ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุใด.? แผ่นดินไหวในเมียนมาครั้งนี้ จึงรุนแรงอย่างมาก  (อ่าน 530 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29339
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.

ที่มาของภาพ, EPA , คำบรรยายภาพ, เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามค้นหาผู้รอดชีวิตที่ติดภายในซากอาคารที่พังเสียหายจากแผ่นดินไหวในกรุงเนปิดอว์ เมืองหลวงของเมียนมา


เหตุใด.? แผ่นดินไหวในเมียนมาครั้งนี้ จึงรุนแรงอย่างมาก และ 'รอยเลื่อนสะกาย' ส่งอิทธิพลอย่างไร.?

ทางการเมียนมาได้ประกาศภาวะฉุกเฉินหลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงซึ่งสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ขณะที่แรงสั่นสะเทือนที่รับรู้ได้ทั้งในไทยและพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนก็สร้างความเสียหายเช่นกัน

สำหรับในไทย มีหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร ที่แรงสั่นสะเทือนทำให้ตึกสูงที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างอย่างน้อย 3 แห่ง ได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ แผ่นดินไหวเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อยในประเทศเมียนมา โดยตั้งแต่ปี 1900 เป็นต้นมา พื้นที่ตอนกลางของเมียนมาประสบกับเหตุแผ่นดินไหวขนาดใหญ่เช่นนี้แล้วหลายครั้ง ตามรายงานของสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Geological Survey - USGS)

แผนที่ด้านล่างแสดงให้เห็นว่า แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวครั้งนี้รุนแรงมากเพียงใดในแต่ละพื้นที่ ทั้งในเมียนมา และในประเทศรอบข้างอย่างไทย จีน และอินเดีย



คำบรรยายภาพ, กราฟิกแสดงระดับความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันที่ 28 มี.ค. 2025 ที่สามารถรับรู้ได้ในหลายประเทศ


คำบรรยายภาพ, แผ่นดินไหวขนาดใหญ่มักเกิดขึ้นบริเวณรอยต่อของแผ่นเปลือกโลก (tectonic plates)


สาเหตุของการเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้คืออะไร ?

เปลือกโลกถูกแบ่งออกเป็นแผ่นเปลือกโลก (tectonic plates) หลายแผ่น และแต่ละแผ่นก็เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา

ประเทศเมียนมาตั้งอยู่บนจุดบรรจบของแผ่นเปลือกโลกหลายแผ่น ซึ่งทำให้เมียนมากลายเป็นภูมิภาคที่มีการเคลื่อนไหวทางธรณีวิทยาอย่างสูง

USGS ระบุว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 มี.ค.) เป็นผลจาก รอยเลื่อนตามแนวระดับ (strike-slip fault) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อแผ่นเปลือกโลกอินเดียและแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียเคลื่อนผ่านกัน

"เมียนมาตั้งอยู่บน... ด้านข้างของอนุทวีปอินเดีย ผลก็คือ เรามีแผ่นเปลือกโลกอินเดียเคลื่อนตัวชนแผ่นยูเรเชีย ซึ่งได้สร้างเทือกเขาหิมาลัยขึ้นมา และเมียนมาก็ตั้งอยู่ด้านข้างของแนวชนนั้น" แมททิว แบล็คเคตต์ รองศาสตราจารย์ด้านภูมิศาสตร์กายภาพและภัยธรรมชาติที่มหาวิทยาลัยโคเวนทรีของสหราชอาณาจักร กล่าวกับบีบีซี

"เมื่อแผ่นเปลือกโลกบริเวณรอยเลื่อนเคลื่อนผ่านกัน และในเหตุแผ่นดินไหวที่รุนแรงขนาด 7.7 เราคาดว่ารอยเลื่อนดังกล่าวจะเคลื่อนตัวไปหลายเมตร ซึ่งปลดปล่อยพลังงานจำนวนมหาศาลออกมาและทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนที่ผู้คนรู้สึกได้บนพื้นดิน" ดร.ไบรอัน บัปตี นักแผ่นดินไหววิทยาจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาของอังกฤษ กล่าวเสริม



คำบรรยายภาพ, กราฟิกแสดงจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ทางตอนกลางของเมียนมา


USGS ระบุว่า จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ห่างจากเมืองสะกายออกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 16 กม. ใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ เมืองขนาดใหญ่อันดับสองของเมียนมา โดยจุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 10 กม.

มีรายงานว่า หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งแรกไม่กี่นาที ได้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเป็นครั้งที่ 2 ตามมา โดยมีขนาดความรุนแรงถึง 6.4 แมกนิจูด

ทั้งนี้ แผ่นดินไหวเกิดขึ้นได้ ณ หลายระดับความลึกตลอดแผ่นเปลือกโลก รวมถึงอาจเกิดลึกลงไปกว่านั้น

ข้อเท็จจริงที่ว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในจุดที่ค่อนข้างตื้น แปลว่ามันยิ่งสร้างความเสียหายรุนแรงขึ้น

"โดยเฉพาะในภูมิภาค 'แนวโค้งพม่า' (Burmese Arc) แผ่นดินไหวมักจะเกิดขึ้นในจุดที่ตื้น... แผ่นดินไหวมักจะเกิดขึ้นในระดับความลึกไม่เกิน 20 กิโลเมตร" ดร.บัปตี กล่าวกับบีบีซี

"นี่คือแผ่นดินไหวขนาดใหญ่มาก มันสามารถก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว และมีแนวโน้มที่จะรู้สึกได้จากระยะไกล" เขากล่าวเสริม



คำบรรยายภาพ, แผนที่แสดงเส้นรอยเลื่อนสะกาย


แผ่นดินไหวเกิดบ่อยแค่ไหนในเมียนมา ?

แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีอัตราการเกิดแผ่นดินไหวสูง

USGS ระบุว่า พื้นที่บริเวณนี้เคยเกิดแผ่นดินไหวตามแนวระดับขนาดใหญ่คล้าย ๆ กันมาแล้วหลายครั้ง โดยนับตั้งแต่ปี 1900 มีแผ่นดินไหวขนาด 7.0 แมกนิจูดหรือใหญ่กว่า จำนวน 6 ครั้ง เกิดขึ้นในระยะไม่เกิน 250 กม. จากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งล่าสุด

"ภายในเขตการเปลี่ยนรูปของเปลือกโลกที่กว้างใหญ่แห่งนี้ แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ครั้งอื่น ๆ รวมถึงแผ่นดินไหวขนาด 7.7 เมื่อปี 1988 ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วหลายสิบราย" USGS ระบุ

ในเดือน ม.ค. 1990 แผ่นดินไหวขนาด 7.0 ยังได้ทำให้อาคารพังทลายลงมา 32 หลังด้วย

เหตุผลประการหนึ่งที่ทำให้พื้นที่แห่งนี้มีแนวโน้มเกิดแผ่นดินไหวมากเป็นพิเศษ ก็คือ รอยเลื่อนสะกายที่พาดผ่านใจกลางของประเทศเมียนมาจากทิศเหนือลงมาทิศใต้ โดยชื่อรอยเลื่อนนี้ตั้งชื่อตามเมืองในเมียนมา

"ในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา มีแผ่นดินไหวขนาด 6 แมกนิจูดขึ้นไปทั้งสิ้น 14 ครั้ง เกิดขึ้นห่างจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาไม่เกิน 200 กิโลเมตร" ดร.บัปตีกล่าว

"แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดก่อนหน้านี้วัดได้ขนาด 7.6 แมกนิจูด ซึ่งใกล้เคียงกับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุด แต่เกิดขึ้นในปี 1946 ไปทางตอนเหนือของเมืองสะกายเล็กน้อย" เขากล่าวเสริม

เขาเตือนว่าอาฟเตอร์ช็อกนั้นเกิดขึ้นได้แน่นอน แต่ "โดยทั่วไปจะลดความรุนแรงลงค่อนข้างเร็วเมื่อเวลาผ่านไปหลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งหลัก"

แผ่นดินไหวครั้งนี้รู้สึกได้ชัดเจนมากในประเทศไทยซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของศูนย์กลางแผ่นดินไหวครั้งนี้ แต่ในบังกลาเทศรู้สึกได้น้อยกว่า และ ดร.บัปตี กล่าวว่า สิ่งนี้สามารถอธิบายได้ด้วยรอยเลื่อนสะกาย

"รอยเลื่อนสะกายวางตัวในแนวเหนือ-ใต้ ดังนั้น จึงเป็นไปได้ที่การสั่นสะเทือนจะมีความรุนแรงกว่าในทางทิศใต้ มากกว่าทางทิศตะวันตกของศูนย์กลางแผ่นดินไหว ซึ่งนั่นอาจเป็นสิ่งที่เรียกว่าผลกระทบจากการแผ่คลื่น (radiation effect)" ดร.บัปตีกล่าวเสริม โดยอ้างถึงข้อเท็จจริงที่ว่า คลื่นไหวสะเทือนที่ปล่อยออกมาจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวนั้น ได้รับอิทธิพลจากรูปทรงของรอยเลื่อนและการเคลื่อนที่ขณะที่มันแตกออก



คำบรรยายภาพ, กราฟิกแสดงมาตรวัดขนาดความรุนแรงของแผ่นดินไหวและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากความรุนแรงระดับต่าง ๆ พร้อมกับความถี่ของการเกิดแผ่นดินไหวแต่ละขนาด





Thank to : https://www.bbc.com/thai/articles/c0mwmglg84ro
29 มีนาคม 2025
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ