ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: "บิล เกตส์" ยืนยัน! มี 1 อาชีพที่ AI ไม่มีวันแย่งงานได้ ต่อให้ผ่านไปอีก 100 ปีก็  (อ่าน 71 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29359
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.



"บิล เกตส์" ยืนยัน! มี 1 อาชีพที่ AI ไม่มีวันแย่งงานได้ ต่อให้ผ่านไปอีก 100 ปีก็ตาม

มหาเศรษฐีระดับโลก "บิล เกตส์" ออกมายืนยัน มี 1 อาชีพ ที่ AI ไม่มีสามารถทดแทนได้ ต่อให้ผ่านไปอีก 100 ปีก็ตาม

ขณะที่ Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA มองว่า “ยุคของโปรแกรมเมอร์ได้ผ่านไปแล้ว” แต่ บิล เกตส์ กลับออกมายืนยันตรงกันข้ามอย่างหนักแน่นว่า "อาชีพโปรแกรมเมอร์" จะยังคงขับเคลื่อนโดยมนุษย์ต่อไป แม้จะผ่านไปอีก 100 ปีก็ตาม

บิล เกตส์ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง Microsoft ให้สัมภาษณ์กับสถานี France Inter ย้ำชัดว่า บทบาทของมนุษย์ในวงการเขียนโปรแกรมจะไม่มีวันหายไป เพราะงานนี้มีองค์ประกอบสำคัญที่ AI ไม่อาจลอกเลียนแบบได้ นั่นคือ

“การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ความคิดสร้างสรรค์ และวิจารณญาณอันละเอียดอ่อนในกระบวนการแก้บั๊ก (debug) หรือปรับแต่งอัลกอริทึม”

เกตส์ย้ำว่า “แม้จะผ่านไปอีก 100 ปี ผมก็ยังเชื่อว่า การเขียนโปรแกรมจะยังต้องอาศัยมนุษย์ 100%”

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาแสดงทัศนะเช่นนี้ ก่อนหน้านี้บิล เกตส์ก็เคยกล่าวว่าต่อให้อุตสาหกรรม AI ก้าวหน้าแค่ไหน มันก็จะเป็นเพียง “ผู้ช่วยทรงพลัง” เท่านั้น เพราะงานที่ซับซ้อนสูงอย่างชีววิทยาและพลังงาน ก็ยังยากที่ AI จะมาแทนมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์





อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ผู้นำในวงการเทคโนโลยีทุกคนที่เห็นด้วยกับบิล เกตส์

Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA เคยสร้างกระแสฮือฮาเมื่อออกมาเตือนคนรุ่นใหม่ว่า ไม่ควรเลือกอาชีพโปรแกรมเมอร์อีกต่อไป เพราะเชื่อว่าอีกไม่นาน AI จะเข้ามาทำงานแทนได้ทั้งหมด พร้อมแนะนำให้หันไปศึกษาด้านการเกษตร การผลิต หรือชีววิทยาแทน

ขณะเดียวกัน ความเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานก็เริ่มชัดขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อ Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce ยอมรับว่าบริษัทกำลังถกกันอยู่ว่า ปี 2025 นี้ ควรจะรับวิศวกรซอฟต์แวร์เพิ่มอีกหรือไม่ เพราะตอนนี้ AI สามารถทำงานแทนได้มากแล้ว

ส่วน Dario Amodei ซีอีโอของ Anthropic ก็ออกมาเตือนเช่นกันว่า AI อาจทำให้ งานออฟฟิศระดับล่าง ๆ หายไปครึ่งหนึ่ง ซึ่งสร้างความกังวลเรื่องการว่างงานในอนาคต

โดยรวมแล้ว AI ได้เปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมการทำงานอย่างมาก ด้วยการเข้ามาทำงานที่ซ้ำซากแทนมนุษย์ การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้แรงงานสามารถหันไปโฟกัสกับงานที่ซับซ้อนมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า หลายอุตสาหกรรมต้องเผชิญกับปัญหาการตกงาน





ด้าน Demis Hassabis ซีอีโอของ Google DeepMind มองอย่างสมดุลมากกว่า โดยเชื่อว่า AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ไม่ใช่เข้ามาแย่งงานมนุษย์ทั้งหมด เขายังเชื่อว่า จะมีอาชีพบางอย่างที่ AI ไม่มีทางแทนที่ได้ เช่น งานพยาบาล ที่ต้องอาศัยความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจจากมนุษย์ด้วย

บิล เกตส์เองก็มีมุมมองในทิศทางเดียวกัน เขาเชื่อว่า AI จะเป็นเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่ “ความคิดสร้างสรรค์” และ “ความสามารถในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์” ของมนุษย์ ยังคงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

สำหรับอาชีพโปรแกรมเมอร์ แม้คำพูดของเกตส์จะช่วยสร้างความสบายใจได้บ้าง แต่นี่ก็ถือเป็น “สัญญาณเตือน” ให้คนสายนี้ต้องหมั่นพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาและการคิดอย่างสร้างสรรค์อยู่เสมอ เพราะ 2 สิ่งนี้คือคุณค่าที่ AI ไม่มีวันทดแทนได้อย่างสมบูรณ์

    • "บิล เกตส์" ทำนาย AI จะแทนที่มนุษย์ใน 10 ปี! หมอ-ครูก็ไม่รอด เหลือแค่ 3 อาชีพ





ขอขอบคุณ
ข้อมูล : SOHA
ภาพ : ANDREA PATTARO / AFP
website : https://www.sanook.com/news/9817726/
19 ก.ค. 68 (19:27 น.)
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29359
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0
.



"บิล เกตส์" ทำนาย AI จะแทนที่มนุษย์ใน 10 ปี! หมอ-ครูก็ไม่รอด เหลือแค่ 3 อาชีพ

บิล เกตส์ ทำนายว่า “AI จะมาแทนที่มนุษย์ภายใน 10 ปี” แม้แต่แพทย์และครูก็ไม่รอด เหลือเพียง 3 อาชีพที่อยู่รอด

บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ คาดการณ์หลายครั้งว่า ใน 10 ปีข้างหน้า AI จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการทำงานของมนุษย์อย่างมหาศาล และอาจแทนที่อาชีพส่วนใหญ่ของมนุษย์ได้





เขาให้สัมภาษณ์ในรายการ The Tonight Show กับจิมมี่ ฟอลลอน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า ความก้าวหน้าของ AI อาจทำให้หลายอาชีพที่เคยต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ เช่น แพทย์และครู ไม่จำเป็นต้องพึ่งพามนุษย์อีกต่อไป

ตามรายงานจากสื่อต่างประเทศ บิล เกตส์ กล่าวในการสนทนากับศาสตราจารย์อาร์เธอร์ บรูคส์ แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดว่า ยุคใหม่นี้คือ "ยุคแห่งปัญญาเสรี" (Free Intelligence) เขาเชื่อว่าด้วยความก้าวหน้าของ AI คำแนะนำทางการแพทย์และการศึกษาคุณภาพสูง จะกลายเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ฟรีและแพร่หลาย

AI จะเข้ามามีบทบาทในทุกมิติของชีวิต ตั้งแต่ยารักษาโรคและการวินิจฉัยขั้นสูง ไปจนถึงครู AI และผู้ช่วยเสมือนที่ใช้งานได้อย่างกว้างขวาง

บิล เกตส์ ระบุว่า AI จะสามารถเข้าใจหลักการสอนและแรงจูงใจของผู้เรียน ช่วยออกแบบหลักสูตร ประเมินการมีส่วนร่วมของนักเรียน ค้นหาจุดอ่อนในการเรียนรู้ และปรับการสอนแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ทุกคนก้าวหน้าไปพร้อมกัน

ในด้านการแพทย์ AI จะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากงานวิจัยและประวัติผู้ป่วยจำนวนมหาศาล เพื่อให้การวินิจฉัยที่แม่นยำและครอบคลุมกว่ามนุษย์

บิล เกตส์ เน้นว่า AI กำลังเปลี่ยนแปลงโลกอย่างรวดเร็วและลึกซึ้งจนแทบเป็นเรื่องน่ากลัว เพราะมันไม่มีขีดจำกัด เขาเคยเขียนในบล็อกว่า ได้ขอให้ OpenAI สร้างโมเดลที่สามารถทำคะแนนสูงสุดในข้อสอบชีววิทยา AP ของระดับมัธยมปลาย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 2-3 ปี แต่กลับสำเร็จภายในไม่กี่เดือน

ด้วยความก้าวหน้านี้ เขาคาดว่า AI อาจช่วยให้มนุษย์ทำงานเพียง 2-3 วันต่อสัปดาห์ และมีเวลามากขึ้นสำหรับกิจกรรมอื่นนอกเหนือจากงาน

แม้ว่า AI จะเข้ามาท้าทายหลายอาชีพ แต่เกตส์ชี้ว่า บางงานอาจไม่มีวันถูกแทนที่ เช่น กีฬาที่ผู้คนอยากดูนักกีฬาจริงลงแข่งแทนหุ่นยนต์





3 อาชีพที่น่าจะอยู่รอดในยุค AI ครองโลก

บิล เกตส์ เชื่อว่ามี 3 อาชีพที่น่าจะอยู่รอด อย่างน้อยก็ในตอนนี้ ได้แก่

    1. โปรแกรมเมอร์ – สถาปนิกแห่ง AI

เกตส์ระบุว่า ผู้ที่สร้างระบบ AI คือกลุ่มที่มีโอกาสรอดมากที่สุด แม้ AI จะก้าวหน้าอย่างมากในการเขียนโค้ด แต่ยังขาดความแม่นยำและทักษะในการแก้ปัญหาที่จำเป็นต่อการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อน

"นักพัฒนาโปรแกรมยังคงมีบทบาทสำคัญในการดีบั๊ก ปรับปรุง และผลักดัน AI ให้ก้าวไปข้างหน้า"

    2. ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน – ผู้คุมพลังงานของโลก

พลังงานเป็นระบบที่กว้างและซับซ้อนเกินกว่าที่ AI จะจัดการได้เอง ไม่ว่าจะเป็นน้ำมัน นิวเคลียร์ หรือพลังงานหมุนเวียน ผู้เชี่ยวชาญยังจำเป็นต้องกำกับดูแล นำทางกฎระเบียบ และวางแผนโซลูชันที่ยั่งยืน เพื่อตอบสนองความต้องการพลังงานที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

"แม้ AI จะช่วยวิเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพได้ แต่ในด้านการตัดสินใจและบริหารวิกฤต มนุษย์ยังคงขาดไม่ได้"

    3. นักชีววิทยา – นักสำรวจแห่งชีวิต

นักชีววิทยา โดยเฉพาะในด้านการวิจัยทางการแพทย์และการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ อาศัยความคิดสร้างสรรค์ สัญชาตญาณ และการวิเคราะห์เชิงวิพากษ์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ AI เลียนแบบได้ยาก แม้ AI จะช่วยประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลและวินิจฉัยโรคได้ แต่ยังขาดความสามารถในการตั้งสมมติฐานใหม่ ๆ หรือก้าวกระโดดทางความคิดในงานวิจัย

"นักชีววิทยายังคงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาการแพทย์และทำความเข้าใจความซับซ้อนของชีวิต AI เป็นเพียงเครื่องมืออันทรงพลัง แต่ไม่ใช่สิ่งทดแทน"




ขอขอบคุณ
ข้อมูล : ETtoday
ภาพ : Roy Rochlin / Getty Images
website ; https://www.sanook.com/news/9770834/
28 มี.ค. 68 (11:15 น.)
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ