ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระราชนิพนธ์ ร.5 ระบุ ช่วงปลายกรุงศรี และเหตุที่กรุงแตก เพราะฆ่ากันเอง  (อ่าน 754 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.

สงครามคราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ภาพจิตรกรรมฝาผนังจัดแสดงภายในอาคารภาพปริทัศน์ อนุสรณ์สถานแห่งชาติ


พระราชนิพนธ์ ร.5 ระบุ ช่วงปลายกรุงศรี และเหตุที่กรุงแตก เพราะฆ่ากันเอง

กรุงศรีอยุธยา สถาปนาขึ้นใน พ.ศ. 1893 หลังจากนั้นอีก 417 ปี กรุงศรีฯ ก็ “แตก” ในปี 2310




ความวุ่นวาย บ้านเมืองในยามศึกเมื่อกรุงแตก จิตรกรรมฝาผนังสมัยรัชกาลที่ 4 ภายในหอราชพงศานุสรณ์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (ภาพจาก จิตรกรรมแบบสากลสกุลช่างขรัวอินโข่ง. 2522)



ทำไมกรุงศรีอยุธยาแตกพ่าย.?

ทำไม “กรุงแตก” มีผลงานนักวิชาการหลายคนตอบคำถามนี้ไว้หลายมิติ และถ้าย้อนไปเมื่อร้อยกว่าปีก่อน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ก็ทรงมีคำตอบเช่นกัน เห็นได้จากพระราชนิพนธ์ในพระองค์ ที่ระบุว่า เป็นเพราะ “ฆ่ากันเอง” โดยเป็นข้อสรุปจากช่วง 90 ปีสุดท้ายของกรุงศรีฯ ว่า

“….ข้าราชการก็ร่วงโรยเบาบางเพราะฆ่ากันมาเสียหลายแผ่นดินแล้ว

- แผ่นดินพระเจ้าทรงธรรม ฆ่าขุนนางเก่าครั้งแผ่นดินเจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์

- แผ่นดินพระเจ้าปราสาททอง ฆ่าขุนนางพวกพระเชษฐา แต่เห็นจะน้อย

- แผ่นดินพระนารายณ์ ฆ่าขุนนางที่เปนพวกเจ้าฟ้าไชยและพระศรีสุธรรมมา เห็นเกือบจะหมดเปลี่ยนใหม่ทั้งสำรับ

- แผ่นดินพระเพทราชา ฆ่าขุนนางแผ่นดินพระนารายณ์หย่อยมาจนไปตีนครราชสิมา เห็นจะเรียกได้ว่าเกือบหมดได้

- แผ่นดินขุนหลวงเสือ เห็นจะฆ่ามาก เพราะคนนิยมเจ้าพระขวัญ ฤาพวกเจ้าพระพิไชยสุรินทร์ จะเปนขุนนางไม่ได้

- แผ่นดินขุนหลวงท้ายสระ เคราะห์ดีไม่ต้องฆ่าใคร แต่ขุนนางแผ่นดินขุนหลวงเสือเห็นจะมีน้อย เพราะอยู่ในราชสมบัติน้อยตั้งไม่ทันเต็มที่

- แผ่นดินขุนหลวงบรมโกษฐ ชาววังหลวงเห็นจะตายเกือบหมด แต่สมุหนายกยังถอดเปนพระยาราชนายก ซึ่งนับว่าเปนคนนอกหน้าค่าชื่ออยู่คนเดียว เพราะฉนั้นขุนนางตามในจดหมายตำรานี้จึงได้ร่องแร่ง เพราะแรกเสวยราชย์หาคนตั้งไม่ทัน ฤาตั้งผู้ใดขึ้นก็ไม่รู้ตำราเก่าเลยทั้งสิ้น

คิดดูในระหว่าง 90 ปี ฆ่าเททิ้งกันเสียถึง 7 ครั้ง เกือบเปน 13 ปี ฆ่ากันครั้งหนึ่ง ฤาถ้ารอดตายก็กลายเปนไพร่หลวงแลตะพุนหญ้าช้าง ถ้าจะนับพวกที่ไม่ตาย ก็ต้องว่าผู้ดีกลายเป็นไพร่ๆ กลายเปนผู้ดีถึง 7 ครั้ง ใน 90 ปีนั้น”

[จัดย่อหน้าใหม่และสั่งเน้นคำ โดยกองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม]



ภาพจิตรกรรมแสดงเหตุการณ์กองทัพพม่าโจมตีกรุงศรีอยุธยา สมัยเสียกรุงครั้งที่ 2 จากอนุสรณ์สถานแห่งชาติ


อ่านเพิ่มเติม :-

    • 27 ค่ายพม่าล้อมกรุงศรี จากบันทึกของแม่ทัพพม่า คราวสงครามเสียกรุงครั้งที่ 2
    • “สร้างคอกล้อมวัว” ยุทธวิธีพม่าตีกรุงศรีแตก “ล้อม 10 ปีก็จะล้อมจนกว่าจะได้”





อ้างอิง : “พระกระแสพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง สอบเรื่องราวตำราพระเมรุกรมหลวงโยธาเทพ กับพระราชพงศาวดาร ทรงพระราชนิพนธ์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ร.ศ. 121” ใน, ประชุมจดหมายเหตุ สมัยอยุธยา ภาค 1, คณะกรรมการ จัดพิมพ์เอกสารปรวะวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และโบราณคดี สำนักนายกรัฐมนตรี, พ.ศ. 2510.

ขอขอบคุณ :-
ผู้เขียน : กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม
เผยแพร่ : วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ.2567
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 28 สิงหาคม 2566
website : https://www.silpa-mag.com/history/article_115994
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 17, 2024, 07:05:18 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ