ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ยังไม่ได้ล้างบาป ก็ล้างเสีย  (อ่าน 4416 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ยังไม่ได้ล้างบาป ก็ล้างเสีย
« เมื่อ: ธันวาคม 26, 2024, 06:52:01 am »
0
.



ยังไม่ได้ล้างบาป ก็ล้างเสีย
โพสต์โดย : เมตตา | วันที่ 21 ส.ค. 2557

ความสะอาดนั้นมี ๓ อย่างคือ ความสะอาดทางกาย สะอาดทางวาจา และทางใจ ท่านทีสะอาดกาย วาจา และใจ สูงสุดคือ พระอรหันต์

สำหรับผู้ที่ยังไม่ใช่พระอรหันต์ ขณะที่มีกิเลสเป็น อกุศลจิต เป็นจิตที่สกปรก
สำหรับกุศลจิตไม่สกปรก กายย่อมมาจากจิตที่เป็นกุศล เว้นจากกายทุจริต ๓ อย่าง เว้นจากการฆ่า เว้นจากการลักและเว้นจากการเสพเมถุน ความสะอาดทางวาจาเป็นผู้เว้นจากการพูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

สำหรับความสะอาดทางใจนั้นเป็นผู้ปราศจากนิวรณ์ ๕ ซึ่งหมายถึง อกุศลทั้งหมด

ความไม่สะอาดทางกาย จึงไม่ใช่กายสกปรก ไม่อาจล้างได้ด้วยการอาบน้ำ บาปไม่อาจถูกล้างได้ด้วยน้ำ อย่างที่กรุงพาราณสีมีการอาบน้ำล้างบาปกัน พวกที่มีความเห็นผิด เขาไม่ฟังพระธรรม เขาก็เชื่อว่า อาบน้ำแล้วล้างบาปได้ หากการอาบน้ำล้างบาปได้ เต่า ปลา จระเข้ ในน้ำก็หมดกิเลสเช่นกัน

@@@@@@@

แต่ตามความเป็นจริงบาปจะล้างได้ด้วยคุณความดี จนถึงโลกุตตรกุศล จึงจะล้างบาปอกุศลได้หมดสิ้นตามลำดับ ชำระจิตให้สะอาดด้วยการอบรมเจริญปัญญา อกุศลแม้เพียงเล็กน้อยก็ไม่สะอาด

การศึกษาพระธรรมเพื่อให้รู้ว่า ในชีวิตประจำวันมีความไม่สะอาดกาย วาจาและใจอยู่มาก เพราะว่ายังมีกิเลสอกุศลมาก กิเลสอกุศลนั้นไม่ได้อยู่ในหนังสือ แต่จะเกิดในชีวิตประจำวัน จึงต้องรู้จักกิเลสอกุศลด้วยการอบรมเจริญปัญญา เข้าใจถูก เห็นถูก ในสิ่งที่กำลังปรากฏ เป็นสิ่งที่ควรรู้ยิ่ง รู้ว่าเป็นเพียงสภาพธรรมอย่างหนึ่ง ไม่ใช่เรา ไม่ใช่จะไปละโลภะ โทสะก่อน

ศึกษาธรรมเพื่อชำระจิต ฟังเพื่อรู้ว่ายังไม่สะอาด ดีกว่าคิดว่าสะอาดแล้ว คนส่วนมากไม่เห็นความไม่สะอาด สกปรกของตนเอง จึงต้องฟังพระธรรมต่อไปๆ เพื่อเข้าใจถูกต้องตามความเป็นจริง ไม่มีอุบายอื่น ไม่คิดเอง

ทุกคนต้องรู้จักตัวเองตามความเป็นจริงละเอียดขึ้น พระธรรมเป็นสิ่งซึ่งทำให้รู้จักตัวเองตามความเป็นจริง เป็นคนดีหรือ เป็นคนไม่มีมาก การเป็นคนดีไม่ใช่ง่ายแต่ต้องเข้าใจธรรมดับกิเลสหมดสิ้นเป็นพระอรหันต์จึงดีที่สุด การฟังพระธรรมทำให้ดีขึ้นเรื่อยๆ

@@@@@@@

ทุกคนอยากเป็นคนดี แล้วจะพึ่งอะไร.? พึ่งพระธรรมคำสอนซึ่งจะทำให้กาย วาจา และใจสะอาดขึ้น

ขอเชิญคลิกอ่านเพิ่มได้ที่นี่ค่ะ
     - ล้างบาปด้วยการลงอาบน้ำได้หรือไม่ [ปุณณิกาเถรีคาถา]
     - ทำบาปแล้วล้างบาป...ได้หรือไม่?
     - ชำระจิต



 st12 st12 st12

ความคิดเห็นที่ 1. โดย paderm | วันที่ 21 ส.ค. 2557

ขอออนุโมทนา พี่เมตตา อีกครั้ง ครับ สำหรับธรรมดีๆ โดยเฉพาะการล้างบาป ซึ่งกระผมขออนุญาตแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมเพื่อประกอบความเข้าใจ ดังนี้ ครับ

น้ำในพระธรรมวินัยของพระอริยเจ้าที่เป็นความเห็นถูกก็อย่างหนึ่ง น้ำตามความเข้าใจของปุถุชนผู้ไม่ได้สดับ ไม่ได้ฟังอีกอย่างหนึ่ง พระพุทธองค์ทรงแสดงความจริงที่เป็นสัจจะให้ผู้ที่มีความเห็นผิด ได้มีความเห็นถูกในความเข้าใจเรื่องการละกิเลส

การดับกิเลสว่าน้ำไม่ใช่เหตุให้ละกิเลสได้ หากเธอจะอาบน้ำเพื่อละกิเลส เธอจงอาบน้ำนี้...ซึ่งสามารถละกิเลสได้ น้ำที่พระองค์ทรงแสดงจึงไม่ใช่น้ำที่เราเข้าใจกัน แต่เป็นน้ำคืออริยมรรคที่มีความเห็นถูกเป็นหัวหน้า ให้เข้าใจความจริงในขณะนี้ว่าเป็นธรรมที่ไม่เที่ยงและไม่ใช่เรา

นี่คือ น้ำในพระธรรมวินัยที่จะชำระล้างกิเลสที่สะสมมาที่เป็นความไม่รู้ ไม่รู้ว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา ปัญญาเท่านั้นเป็นปฏิปักษ์ต่อกิเลส ไม่ใช่น้ำที่จะชำระล้างกิเลสได้

@@@@@@@

พระสุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 464

บทว่า อิเธว สินาหิ ท่านกล่าวอธิบายไว้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า เธอจงอาบน้ำในศาสนาของเราตถาคตนี้แล.

ท่านกล่าวอธิบายไว้อีกว่า ถ้าเธอปรารถนาจะล้างมลทิน คือกิเลสภายในไซร้ จงอาบด้วยน้ำคือมรรคมีองค์ ๘ ในศาสนาของเราตถาคตนี้นั่นแล. เพราะว่าในที่อื่น น้ำคือมรรคมีองค์ ๘ เช่นนี้ไม่มี ดังนี้.

เชิญคลิกอ่านเพิ่มเติมที่นี่ครับ
   - ความสะอาดภายใน [ชฏิลสูตร]

ขออนุโมทนา




 st12 st12 st12

ความคิดเห็นที่ 4. โดย khampan.a | วันที่ 21 ส.ค. 2557

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาในกุศลวิริยะของพี่เมตตา ครับ

มากมายก่ายกองจริงๆ สำหรับอกุศลธรรม กำลังฟังธรรมก็ยังมีอกุศลจิตเกิดได้ เพราะฉะนั้นก็ไม่กล่าวถึงเวลาที่ไม่ฟัง ก็ให้รู้จักตัวเองตามความเป็นจริง ถ้าไม่ใช่ความเข้าใจธรรม ไม่สามารถที่จะละกิเลสใดๆ ได้เลย เป็นไปตามกิเลส ซึ่งมีกำลังเพิ่มขึ้นด้วย

ชำระจิตซึ่งหมักหมมด้วยสิ่งสกปรก คือ กิเลส มากมาย ด้วยความเข้าใจถูกเห็นถูก

อ้างอิงจาก ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ครั้งที่ ๑๕๕

ขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ.






ขอบคุณที่มา : https://www.dhammahome.com/webboard/topic/25354
ขอบคุณภาพจาก : pinterest
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ