ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ปริตรสมัยพุทธกาล  (อ่าน 2048 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ปริตรสมัยพุทธกาล
« เมื่อ: มกราคม 09, 2025, 07:49:28 am »
0
.



ปริตรสมัยพุทธกาล

ปริตรสมัยพุทธกาล หมายถึง ปริตรที่พระพุทธเจ้าโคตมะของพวกเราทรงแนะนํา

ปริตรสมัยพุทธกาล เป็นปริตร คือ วิธีการคุ้มครองป้องกัน ที่พระพุทธเจ้าทรง แนะนําให้ภิกษุทั้งหลายกระทําหรือประพฤติ ซึ่งปรากฏอยู่ในพระธรรมเทศนาต่าง ๆ จํานวน มาก เช่น การแผ่เมตตา (เป็นที่รักของมนุษย์และอมนุษย์) และการประพฤติกุศลกรรมบถ ๑๐ (ทําให้ไม่ตายในวัยหนุ่ม) (ยกเว้นอาฏานาฏิยสูตรที่มีเหตุเกิดจากความปรารถนาดีของเทวราชาของพวกเทวดา)

ในกาลหลังพุทธปรินิพพาน พระสงฆ์ได้นํามาเป็นบทสวดพระปริตรจํานวนมาก และเรียวลงจนเหลือจํานวน ๖ ปริตร อย่างในปัจจุบัน คือ


@@@@@@@

๑. ธชัคคปริตร พระพุทธเจ้าตรัสแนะให้ภิกษุทั้งหลายใช้วิธีระลึกถึงพระรัตนตรัยขจัดความกลัว ความหวาดหวั่น และความขนพองสยองเกล้า

๒. ขันธปริตร พระพุทธเจ้าตรัสแนะให้ภิกษุทั้งหลายใช้วิธีแผ่เมตตาไปในตระกูล พญางู ๔ ตระกูล เพื่อคุ้มครองรักษาตนจากงูทั้งหลาย

๓. อังคุลิมาลปริตร พระพุทธเจ้าตรัสแนะให้พระองคุลิมาลใช้วิธีกล่าวสัจวาจา ช่วยคุ้มครองให้หญิงคลอดบุตรง่าย
 
๔. อาฏานาฏิยปริตร ท้าวเวสวัณมหาราช กราบทูลอาฏานาฏิยารักษ์แด่พระพุทธเจ้า ขอให้ทรงบอกกล่าวแก่พุทธบริษัท และทรงอนุญาตให้ภิกษุทั้งหลายรับไว้ เล่า เรียน ทรงจําไว้ เพื่อใช้รักษาตนจากการถูกอมนุษย์รบกวน โดยใช้วิธีบอกกล่าว แก่พวกอมนุษย์ว่า ท้าวมหาราชทั้ง ๔ นับถือนอบน้อมพระพุทธเจ้า การรังแก พุทธบริษัทก็เท่ากับละเมิดเทวอาชญาของท้าวมหาราช,

วิธีที่ใช้บอกกล่าว ก็คือ บอกเล่าตามคําที่ท้าวมหาราชกราบทูลถวายไว้นั่นแหละ โดยการพูดบอกเล่า ก็ได้ หรือท่องสาธยายก็ได้ ยามที่พุทธบริษัทพํานักอยู่ในเสนาสนะป่า หรือ สถานที่ ๆ คิดว่าอาจมีอมนุษย์ (คือยักษ์) มารบกวน,

ข้อสังเกตในวิธีใช้อาฏานาฏิยารักษ์ก็คือ การบอกกล่าว หรือท่องสาธยายก็ดี ผู้กล่าวหรือผู้สาธยาย ย่อมต้องรู้ความหมายของถ้อยคําทั้งหมดด้วย เพราะตอนที่พระศาสดาตรัส อนุญาตไว้นั้น ตรัสว่า “จงเล่าเรียน จงทรงจํา” คือ เป็นกระบวนการเรียนไว้จําไว้ด้วยความเข้าใจดีแล้ว พร้อมจะนําไปใช้

๕. เมตตปริตร พระพุทธเจ้าตรัสแนะให้ภิกษุทั้งหลายผู้จะอยู่บําเพ็ญสมณธรรม ในป่าให้ใช้วิธีแผ่เมตตาไปในสัตว์ทั้งปวง เพื่อรักษาตนด้วย เพื่อเป็นกรรมฐานด้วย
 
๖. รตนปริตร พระพุทธเจ้าตรัสสอนที่กรุงเวสาลี (ซึ่งอรรถกถาเล่าว่า กําลังประสบ ภัย ๓ อย่าง คือ ทุพภิกขภัย ๑ อมนุสสภัย ๑ โรคภัย ๑ พวกอมนุษย์เข้ามา กินซากศพคนตายในกรุง แล้วไม่ยอมออกไป พระศาสดาตรัสสอนรัตนสูตรแก่ พระอานนท์ที่ประตูพระนครเวสาลี มีเหล่าพระราชกุมารลิจฉวี ทําปริตร (คือ จัดกําลังอารักขา, คุ้มครองป้องกัน ดังนั้นจึงเข้าใจไว้เสมอ ๆ ว่า “ปริตร” มิได้หมายถึงพระปริตที่สวดกันในบัดนี้เสมอไป)






ขอบคุณ : https://www.nirvanattain.com/บทความข่าวสาร/พระปริตร/พระพุทธปริตร.html
นิรนาม | พระปริตร | 27 มีนาคม 2563
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ