจนงานสำเร็จลุล่วง

ในขณะที่ โนบุโอะ โคมิยะ (Nobuo Komiya) นักอาชญาวิทยาจากมหาวิทยาลัยริชโช (Rissho University) ในกรุงโตเกียวกล่าวว่า ‘กามัง’ เป็นตัวแทนของชนชาติญี่ปุ่น และยังเป็นปัจจัยที่มีส่วนช่วยให้อัตราการเกิดอาชญากรรมในญี่ปุ่นต่ำกว่าประเทศอื่นๆ เนื่องจากผู้คนที่นี่มักจะคอยดูแลกันและกัน หลีกเลี่ยงความขัดแย้ง และระมัดระวังการกระทำของตนเสมอ
.
#WORLD #BrandThink
#พื้นที่สร้างสรรค์เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ