ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เร่งอบรมมรณสติ นึกถึงความตาย หัดตายก่อนตายจริง  (อ่าน 1141 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.



ปฏิสันถาร

ทหรา จ มหนฺตา จเย พาลา เย จ ปณฺฑิตา
สพฺเพ มจฺจุวสํ ยนฺติสพฺเพ มจฺจุปรายนา
ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งเขลา ทั้งฉลาด
ล้วนไปสู่อำนาจแห่งความตาย ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า


เมื่อเหลียวมองดูภัยต่างๆที่เกิดขึ้นในโลกเมื่อไม่นานมานี้ จะเห็นได้ว่ามีทั้งภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ จากอุบัติเหตุ และจากน้ำมือมนุษย์ เช่น แผ่นดินไหวในเนปาล น้ำท่วมใหญ่ในพม่า เครื่องบินโดยสารของสายการบิน ตริกานา แอร์ เซอร์วิส ตกบนภูเขาในอินโดนีเซีย การวางระเบิดที่บริเวณศาลพระพรหมเอราวัณ ย่านราชประสงค์ ในประเทศไทย เป็นต้น

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ก่อให้เกิดการบาดเจ็บ ล้มตาย สูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน นำความเศร้าโศกเสียใจมาสู่ผู้คนทั้งหลาย ทั้งที่เป็นญาติมิตรและมิใช่ญาติมิตร

แต่ในสิ่งที่เราเสีย ก็มีสิ่งที่เราได้ อย่างน้อยๆก็ได้เรียนรู้สัจธรรมที่ว่า สัตว์ทั้งปวงเกิดขึ้นมาแล้วต้องตายทั้งหมด บางคนตายตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กๆ บางคนตายตอนเป็นหนุ่มสาว บางคนก็ตายตอนแก่

@@@@@@@

พระนิพนธ์ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ใน “หนังสือสมเด็จพระญาณสังวรท่านสอน” ได้กล่าวไว้ความตอนหนึ่งว่า

    “...ความตายเกิดขึ้นได้กับทุกคนทุกหนทุกแห่งทุกเวลานาที พุทธศาสนสุภาษิตกล่าวว่า “เมื่อสัตว์จะตาย ไม่มีผู้ป้องกัน” และ “จะอยู่ในอากาศ อยู่กลางสมุทร เข้าไปสู่หลืบเขา ก็ไม่พ้นจากมฤตยูได้ ประเทศคือดินแดนที่มฤตยูจะไม่รุกรานผู้อยู่ไม่มี”
    เราจะถูกมฤตยูรุกรานเมื่อไหร่ที่ไหน เราไม่รู้ หายใจออกครั้งนี้แล้ว เราอาจไม่ได้หายใจเข้าอีก เมื่อถึงเวลาตาย ไม่มีผู้ใดจะผัดเพี้ยนได้ ไม่มีผู้ใดจะช่วยได้...

...ท่านสอนให้เร่งอบรมมรณสติ นึกถึงความตาย หัดตายก่อนตายจริง จุดมุ่งหมายสำคัญของการหัดตายก็คือ เพื่อปล่อยใจจากสิ่งทั้งหลาย ก่อนที่จะถูกความตายบังคับให้ปล่อย

...ทุกคนจะต้องตาย และจะตายในเวลาไม่นาน คนไม่ได้อายุยืนเพราะทรัพย์ จะทำทุกวิถีทางแม้ที่แสนชั่วช้าโหดร้าย เพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์ทำไมเล่า ความโลภโดยไม่มีขอบเขตนั้นเป็นทุกข์หนักนัก ตนเองทุกข์เพราะความโลภอยากได้ แล้วก็แผ่ความทุกข์เดือดร้อนไปถึงคนอื่นอย่างน่าอเนจอนาถ…

...ผู้เบียดเบียนเขา แม้จะได้สิ่งที่มุ่งได้ แต่ผลที่แท้จริงอันจักเกิดจากกรรม คือ การเบียดเบียน ที่ได้ประกอบกระทำลงไปนั้น จักเป็นทุกข์โทษแก่ผู้กระทำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
   กรรมนั้นให้ผลซื่อสัตย์นัก เหมือนผลของยาพิษร้ายแรง กรรมนั้นเมื่อทำแล้ว ก็เหมือนดื่มยาพิษร้ายแรงเข้าไปแล้ว จักไม่เกิดผลร้ายแก่ชีวิตและร่างกายย่อมไม่มี ย่อมเป็นไปไม่ได้ ถ้าเป็นกรรมดีก็จักให้ผลดี ถ้าเป็นกรรมชั่วก็จักให้ผลชั่ว
   เราเป็นพุทธศาสนิกชน นับถือพุทธศาสนา พึงมีปัญญาเชื่อให้จริงจังถูกต้องในเรื่องกรรม และการให้ผลของกรรมเถิด จักเป็นสิริมงคล เป็นความสวัสดีแก่ตนเอง…”


@@@@@@@

พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย พึงน้อมนำหลักธรรมคำสอนนี้ขององค์สมเด็จพระสังฆราชไปพิจารณาและประพฤติปฏิบัติเถิด แล้วจะเกิดผลเป็นที่อัศจรรย์ของชีวิต





ขอขอบคุณ :-
บทความจาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 177 กันยายน 2558
Dhamma and Life > ธรรมลีลา > ปฏิสันถาร
https://mgronline.com/dhamma/detail/9580000098874
เผยแพร่ : 2 ก.ย. 2558 ,09:46 | โดย : MGR Online
ภาพจาก pinterest
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 26, 2025, 06:10:08 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ