ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ดันนครพนม เมืองท่องเที่ยวสายมู ปลุกเสน่ห์ประเพณี-สายศรัทธา  (อ่าน 5 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29288
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.



ดันนครพนม เมืองท่องเที่ยวสายมู ปลุกเสน่ห์ประเพณี-สายศรัทธา

ททท. เร่งผลักดัน “นครพนม” สู่เมืองท่องเที่ยวสายศรัทธา ชูจุดขายงานประเพณี-วัฒนธรรมสุดยิ่งใหญ่ ดึงกลุ่ม Gen Y และนักท่องเที่ยวอาเซียน กระตุ้นเศรษฐกิจ-เพิ่มค่าใช้จ่ายในพื้นที่ เชื่อมโยงการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดสนุก “สกลนคร-นครพนม-มุกดาหาร” พร้อมปูทางสู่เวทีนานาชาติ

นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.เดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผลักดันเมืองน่าเที่ยวศักยภาพ “นครพนม” ชูจุดขายงานประเพณีและสินค้าท่องเที่ยวสายศรัทธา ผ่านโครงการ “ประเพณี ศรัทธา พาสนุก” นำเสนอ “ความสนุก” ผ่านกิจกรรมการท่องเที่ยวในจังหวัด พร้อมยกระดับประเพณีท้องถิ่นสู่ระดับนานาชาติ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวและเพิ่มค่าใช้จ่ายทางการท่องเที่ยวของภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ





นอกจากนี้ ททท.ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือมุ่งกระตุ้นการเดินทางเข้าสู่พื้นที่ เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในพื้นที่และฟื้นตัวด้านค่าใช้จ่ายต่อทริปของนักท่องเที่ยว ด้วยการเพิ่มค่าใช้จ่ายผ่านกิจกรรม เทศกาล งานประเพณี และสินค้าท่องเที่ยวสายศรัทธาความเชื่อ

ซึ่งในโอกาสที่คณะรัฐมนตรีได้ลงพื้นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งที่ 2/2568 ณ หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม จังหวัดนครพนม ภายใต้แนวคิด “เชื่อมโยงอนุภูมิภาคและจุดหมายการพักผ่อนริมโขง“

โดยลงพื้นที่กลุ่มจังหวัดสนุก (จังหวัดนครพนม สกลนคร และมุกดาหาร) จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่ ททท.ได้นำเสนอเมืองน่าเที่ยวศักยภาพ “นครพนม” ซึ่งมีความโดดเด่นด้านประเพณีและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมรองรับนักท่องเที่ยว อาทิ สนามบิน โรงแรม ร้านอาหาร เป็นต้น โดย ททท.เร่งส่งเสริมการตลาดในพื้นที่ผ่านการ Joint Promotion





โดยให้ผู้ประกอบการโรงแรมจัดแพ็กเกจห้องพักร่วมกับกิจกรรมท่องเที่ยวในชุมชน เพื่อเพิ่มค่าใช้จ่ายทางการท่องเที่ยว เสนอขายกิจกรรมกระตุ้นการพักค้างควบคู่กับงานประเพณี อาทิ กิจกรรมตักบาตรเช้า เวียนเทียน ล้อมวงกินพาแลง เป็นต้น มุ่งเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยว Gen Y ที่มีความสนใจท่องเที่ยวสายศรัทธา (สายมูเตลู) เนื่องจากเป็นช่วงวัยแห่งความหวัง มีกำลังในการใช้จ่ายพร้อมส่งต่อเรื่องราวการเดินทางแชร์ต่อให้บุคคลใกล้ชิด

นอกจากนี้ ในช่วงเดือนตุลาคมซึ่งตรงกับเทศกาลออกพรรษาถือเป็นช่วงไฮไลต์ของพื้นที่นครพนมและพื้นที่ใกล้เคียงอย่างสกลนครและมุกดาหาร โดย ททท.ได้ชูจุดขายไฮไลต์งานประเพณีและการท่องเที่ยวสายศรัทธา ได้แก่ ประเพณีไหลเรือไฟ จังหวัดนครพนม ประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง จังหวัดสกลนคร งานบวงสรวงบูชาองค์พญาศรีสัตตนาคราช ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี เป็นต้น พร้อมผลักดันประเพณีไหลเรือไฟสู่ระดับนานาชาติ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพในอนาคต ตลอดจนต่อยอดต้นทุนวัฒนธรรมสู่สากล





ทั้งนี้ เพื่อต่อยอดโอกาสทางการตลาด ททท.มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวชายแดนในจังหวัดนครพนม โดยเน้นการเชื่อมโยงวัฒนธรรมและธรรมชาติระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ ใช้ทุนทางวัฒนธรรมในการสร้างประสบการณ์ทางการท่องเที่ยว อาทิ

สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) เป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมต่อการเดินทางและการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ

อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ไทย-เวียดนาม และส่งเสริมการขาย โดยร่วมกับบริษัทนำเที่ยวในพื้นที่จัดทำเส้นทางท่องเที่ยว นครพนม-มุกดาหาร-สะหวันเขต (สปป.ลาว) เพื่อเพิ่มค่าใช้จ่ายทางการท่องเที่ยว เพิ่มวันพักแรมในพื้นที่ ตลอดจนดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวลาวและนักท่องเที่ยวเวียดนาม เป็นต้น

จากสถิติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในปี 2567 พบว่าจังหวัดนครพนมมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนรวมทั้งสิ้น 2,221,803 คน-ครั้ง แบ่งเป็นจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 2,041,424 คน-ครั้ง และผู้เยี่ยมเยือนชาวต่างชาติ 180,379 คน-ครั้ง ขณะที่มีจำนวนรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 4,093.39 ล้านบาท โดยมาจากผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 3,702.42 ล้านบาท ผู้เยี่ยมเยือนชาวต่างชาติ 390.97 ล้านบาท โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริปอยู่ที่ 1,842.37 บาทต่อคน อัตราเข้าพักเฉลี่ยร้อยละ 73.05







และในปี 2568 ตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม 2568 พบว่ามีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนรวมทั้งสิ้น 611,971 คน-ครั้ง (+4.66%) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 แบ่งเป็นจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 550,457 คน-ครั้ง (+2.82%) และผู้เยี่ยมเยือนชาวต่างชาติ 61,514 คน-ครั้ง (+24.68%)

ขณะที่มีจำนวนรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 994 ล้านบาท (+2.49%) โดยมาจากผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 891.70 ล้านบาท (+0.5 %) และผู้เยี่ยมเยือนชาวต่างชาติ 101.90 ล้านบาท (+23.92%) โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อทริปอยู่ที่ 1,623.67 บาทต่อคน อัตราเข้าพักเฉลี่ยร้อยละ 76.28






ขอบคุณ : https://www.prachachat.net/tourism/news-1802620
 วันที่ 30 เมษายน 2568 - 14:59 น.
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ