ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ความเชื่อเรื่อง “สีมงคล” ประจำวัน ในงานประพันธ์ของ “สุนทรภู่”  (อ่าน 923 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29338
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
 :49: :49:

ความเชื่อเรื่อง “สีมงคล” ประจำวัน ในงานประพันธ์ของ “สุนทรภู่”


หุ่นขี้ผึ้งสุนทรภู่ ที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย จังหวัดนครปฐม ประกอบกับฉากหลัง เป็นภาพประกอบเนื้อหา



 :96: :96: :96:

ความเชื่อเรื่อง “สีมงคล” ประจำวัน ในงานประพันธ์ของ “สุนทรภู่”

ความเชื่อเรื่อง “สีมงคล” ประจำวัน หรือการใส่เสื้อผ้าตาม “สีประจำวัน” ของคนไทย เป็นธรรมเนียมที่มีมาแต่โบราณ ด้วยเชื่อว่า สีของเสื้อผ้าอาภรณ์มีพลังในการสร้างสิริมงคลให้กับชีวิตมนุษย์ตามวันที่สวมใส่ ร่องรอยสำคัญของความเชื่อดังกล่าวปรากฏอยู่ในบทประพันธ์ สวัสดิรักษา ของ สุนทรภู่

สวัสดิรักษา หรือสวัสดิรักษาคำกลอน เป็นกลอนสุภาษิตที่ สุนทรภู่ ใช้ถวายการสอน สมเด็จเจ้าฟ้าอาภรณ์ พระเจ้าลูกยาเธอในรัชกาลที่ 2 ผู้เป็นศิษย์ศึกษาอักขรสมัยในสำนักสุนทรภู่ สันนิษฐานว่า แต่งเมื่อปลายรัชกาลที่ 2 ระหว่าง พ.ศ. 2365-2367

สุนทรภู่ได้กล่าวถึง “สี” ของ “ภูษาผ้าทรง” ที่ควรทรงในโอกาสไปรบทัพจับศึก หรือสีของชุดออกรบ ความว่า [เน้นคำโดยกองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม]



หุ่นขี้ผึ้งสุนทรภู่ ที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย จังหวัดนครปฐม


  “อนึ่งภูษาผ้าทรงณรงค์รบ  ให้ครบเครื่องเสร็จทั้งเจ็ดสี
    วันอาทิตย์สิทธิโชคโฉลกดี  เอาเครื่องสีแดงทรงเป็นมงคล

    เครื่องวันจันทร์นั้นควรสีนวลขาว  จะยืนยาวชันษาสถาผล
    อังคารม่วงช่วงงามสีครามปน  เป็นมงคลขัตติยาเข้าราวี

    เครื่องวันพุธสุดสีด้วยสีแสด  กับเหลือบแปดปนประดับสลับสี
    วันพฤหัสจัดเครื่องเขียวเหลืองดี  วันศุกร์สีเมฆหมอกออกสงคราม

    วันเสาร์ทรงดำจึงล้ำเลิศ  แสนประเสริฐเสี้ยนศึกจะนึกขาม
    หนึ่งพาชีขี่ขับประดับงาม  ให้ต้องตามสีสรรพ์จึงกันภัยฯ”


จึงเชื่อได้ว่า สมัยนั้น (รัชกาลที่ 2) มีธรรมเนียมของสีเสื้อผ้าประจำวันแล้ว หรือ ความเชื่อเรื่อง “สีมงคล” อย่างน้อย ๆ ก็ในหมู่ชนชั้นสูง เพราะชาวบ้านธรรมดาอาจไม่มีตัวเลือกเรื่องเสื้อผ้าสีต่าง ๆ กันนัก

ส่วนการระบุสีประจำวันในสวัสดิรักษา สุนทรภู่คงไม่ได้ทึกทักกำหนดขึ้นมาเองแน่ เพราะสีเหล่านี้ตรงกับความเชื่อเรื่อง “สีประจำกาย” ของเทพนพเคราะห์ ได้แก่

พระอาทิตย์ กายสีแดง,
พระจันทร์ กายสีนวล,
พระอังคาร กายสีม่วงคราม,
พระพุธ กายสีเขียว/เลื่อมแสด,
พระพฤหัส กายสีเลื่อมเขียวเหลือง,
พระศุกร์ กายสีเมฆหมอก,
พระเสาร์ กายสีดำ



อนุสาวรีย์สุนทรภู่ ณ ตำบลบ้านกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง


สีประจำกายเทพนพเคราะห์ ยังเป็นจุดตั้งต้นของสีประจำวันสมัยใหม่ที่เราคุ้นเคยกัน คือ วันอาทิตย์สีแดง วันจันทร์สีเหลือง วันอังคารสีชมพู วันพุธสีเขียว วันพฤหัสบดีสีแสด วันศุกร์สีฟ้า วันเสาร์สีม่วง จากการปรับโทนสีให้ชัดเจนและเป็นสากลยิ่งขึ้นในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5

ธรรมเนียมดังกล่าวเป็นที่แพร่หลายในราชสำนักเป็นลำดับแรก ภายหลังในสมัยรัชกาลที่ 6 ทรงมีพระราชกำหนดให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพาร ตลอดจนสุภาพชนแต่งกายด้วยสีตามวัน

เมื่อสมัยหลังเกิดโรงเรียน ประชาชนเข้าถึงการศึกษา ก็มีการสอนเรื่องสีประจำวันและให้นักเรียนท่องจำกันในโรงเรียน กลายเป็นจุดร่วมทางวัฒนธรรมและวิถีปฏิบัติของคนไทยจำนวนไม่น้อยเรื่อยมาถึงปัจจุบัน

อ่านเพิ่มเติม :-

    • เปิดสีมงคล “สาวชาววัง” นุ่งห่มสีประจำวันอะไรกันบ้าง?
    • “สีประจำพระองค์” ของพระมหากษัตริย์จักรีวงศ์ จากวันเสด็จพระราชสมภพ






อ้างอิง :-
- พระสุนทรโวหาร (ภู่). (2510). สวัสดิรักษาคำกลอน เพลงยาวถวายโอวาท และสุภาษิตสอนสตรี. พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ นางบุญสุทธิ์ ณ นคร. กรุงเทพฯ : ห้องสมุดดิจิทัลวัชรญาณ. (ออนไลน์)
- สถาบันไทยศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สีประจำวัน. วันที่ 29 กันยายน 2561. (ออนไลน์)

ขอขอบคุณ :-
ผู้เขียน : ธนกฤต ก้องเวหา
เผยแพร่ : วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2568
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 1 กรกฎาคม 2567
website : https://www.silpa-mag.com/culture/article_134762
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 09, 2025, 10:40:04 am โดย raponsan »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ