ความเชื่อเรื่อง “สีมงคล” ประจำวัน ในงานประพันธ์ของ “สุนทรภู่”
หุ่นขี้ผึ้งสุนทรภู่ ที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย จังหวัดนครปฐม ประกอบกับฉากหลัง เป็นภาพประกอบเนื้อหา
ความเชื่อเรื่อง “สีมงคล” ประจำวัน ในงานประพันธ์ของ “สุนทรภู่”
ความเชื่อเรื่อง “สีมงคล” ประจำวัน หรือการใส่เสื้อผ้าตาม “สีประจำวัน” ของคนไทย เป็นธรรมเนียมที่มีมาแต่โบราณ ด้วยเชื่อว่า สีของเสื้อผ้าอาภรณ์มีพลังในการสร้างสิริมงคลให้กับชีวิตมนุษย์ตามวันที่สวมใส่ ร่องรอยสำคัญของความเชื่อดังกล่าวปรากฏอยู่ในบทประพันธ์ สวัสดิรักษา ของ สุนทรภู่
สวัสดิรักษา หรือสวัสดิรักษาคำกลอน เป็นกลอนสุภาษิตที่ สุนทรภู่ ใช้ถวายการสอน สมเด็จเจ้าฟ้าอาภรณ์ พระเจ้าลูกยาเธอในรัชกาลที่ 2 ผู้เป็นศิษย์ศึกษาอักขรสมัยในสำนักสุนทรภู่ สันนิษฐานว่า แต่งเมื่อปลายรัชกาลที่ 2 ระหว่าง พ.ศ. 2365-2367
สุนทรภู่ได้กล่าวถึง “สี” ของ “ภูษาผ้าทรง” ที่ควรทรงในโอกาสไปรบทัพจับศึก หรือสีของชุดออกรบ ความว่า [เน้นคำโดยกองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม]
หุ่นขี้ผึ้งสุนทรภู่ ที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย จังหวัดนครปฐม “อนึ่งภูษาผ้าทรงณรงค์รบ ให้ครบเครื่องเสร็จทั้งเจ็ดสี
วันอาทิตย์สิทธิโชคโฉลกดี เอาเครื่องสีแดงทรงเป็นมงคล
เครื่องวันจันทร์นั้นควรสีนวลขาว จะยืนยาวชันษาสถาผล
อังคารม่วงช่วงงามสีครามปน เป็นมงคลขัตติยาเข้าราวี
เครื่องวันพุธสุดสีด้วยสีแสด กับเหลือบแปดปนประดับสลับสี
วันพฤหัสจัดเครื่องเขียวเหลืองดี วันศุกร์สีเมฆหมอกออกสงคราม
วันเสาร์ทรงดำจึงล้ำเลิศ แสนประเสริฐเสี้ยนศึกจะนึกขาม
หนึ่งพาชีขี่ขับประดับงาม ให้ต้องตามสีสรรพ์จึงกันภัยฯ”
จึงเชื่อได้ว่า สมัยนั้น (รัชกาลที่ 2) มีธรรมเนียมของสีเสื้อผ้าประจำวันแล้ว หรือ ความเชื่อเรื่อง “สีมงคล” อย่างน้อย ๆ ก็ในหมู่ชนชั้นสูง เพราะชาวบ้านธรรมดาอาจไม่มีตัวเลือกเรื่องเสื้อผ้าสีต่าง ๆ กันนัก
ส่วนการระบุสีประจำวันในสวัสดิรักษา สุนทรภู่คงไม่ได้ทึกทักกำหนดขึ้นมาเองแน่ เพราะสีเหล่านี้ตรงกับความเชื่อเรื่อง “สีประจำกาย” ของเทพนพเคราะห์ ได้แก่
พระอาทิตย์ กายสีแดง,
พระจันทร์ กายสีนวล,
พระอังคาร กายสีม่วงคราม,
พระพุธ กายสีเขียว/เลื่อมแสด,
พระพฤหัส กายสีเลื่อมเขียวเหลือง,
พระศุกร์ กายสีเมฆหมอก,
พระเสาร์ กายสีดำ
อนุสาวรีย์สุนทรภู่ ณ ตำบลบ้านกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยองสีประจำกายเทพนพเคราะห์ ยังเป็นจุดตั้งต้นของสีประจำวันสมัยใหม่ที่เราคุ้นเคยกัน คือ วันอาทิตย์สีแดง วันจันทร์สีเหลือง วันอังคารสีชมพู วันพุธสีเขียว วันพฤหัสบดีสีแสด วันศุกร์สีฟ้า วันเสาร์สีม่วง จากการปรับโทนสีให้ชัดเจนและเป็นสากลยิ่งขึ้นในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5
ธรรมเนียมดังกล่าวเป็นที่แพร่หลายในราชสำนักเป็นลำดับแรก ภายหลังในสมัยรัชกาลที่ 6 ทรงมีพระราชกำหนดให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพาร ตลอดจนสุภาพชนแต่งกายด้วยสีตามวัน
เมื่อสมัยหลังเกิดโรงเรียน ประชาชนเข้าถึงการศึกษา ก็มีการสอนเรื่องสีประจำวันและให้นักเรียนท่องจำกันในโรงเรียน กลายเป็นจุดร่วมทางวัฒนธรรมและวิถีปฏิบัติของคนไทยจำนวนไม่น้อยเรื่อยมาถึงปัจจุบัน
อ่านเพิ่มเติม :-
• เปิดสีมงคล “สาวชาววัง” นุ่งห่มสีประจำวันอะไรกันบ้าง?
• “สีประจำพระองค์” ของพระมหากษัตริย์จักรีวงศ์ จากวันเสด็จพระราชสมภพอ้างอิง :-
- พระสุนทรโวหาร (ภู่). (2510). สวัสดิรักษาคำกลอน เพลงยาวถวายโอวาท และสุภาษิตสอนสตรี. พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานฌาปนกิจศพ นางบุญสุทธิ์ ณ นคร. กรุงเทพฯ : ห้องสมุดดิจิทัลวัชรญาณ. (ออนไลน์)
- สถาบันไทยศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. สีประจำวัน. วันที่ 29 กันยายน 2561. (ออนไลน์)
ขอขอบคุณ :-
ผู้เขียน : ธนกฤต ก้องเวหา
เผยแพร่ : วันอาทิตย์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2568
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรก : เมื่อ 1 กรกฎาคม 2567
website :
https://www.silpa-mag.com/culture/article_134762